
10 วันหลังการเสียชีวิตของ น้ำตาล บุตรศรัณย์ ในช่วงเช้าวันนี้ (26 มิ.ย. 62) ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล พร้อมด้วย รศ.นพ.ปรัญญา สากิยลักษณ์ ได้ร่วมกันแถลงผลวินิจฉัยชิ้นเนื้อหลังโพรงจมูกของน้ำตาล บุตรศรัณย์ โดยระบุว่า
จากชิ้นเนื้อที่คณะแพทย์ศิริราชได้ตัดไปจากเยื่อบุโพรงจมูก เพื่อตรวจวินิจฉัยทางพยาธิวิทยาหาสาเหตุการเสียชีวิตนั้น พบว่าเข้าได้กับวัณโรค แต่ไม่พบเชื้อ คณะแพทย์จึงได้ทำการตรวจอีกวิธีหนึ่งที่เรียกว่า CPR ซึ่งจากผลการตรวจ CPR และผลการตรวจชิ้นเนื้อ บ่งชี้ว่ามีเชื้อวัณโรคหลังโพรงจมูก ซึ่งในกรณีนี้มีโอกาสติดต่อกันได้น้อย
ส่วนสาเหตุที่น้ำตาลมีเลือดออกจากปากและโพรงจมูกมากนั้น เป็นเพราะบริเวณหลังโพรงจมูกที่ติดเชื้อวัณโรค มีเส้นเลือดอยู่ เมื่อเกิดการอักเสบติดเชื้อจึงทำให้เส้นเลือดแตกและมีเลือดออกจำนวนมาก สำหรับสาเหตุนั้นแพทย์ไม่สามารถบอกได้ว่าน้ำตาลติดเชื้อวัณโรคจากอะไรและติดเชื้อมาตั้งแต่เมื่อไหร่ เพราะไม่แสดงอาการ
ทั้งนี้คณะแพทย์ศิริราชยังระบุด้วยว่า สถิติการป่วยวัณโรคในไทย ปี 60 พบคนป่วยวัณโรค 80,000 คน ส่วนอัตราการป่วยวัณโรคหลังโพรงจมูก 1 ใน 3 ไม่แสดงอาการ โดยส่วนใหญ่โรคนี้จะมีต่อมน้ำเหลืองที่คอโตหรือมีก้อนบริเวณหลังโพรงจมูก ซึ่งสามารถใช้ยารักษาให้หายขาดได้เมื่อตรวจพบ โดยแนะให้ตรวจร่างกายเป็นประจำทุกปี ทั้งยังให้สังเกตุความผิดปกติของร่างกายเพื่อให้ทันต่อการรักษาโรคด้วย
