ทิศทางวงการเพลง 2558

ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาเทคโนโลยีและอินเตอร์เน็ตไร้สายกลายเป็นปัจจัยสำคัญทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคสื่อ โดยเฉพาะคนฟังเพลงเปลี่ยนแปลงไป เพราะใครๆ ก็สามารถค้นหาและเข้าถึงเพลงหรือมิวสิควิดีโอของศิลปินที่ชื่นชอบได้โดยตรงเพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส โดยไม่ต้องรอฟังจากคลื่นวิทยุหรือรายการเพลงทางโทรทัศน์อีกต่อไป


ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ค่ายเพลงและศิลปินเริ่มหันมาสนใจ และทำการตลาดทางโซเชียลเน็ตเวิร์คมากขึ้น ทั้งเฟสบุ๊คแฟนเพจ ทวิตเตอร์ ยูทู้บ  แอปพลิเคชั่น อย่างไลน์ออฟฟิศเชียล หรืออินสตราแกรม อย่างเข้มข้นยิ่งขึ้น

ศุภชัย นิลวรรณ ผู้บริหารอาร์เอสเผยว่า เล็งเห็นถึงความเป็นไปในเรื่องนี้ และเน้นใช้โชเชียลเน็ตเวิร์คเป็นช่องทางหนึ่งในการโปรโมทผลงานของศิลปินในค่ายมากว่า 2 ปีแล้ว ซึ่งในปี 2558 ก็ตั้งใจจะเพิ่มความถี่ให้มากขึ้น เพราะนอกจากเสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการประชาสัมพันธ์ทั่วไปแล้ว ยังรับรู้ฟีดแบ็คของกลุ่มเป้าหมายได้ทันที ซึ่งเป็นผลดีต่อคนทำเพลงอย่างยิ่ง


และเพราะคนฟังเพลงไม่น้อยเห็นว่าเพลงเป็นของฟรี ที่สามารถดาวน์โหลดฟังได้ทุกที่ทุกเวลา ทำให้ยอดขายแผ่นซีดีลดลงต่อเนื่องทุกปี จนค่ายเพลงแทบไม่มีกำไรจากการจัดจำหน่าย หลายค่ายจึงเน้นหันมาขายโชว์ หรือจัดคอนเสิร์ตเพื่อดูดเงินจากกระเป๋าแฟนเพลงแทน 

แต่เจ้าพ่อเพลงรัก “บอย โกสิยพงศ์” ผู้บริหารค่ายเลิฟอิส เผยว่าการจัดคอนเสิร์ตแต่ละครั้งนั้นไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะแค่ชื่อเสียงของตัวศิลปินอย่างเดียวอาจไม่gพียงพอ ยังต้องทุ่มทุนกับโปรดักชั่น แสง สี เสียง ต้องแน่น ที่สำคัญทีมงานและศิลปินต้องระดมสมองเพื่อให้ทุกโชว์ถูกใจผู้ชมมากที่สุด

แม้จะมองไม่เห็นกำไรเป็นกอบเป็นกำจากการขายผลงานเพลง ทั้งแผ่นซีดี และดิจิตอลดาวน์โหลด แต่คนทำเพลงก็ยังไม่หยุดสร้างสรรค์ผลงานที่ดีที่สุดออกมาหล่อเลี้ยงหัวใจผู้ฟัง


ผู้บริหารค่ายเพลงเด็กแนวอย่างสมอลล์รูม มองว่า การไม่หยุดยั้งพัฒนาตัวเองของศิลปินและทีมงาน คือฟันเฟืองสำคัญที่ขับเคลื่อนให้วงการเพลงเมืองไทยเดินหน้าต่อไปได้ แม้ช่วงนี้ศิลปินจะทำได้เพียงปล่อยเพลงออกมาทีละซิงเกิ้ล ไม่ใช่ทำทั้งอัลบั้มออกมาก็ตาม

ถึงค่ายเพลงจะเป็นเสมือนบ้านที่มั่นคงในการสร้างสรรค์งานเพลง ทั้งยังช่วยโปรโมท และเป็นตัวเเทนจำหน่ายให้กับเหล่าศิลปิน แต่ในความคิดของนักร้องสุดเซอร์ “ฮิวโก้ จุลจักร” และอีกหลายคนก็มองว่าการทำเพลงในยุคนี้ไม่จำเป็นต้องพึ่งพานายทุนอีกต่อไป หากมีความสามารถและความมุ่งมั่น ใครๆ ก็สามารถทำให้ผลงานของตัวเองเป็นที่รู้จักได้ไม่ยาก ซึ่งหากไม่ลงทุนเยอะ ก็จะไม่เจ็บตัว

ส่วนวงการเพลงไทยในปีแพะ จะสดใสขึ้นหรือไม่ นอกจากต้องพึ่งมันสมองและสองมือของตัวศิลปิน รวมทั้งค่ายเพลงแล้ว กำลังใจ และการสนับสนุนจากผู้บริโภค ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยผลักดันให้วงการเพลงเดินหน้าต่อไปได้  .-ไนน์เอ็นเตอร์เทน

 
 

 

 

เข้าชม 16 ครั้ง
ดูข่าวเพิ่มเติม