ยิ้มสู้ บทเพลงพระราชนิพนธ์ของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ทรงพระราชทานเป็นขวัญกำลังใจต่อผู้พิการทางสายตาดังกระหึ่มขึ้นอีกครั้งท่ามกลางประชาชนนับพัน ณ ท้องสนามหลวงในงานคอนเสิร์ต “เสียงแห่งความจงรักภักดี Sounds of Love” เพื่อเทิดพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เนื่องในวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษา ผ่านการขับร้องและบรรเลงโดยวง ” Mahidol Jazz big band” วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล
ก่อนที่วง KU Band จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์จะขึ้นมาสะกดคนดูอีกครั้งจากการบรรเลงบทเพลงพระราชนิพนธ์ที่คุ้นหูและอยู่ในใจชาวไทยมายาวนานอย่าง “ชะตาชีวิต” “ในดวงใจนิรันดร์” “ยามเย็น” และ “ใกล้รุ่ง”
ส่วนวง CU Band จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นอกจากจะอัญเชิญบทเพลงพระราชนิพนธ์”มหาจุฬาลงกรณ์” ที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงพระราชทานให้เป็นเพลงประจำมหาวิทยาลัยมาขับร้องเพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณแล้ว ยังมีเพลง “แสงเทียน” บทเพลงพระราชนิพนธ์เพลงแรกขณะมีพระชนมายุเพียง 18 พรรษา ซึ่งแสดงให้เห็นถึงพระอัจฉริยภาพทางด้านดนตรีโดยแฝงเนื้อหาเรื่องสัจธรรมของชีวิตไว้ในบทเพลงนี้ด้วย
นอกจากการบรรเลงดนตรีผแล้วประชาชนในงานยังได้ชมการแสดงนาฏศิลป์ร่วมสมัยบัลเลต์มโนห์ราประกอบบทเพลงพระราชนิพรธ์ “กินรี สวีท” ซึ่งทรงพระราชนิพนธ์ขึ้นในปี2505 เป็นการบรรเลงดนตรีที่ไม่มีเนื้อร้อง แต่สามารถบอกเล่าเรื่องราวความรักออกมาได้อย่างโรแมนติก รวมถึงศิลปะการวาดภาพด้วยทรายเทิดพระเกียรติ โดยมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ผ่านบทเพลงในหลวงของแผ่นดิน เดินตามรอยเท้าพ่อ และคิงออฟคิง
และถึงแม้การแสดงคอนเสิร์ตจะจบลงไปแล้วเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา แต่ประชาชนยังสามารถเดินทางเข้าชมนิทรรศการ “พระบิดาแห่งศาสตร์ 9 แขนง” ได้โดยมีการนำรถไถ ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูรทรงขับ เมื่อปี 2504 มาจัดแสดง เครื่องบินฝนหลวง ที่ในหลวง รัชกาลที่ 9 ทรงประกอบพิธีเจิม หุ่นช้างสำคัญและทรงเครื่อคชาภรณ์ โดยในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จทอดพระเนตร เมื่อปีพ.ศ. 2555 และสิทธิบัตรผลงานทรัพย์สินทางปัญญาของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ทรงประดิษฐ์ มาจัดแสดงให้ชม ณ ท้องสนามหลวง ยาวไปจนถึงวันที่ 9 ธันวาคมนี้