ออกสตาร์ทกับหนุ่มฮอตวัย 16ปี “เจ้านาย–จินเจษฎ์ ” ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนคนโตของคุณพ่อ “เจ-เจตริน” และคุณแม่ “ปิ่น-เก็จมณี” ที่ทำให้เกิดปรากฎการณ์ “สะใภ้มโน” กันแบบทั่วบ้านทั่วเมือง ส่วนสาเหตุก็เป็นเพราะพกพาความหล่อ ใส บวกด้วยรอยยิ้มอันมีเสน่ห์ที่เห็นแล้วใจละลาย แต่ใช่ว่าจะมีดีแค่หน้า เพราะความสามารถยังรอบด้านอีกด้วย การันตีจากซิงเกิ้ลแรก “คนละชั้น” ที่เรตติ้งพุ่งกระฉูด เพราะปล่อยออกมาเพียง 6 เดือน ยอดวิวก็ทะยานเฉียด 100 ล้านวิว แหม ลูกฮอตซะขนาดนี้ คุณพ่อเจเลยทุ่มทุนจัดงานแฟนมิตติ้งใหญ่ ซึ่งผลตอบรับก็ดีเว่อร์ เพราะบรรดาเหล่าสะใภ้มโนแห่มารวมตัวกันแน่นจนคุณพ่อเจคุณแม่ปิ่นฉีกยิ้มกันไม่หุบเลยล่ะค่า ส่วนเรื่องค่าเหนื่อยของหนุ่มเจ้านาย ก็ไม่เบานะจ๊ะ เพราะต้องออกงานคู่กับพ่อเจ หรือไม่ก็แม่ปิ่นเท่านั้น เนื่องจากลูกชายเป็นคนพูดไม่ค่อยเก่ง ทำให้เรตค่าตัวพุ่งปรี๊ดเป็นแพ็คเกจอยู่ที่ 2 แสน 5 หมื่นบาท แต่ถ้าหากมีร้องเพลงโชว์หรือทำกิจกรรมภายในงานปุ๊บก็ต้องอัพเลเวลขึ้นเป็น 3แสนบาท
มาต่อกันที่ลูกทุ่งสาวสุดแซ่บจากจังหวัดร้อยเอ็ด เจ้าของฉายา “จ๊ะ คันหู 2” อย่าง “ลำไย ไหทองคำ” ที่ดังเป็นพลุแตกกับเพลง “ผู้สาวขาเลาะ” ที่ปล่อยออกมา 1 ปี ยอดวิวพุ่งพรวดไปกว่า 320 ล้านวิว กับเพลงจังหวะมันๆ โจ๊ะๆ กลิ่นอายหมอลำสไตล์เร้กเก้ บวกกับลีลาท่าเต้นอันเผ็ดร้อน และการแต่งกายที่เน้นเปิดมากกว่าปิดนั่นเอง และคำพูดที่ว่า ยิ่งฉาวยิ่งดัง จะใช้ได้กับกรณีของสาวลำไย เพราะหลัง นายกรัฐมนตรี ประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกมาตำหนิสาวลำไยว่า “เต้นเกือบโชว์ของสงวน” โดยมี “ระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช” ออกมาสับแหลกซ้ำอีกว่า “นามสกุล ไหทองคำ ฟังแล้ว อุบาทว์” ก็ยิ่งทำให้ความฮอตของสาวลำไยเพิ่มขึ้นไปอีก เพราะทุกวันนี้เธอมีงานโชว์ตัวยาวเป็นหางว่าวทะลักทะล้นไปถึงปีกลาง 61 แล้ว พร้อมรับค่าเหนื่อยเบาๆ ประมาณ 9 หมื่น ถึง 1แสน 2หมื่นบาท ต่อการโชว์ 1 ชั่วโมงพร้อมแดนซ์เซอร์ครบเซ็ต ซึ่งที่ผ่านมา สาวลำไย ก็วิ่งรอกรับงาน สูงสุดถึง 5 งานต่อวันก็เคยทำมาแล้ว นี่ยังไม่นับรวมกับค่าขนมจากการเป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าที่ติดต่อเข้ามาให้รับทรัพย์ราว 7 หลักต่อหนึ่งชิ้นอีกด้วย
ส่วนฝ่ายชายที่รุ่งพุ่งแรงไม่แพ้กัน ต้องยกให้ลูกทุ่งหมอลำมากฝีมือจากจังหวัดขอนแก่น “แซ็ค ชุมแพ” เจ้าของเพลงฮิต “คำแพง” ที่ปล่อยออกมา 1 ปี ยอดวิวพุ่งสูงเฉียด 400 ล้านวิว แถมยังทวีคูณความดังเมื่อพระเอกหน้าใส “เจมส์ จิรายุ” นำเพลงดังกล่าวมาฟีเจอริ่งเมื่อกลางปีที่ผ่านมา ถึงจะฮอตขนาดไหน แต่หนุ่มแซ็คก็ไม่คิดอัพค่าตัวถึงขนาดแพงหูฉี่ เพราะอยู่ที่ 75,000 บาทสำหรับการโชว์คนเดียว แต่ถ้าอัพเกรดโชว์ครบวงก็จะอยู่ที่ 90,000บาทเฉพาะในกรุงเทพมหานคร ส่วนงานในต่างจังหวัดก็จะอัพขึ้นไปอีก 5,000 บาทต่อ 100กิโลแล้วแต่ระยะทางของจังหวัดนั้นๆ แถมความปังของหนุ่มเซค ยังขยายวงกว้างไปถึงต่างประเทศ จนต้องเดินสายไปโชว์ตัวใน 6 ประเทศแถบยุโรปนานถึง 1 เดือนเต็ม เมื่อกลางปีที่ผ่านมาอีกด้วย
และมากันที่อีกหนึ่งคนบันเทิงที่ถือว่าปี พศ.2560 เป็นปีเปลี่ยนชีวิตของเค้าจากหน้ามือเป็นหลังมือ สำหรับนักร้องหนุ่ม “เป๊ก-ผลิตโชค ” ที่การันตรีความฮอตด้วยรางวัลขวัญใจมหาชน จากเวทีไนน์เอ็นเตอร์เทน อวอร์ด 2017 แต่ถ้ามองกลับไปถือว่าหนุ่มเป๊กที่ก็ไม่ได้เป็นดาวรุ่งหน้าใหม่แล้ว เพราะอยู่วงการมานานกว่า 15ปีแล้ว แต่ที่ผ่านมาถือว่าชื่อเสียงของหนุ่มเป๊กก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ระดับปานกลางไม่ได้พุ่งสูงติดท็อปเท็น จนปี 60 กระแสของ “เป๊ก-ผลิตโชค” ก็กลับมาฮอตเป็นพลุแตกอีกครั้ง รวมถึงการก่อกำเนิดกลุ่มแฟนคลับภายใต้ชื่อ #นุชes ที่รวมตัวกันสร้างความฮือฮาเมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา กับการควักกระเป๋าลงขันจัดเซอร์ไพร์สเด็ดฉลองวันคล้ายวันเกิดอายุครบ 33ปีของหนุ่มเป๊กด้วยการเช่าพื้นที่ห้างดัง จัดแสดงนิทรรศการรวบรวมภาพถ่ายของหนุ่มเป๊ก รวมถึงจัดเช่าจอ LED ขนาดมหึมา จัดฉายวีทีอาร์วันเกิดให้นักร้องขวัญใจอีก 11 จุดกลางห้างสรรพสินค้าชื่อดังทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด แต่ถ้าใครคิดว่าพอกลับมาดังปุ๊บหนุ่มเป๊กจะขยันรับทรัพย์เมคมันนี่ บอกเลยว่าคิดผิดเนื่องจากนักร้องคนดังมีปัญหาเรื่องของสุขภาพ เพราะป่วยด้วยโรคธาลัสซีเมีย จึงขอรับงานเพียงแค่ 1-2 งานต่อวันเท่านั้น แต่ถึงอย่างไรนั้นหนุ่มเป๊กก็มีคิวเดินสายทั่วประเทศยาวเหยียดไปแล้วถึงเดือนเมษายน ปี 61 แถมช่วงที่ผ่านมายังมีคิวทัวร์คอนเสิร์ตในอีกหลายประเทศทั้งเอเชียและยุโรป พร้อมทั้งงานพรีเซ็นเตอร์เบาๆ อีก 6 ตัว ซึ่งแต่ละตัวราคาค่าตัวก็ราวๆ 7 หลักกลางๆ ส่วนเรตราคาค่าตัวเวลารับงานก็ไม่ใช่เล่นนะจ๊ะ เพราะถ้าร่วมงาน 1 ชั่วโมงและภายในงานไม่มีสินค้าก็อยู่ราวๆ 130,000 บาท แต่ถ้ามีตัวสินค้าเข้ามาเกี่ยวข้องราคาก็อยู่ที่ 180,000 บาท (แต่ราคานี้จะไม่จับต้องสินค้านะจ๊ะ เพราะหนุ่มเป๊กเค้าไม่ได้เป็นพรีเซ็นเตอร์) ส่วนเรตราคางานร้องเพลงอ่ะหรอ ถ้าหนุ่มเป๊กไปร้องเพลงแบบเดี่ยวๆ กับแบ็กกิ้งแท็กก็อยู่ที่ประมาณ 150,000 – 170,000แต่ถ้าทางผู้จ้างงานขอแบบเล่นสดเต็มวงปุ๊บเรตราคาก็จะพุ่งพรวดกลายเป็น 195,000 บาท
นักร้องร่างอวบสายฮา “โอ๊ต ปราโมทย์ ปาทาน” ที่เอ่ยปากบอกว่า “เหมือนตายแล้วเกิดใหม่” เพราะอยู่ในวงการสายดนตรีทั้งเบื้องหน้าและเบื่อหลังมานานกว่า 10ปี แต่อยู่ดีๆ ชื่อเสียงของหนุ่มโอ๊ตกลับเงียบหายไปยาวนานถึง 2ปี ออกซิงเกิ้ลมากระแสก็เงียบ ไปร้องเพลงโชว์ตามงานจ้างก็เคยมีแฟนคลับนั่งดูเพียงแค่ 5 คน จนเจ้าตัวคิดถอดใจจะลาออกจากวงการบันเทิงหันไปช่วยธุรกิจครอบครัว แต่แล้วเมื่อต้นปี พศ.2560 ที่ผ่านมาชื่อของ “โอ๊ต ปราโมทย์” ก็กลับมาดังเปรี้ยงกับรายการออนไลน์ที่เจ้าตัวทำร่วมกับเพื่อนสนิทอย่าง “พิชญ์ กาไชย” และ “พลอย หอวัง” เพราะด้วยเอกลักษณ์ตลดสุดฮา ปนมุขทะลึ่ง ทำให้หนุ่มโอ๊ตเริ่มกลับมามีงานอีกครั้งและรับมากสุดถึงวันละ 5 งานเลยทีเดียว ซึ่งปัจจุบันขอบอกว่าหนุ่มโอ๊ตมีคิวงานว่างเพียงแค่ 2 วันต่อเดือน แถมยังมีคิวยาวเหยียดไปถึงเดือนมีนาคม ปี61 แล้วด้วย ส่วนเรื่องของค่าตัวตอนงานหดกระแสเงียบเคยลดลงไปอยู่ที่ 500,00 บาทต่องาน แต่ปัจจุบันกลับกลายเป็น 120,000 บาทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ปิดท้ายด้วยอดีตพระเอกหน้าตี๋ “กันต์ กันตถาวร” ที่เคยผ่านผลงานแสดงละครมาแล้วกว่า 20 เรื่อง แต่ก็ไม่ค่อยจะโดดเด่น โด่งเด่น เรตติ้งเปรี้ยง แต่ในปี 60 ที่ผ่านมาเมื่อหนุ่มกันต์ผันตัวมาเป็นพิธีกรในรายการประกวดร้องเพลงรายการหนึ่ง ก็ทำให้ชื่อของ “กันต์ กันตถาวร”กลับมาเป็นที่รู้จักและให้ความสนใจอีกครั้ง ทำให้เรตราคาค่าตัวจากอดีตที่เคยรับ 5-7 หมื่นบาทต่องานก็ก้าวกระโดดพุ่งปรี๊ดสูงถึง 130,000บาทต่องาน