“กุญแจซอล” คลอดลูกชาย ร่ำไห้กอดแม่สำนึกผิด !

หลังจากผ่านกระแสดราม่า จนถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์หนักมาก สำหรับนางเอกสาว  “กุญแจซอล – ป่านทอทอง” อดีตนางเอกวิกหมอชิต ที่ตัดสินใจออกจากบ้านไปอยู่กินและจดทะเบียนสมรสกับ นาวาอากาศโท ฌณัฏฐ์ เลิศพัฒนาไทย ได้คลอดลูกชายแล้ว เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน ที่ผ่านมาที่โรงพยาบาลภูมิพลฯ โดยตั้งชื่อให้ว่า ด.ช.เหนือเมฆ หรือชื่อเล่น “น้องเทคออฟ”   


ทันทีที่ทราบข่าวดี ทีมข่าว “ไนน์เอ็นเตอร์เทน” ได้ต่อสายตรงถึง “คุณแม่มุก – มุกดา บุญทอง” ที่ได้ไปเยี่ยมลูกสาวถึงโรงพยาบาล และได้เจอหน้าหลายชายครั้งแรก โดย “คุณแม่มุก” เปิดใจว่าที่มาหาลูกสาวที่โรงพยาบาลครั้งนี้ เพราะมีลางสังหรณ์ด้วยความรู้สึกของคนเป็นแม่ว่าลูกสาวน่าจะคลอดในช่วงนี้ อีกทั้งสามีของลูกสาวเป็นทหารอากาศ จึงน่าจะคลอดที่โรงพยาบาลภูมิพลฯ จนได้รับคำตอบจากพยาบาลว่า “กุญแจซอล”  มาคลอดลูกที่นี่จริง 

ทันทีที่แม่ลูกพบหน้ากัน ก็โผเข้ามาสวมกอดโดย “กุญแจซอล” ร้องไห้พร้อมเอ่ยปากบอกว่า “หนูคิดถึงแม่มากๆ” ทั้งยังเผยว่า ที่ผ่านมาเจอเรื่องราวมากมาย “คุณแม่มุก” เผยว่า ตอนที่เจอลูกสาว เธออยู่เพียงลำพัง โดยกล่าวว่าคิดถึงทุกคน อยากมาหาแม่แต่ยังไม่พร้อมและยังทำอะไรไม่ถูก  แต่พอได้เจอหน้ากันจึงได้คุยกันหลายเรื่อง ที่ผ่านมาไม่เชื่อแม่เองจึงต้องพบเจอกับสิ่งที่แม่เคยเตือนไว้หมดแล้ว  เข้าใจแล้วว่าแม่อยากให้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง ที่สำคัญ “กุญแจซอล” ยังยอมรับผิดและขอโทษคุณแม่ทุกอย่าง ที่ผ่านมายอมรับว่าได้อ่านข้อความที่ส่งผ่านไลน์ของคุณแม่ แต่ไม่รู้จะตอบอย่างไร  


คุณแม่มุกดา” กล่าวว่าเมื่อลูกสาวขอโทษ ตนพร้อมอภัยให้ทุกอย่างเพราะหวังดีกับลูกเสมอ นอกจากนี้คุณแม่ยังบอกอีกว่า ลูกสาวบอกกับตนว่าตอนตั้งท้องเหงามากและได้ลองออกไปหางานทำ แต่ก็หาไม่ได้ ลูกสาวพูดติดตลกแบบขำๆ ว่า “ก็ใครจะไปรับคนท้องเข้าทำงาน”    

การคลอดครั้งนี้เป็นการคลอดก่อนกำหนดเพราะว่า “กุญแจซอล” มีเลือดออก ทันทีที่คลอด “น้องเทคออฟ” ต้องเข้าห้องไอซียูทันที แต่ตอนนี้ทุกอย่างปลอดภัยดีแล้ว โดยคุณยายหมาดๆ เผยว่าทันทีที่เจอหน้าหลาน หลานก็ยิ้มและทำหน้าทะเล้นให้ 

ส่วนการเปิดใจกับสื่อมวลชนนั้น คุณแม่ของนางเอกลูก 1 บอกว่า “กุญแจซอล” น่าจะยังไม่พร้อม “คุณแม่มุกดา” ยังทิ้ง้ายเรื่องสามีของ “กุญแจซอล” ด้วยว่า มีโอกาสได้เจอกันที่โรงพยาบาลเพราะตามมาภายหลัง แต่ไม่ได้คุยกันมาก ไม่ได้มองหน้าลูกเขยเลย ทั้งยังบอกว่าไม่มีอะไรต้องแนะนำเพราะตัวเขาไม่เชื่อเรา แต่หวังว่าจะได้พูดคุยกับลูกสาวมากขึ้นกว่าเดิม 


เข้าชม 14 ครั้ง
ดูข่าวเพิ่มเติม