เรื่องแรกก็นี่เลยครับ เรื่องสีผิว ที่ดูเหมือนว่าการที่คนผิวสีลุกขึ้นมาบอยคอตงานออสการ์ปีนี้ จะได้ผลอยู่เหมือนกัน เพราะเรทติ้งผู้ชมการถ่ายทอดสดการประกาศผลเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา อยู่ที่ 34.3 ล้านคน ซึ่งถือว่า เป็นเรทติ้งผู้ชมงานออสการ์ที่น้อยสุดในรอบ 8 ปีเลยทีเดียว และแม้เรทติ้งผู้ชมทางทีวีจะตก แต่กลับสร้างสถิติในโลกออนไลน์ เมื่อชัยชนะครั้งแรกบนเวทีออสการ์ของ พระเอกลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ เป็นที่พูดถึงในสื่อโซเชียล อย่างล้นหลาม โดยเฉพาะในทวิตเตอร์ ที่มีคนคอมเม้นท์เรื่องนี้ ทะลุ 4 แสน 4 หมื่นครั้งภายในเวลาแค่ 1 นาที เช่นเดียวกับ ทางเฟซบุ๊ค ที่มีคนแห่ยินดีให้พระเอกลีโอนาร์โด กับการล้างอาถรรพ์ออสการ์มากที่สุดครับ
ส่วนผู้ชนะอีกคนที่เป็นประเด็นในสังคมออนไลน์เหมือนกัน ก็คือ นักร้องนักแต่งเพลงชื่อดัง แซม สมิธ ที่ขึ้นรับรางวัล เพลงประกอบภายพนตร์ยอดเยี่ยม จาก Writing’s On the Wall พร้อมออกตัวแรงบนเวทีว่า เขาเป็นเกย์ที่เปิดตัวกับสังคมคนแรกที่ขึ้นรับรางวัลออสการ์ จนโดนวิพากย์วิจารณ์อย่างหนัก เพราะหลายคน ยืนยันว่า แซม ไม่ใช่เกย์คนแรกที่ประสบความสำเร็จบนเวทีออสการ์แน่นอน อย่างน้อย ก็มี มือเขียนบท ดัสติน แลนซ์ แบล็ค จากหนังเรื่อง Milk ที่แสดงตัวชัดเจนว่า เป็นชาวสีม่วง และคว้าชัยมาครองเมื่อปี 2009 ทำเอา แซม ต้องออกมาทวิตข้อความแก้เก้อว่า จริงๆ สิ่งที่เขาอยากสื่อไม่ใช่เรื่องว่าเขาเป็นคนที่เท่าไร เพียงแต่อยากเรียกร้องสิทธิให้ชาวรักร่วมเพศก็เท่านั้น ทั้งยังแสดงความยินดีย้อนหลัง กับ ดัสติน แลนซ์ แบล็ค อีกต่างหากครับ
แต่ไม่ใช่ว่า ทุกคนจะยินดีกับรางวัลบนเวทีออส การ์นะครับ เพราะอย่างน้อย มิชท์ ไวน์เฮ้าส์ พ่อของ นักร้องสาวผู้ล่วงลับ เอมี่ ไวน์เฮ้าส์ ก็แสดงออกชัดเจนว่าเค้าไม่ปลื้มที่หนังสารคดีเรื่อง Amy ที่ถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตของลูกสาวเค้า คว้ารางวัลภาพยนตร์สารคดียอดเยี่ยม ประจำปีนี้ ไปครอง ด้วยเหตุผลว่า นี่ไม่ใช่ความสำเร็จของ เอมี่ แต่เป็นความสำเร็จของผู้กำกับ asif Kapadia คนเดียว คนที่ทำให้ทุกคนเข้าใจในตัวลูกสาวเขาผิดๆ ที่สำคัญ การที่สารคดีเรื่อง AMYคว้าออสการ์ ก็ไม่สามารถทำให้เขาเปลี่ยนใจจากยี้หนังมาปลื้มหนังได้หรอก ตรงกันข้าม เขายังคงสาปส่งสารคดีเรื่องนี้อยู่ดีครับ
