ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่ามีดาราหลายคนต้องล้มหมอนนอนเสื่อโดยมีสาเหตุมาจากงาน ที่เค้าตรากตรำทำมาต่อเนื่องหลายปี // ย้อนไปเมื่อหลายปีก่อน อดีตนางเอกนัยน์ตาหวาน เพชรา เชาวราษฏร์ ก็ต้องสูญเสียดวงตาคู่งามของเธอไป เพราะแพ้แสงไฟสปอตไลท์ในการถ่ายหนัง เพราะตอนนั้นเธอโด่งดังเป็นนางเอกเบอร์หนึ่ง มีผลงานหนังต่อเนื่อง และบทส่วนใหญ่มั้กจะเป็นสาวเจ้าน้ำตา เมื่อต้องร้องไห้หนักเข้า ทั้งน้ำตาจริง และน้ำตาเทียม แถมยังเจอไฟส่องเข้าอีก ก็เกิดอาการแพ้ ประกอบกับไม่มีเวลารักษาอย่างต่อเนื่อง ในที่สุดเธอก็ต้องสูญเสียการมองเห็นกลายเป็นคนในโลกมืดจนถึงทุกวันนี้ ทั้งที่ความงามและความสามารถยังอยู่ครบถ้วน
“โรค เบลล์ พัลซี” หรือ “โรคปลายประสาทคู่ที่ 7 อักเสบ” ก็เป็นอีกโรคที่คนในวงการบันเทิงเป็นกันบ่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็น พลอย เฌอมาลย์ ,โอ อนุชิต, ณัฐ ศักดาทร และจ๊ะ จิตตาภา ซึ่งมีอาการปากเบี้ยว ตาและคิ้วตก ไปครึ่งซีก ขยับปากมุมและคุมกล้ามเนื้อใบหน้าซีกนั้นไม่ได้ ถึงขนาดนั่งเฉยๆ น้ำลายก็ยืดแบบไม่รู้ตัว ให้เสียเซลฟ์กันเลยทีเดียว // ซึ่งสาเหตุของโรคนี้เกิดจากโหมงานหนัก พักผ่อนไม่เพียง วิธีการรักษาคือกินยา แล้วก็พักงานยาวเพื่อรักษาตัวให้หายดี เพราะเค้าต้องใช้หน้าตาในการทำมาหากินค่ะ
ส่วนโรคที่เป็นฝันร้ายของนักร้องมากที่สุดต้องยกให้ “โรคริดสีดวงเส้นเสียง” // ที่ผ่านมามีนักร้องหลายคนโดนโรคนี้เล่นงาน ทั้ง ตูน บอดี้สแลม , ดา เอ็นโดรฟิน, ปาน ธนพร และณัฐ ศักดาทร ซึ่งแต่ละคนก็อาการหนักเอาการอยู่ จากที่เคยร้องเพลงได้ จู่ๆ เสียงก็หายไป อย่าว่าแต่จะร้องเพลงเลย แค่พูดสื่อสารธรรมดายังไม่ค่อยจะไหว ต้องพักรักษาเส้นเสียงไม่ต่ำกว่า 1 เดือน แต่คนที่อาการหนักสุดๆ เรื่องเส้นเสียง คือนักร้องหนุ่ม ตุ้ย เกียรติกมล ที่ต้องเข้ารับการผ่าตัดถุงน้ำโตที่เส้นเสียง หลังผ่าตัดต้องงดใช้เสียงแบบห้ามพูดเลยเป็นเวลา 3 วันและต้องพักรักษาตัวอีกกว่า 2 สัปดาห์ค่ะ
ด้านนักร้องนักแสดงหนุ่ม ฟลุค จิระ บอกว่าโชคดีที่เค้าไม่เคยเป็นโรคเกี่ยวกับเส้นเสียง แต่กลับมีปัญหาเรื่องเข่าค่ะ เพราะก่อนหน้านี้คลั่งไคล้กีฬาฟุตบอลสุดๆ แต่ผลจากการโดนกระแทกบ่อยๆ ก็ทำให้เอ็นไขว้คู่หน้าแตกเป็นฝอย และหมอนรองเข่าบาดเจ็บ ต้องผ่าตัดหัวเข่าไปตามระเบียบค่ะ แต่กว่าจะได้ผ่าก็ต้องเคลียร์งานที่รับไว้อยู่นาน // ซึ่งหลังผ่าตัดหนุ่มฟลุคก็บอกกับตัวเองเลยว่าจะไม่โหมเล่นกีฬา หรือเห็นแก่เงิน โหมงานหนักเกินไป เพราะสุดท้ายก็ต้องเอาเงินที่ได้มา ไปจ่ายค่าหมอแพงๆ อยู่ดี
ฟากนางเอกสาวลูกครึ่ง ศรีริต้า เจนเซ่น ก็เคยทำงานหนักจนล้มหมอนนอนเสื่อบ่อยเหมือนกัน ซึ่งพอต้องหยุดงานก็ส่งผลกระทบต่องานอยู่ดี เธอจึงเลือกรับงานแต่พอเหมาะ และหาเวลาไปเที่ยวพักผ่อนมากขึ้น