จากหัวใจ “วิรัช อยู่ถาวร” ผู้ถวายงานด้านดนตรี

จากหัวใจ “วิรัช อยู่ถาวร” ผู้ถวายงานด้านดนตรี

 


 


 

 

อ.วิรัช อยู่ถาวร นักดนตรีอาวุโส เปิดห้องบันทึกเสียงย่านนนทบุรี เล่าประสบการณ์สุดภาคภูมิใจในการร่วมเล่นดนตรีกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9  โดยเริ่มต้นเล่าถึงครั้งแรกที่เป็นจุดเริ่มต้นการถวายงานทางดนตรีกับในหลวงว่า เป็นช่วงที่ตนทำงานเป็นผู้ควบคุมวงดนตรีที่สถานีโทรทัศน์ช่อง 3  ซึ่งสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี มีพระประสงค์จะจัดรายการให้คนบริจาคเงินเพื่อการกุศล โดยจะออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 จึงได้มีโอกาสนำวงดนตรีไปเล่นถวายให้คนบริจาคเพื่อการกุศล  ซึ่งในขณะถวายการซ้อมให้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี พระองค์ท่านโปรดว่า เล่นได้เพราะดี จากนั้นมาเวลาที่พระองค์ท่านไปทรงเพลงที่ไหน ก็ต้องยกวงตามท่านไปทุกหนทุกแห่ง



ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ อ.วิรัช มีโอกาสอันเป็นมงคลยิ่งในชีวิต คือได้ร่วมเล่นดนตรีกับนักดนตรีผู้มีความสามารถมากที่สุดคนหนึ่งของประเทศไทย ทั้งยังเป็นศูนย์รวมใจของคนไทยทั้งชาติ นั่นคือพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 โดยในครั้งนั้นได้เสด็จพระราชดำเนินแปรพระราชฐานไปตามหัวเมืองต่าง ๆ เพื่อเยี่ยมราษฎรของพระองค์ พอจะเสด็จพระราชดำเนินกลับกรุงเทพฯ พระองค์ท่านจะพระราชทานเลี้ยง ทำให้ อ.วิรัช ต้องยกวงดนตรีไปเล่นถวายทุกครั้ง จนกระทั่งมีงานภายในพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน เป็นงานเลี้ยงภายใน อ.วิรัช ก็ได้นำวงดนตรีไปเล่นถวายเหมือนทุกครั้ง ซึ่งหลังเสวยพระกระยาหารเสร็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ก็จะมาทรงดนตรีกับวง อ.ส. ของพระองค์ท่าน ซึ่งมีหลายครั้งที่วง อ.ส. ขาดคนเล่นดนตรี  อ.วิรัชและคณะนักดนตรี จึงขอพระราชทานอนุญาตเล่นดนตรีช่วยวง อ.ส. เพื่อให้ท่านทรงพระสำราญในการทรงดนตรีแต่ละครั้ง จากนั้นมาทุกครั้ง อ.วิรัช ก็ได้เล่นดนตรีถวายพระองค์ท่าน จนมีรับสั่งว่า "พวกผมเป็นพวกช่วยราชการ"


อ.วิรัช อยู่ถาวร ยังเผยถึงความทรงจำที่ตราตรึงในใจมาจนบัดนี้ ถึงครั้งแรกที่ได้แสดงดนตรีร่วมกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่า "ครั้งนั้นเป็นงานอะไรสักอย่างผมจำไม่ได้ ที่อยู่ในสวนจิตรลดา เป็นงานเล็กๆ เป็นกันเอง ในห้องเล็กๆ  ผมก็เล่นดนตรี เสร็จแล้วพอพระองค์ท่านเสวยเสร็จ พระองค์ท่านก็หายไปสักครู่หนึ่ง  พอกลับมาอีกที พระองค์ท่านก็เอาแซกโซโฟนมาเป่าร่วมกับเรา  โอ๊ย… (ร้องไห้)  ผมปลาบปลื้มมาก ที่พระองค์ท่านมาทรงดนตรีร่วมกับเรา แล้วเสียงดนตรีของท่านไม่ใช่ธรรมดาท่านเป่าแซกโซโฟน ไม่ใช่เสียงแซกโซโฟนที่เราเคยได้ยินจากนักดนตรีไทยทั่วไปที่เราเคยเล่นด้วยกันนะครับ"

พระปรีชาสามารถทางด้านดนตรีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 นั้น   อ.วิรัช อยู่ถาวร ผู้ที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ตติยจุลจอมเกล้าวิเศษ จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อปี พ.ศ.2550 กล่าวว่า "นักดนตรีระดับโลกก็ยังเคยพูดไว้ว่า ถ้าพระองค์ท่านไม่เป็นกษัตริย์ ก็สามารถเป็นหัวหน้าวงดนตรีได้สบายๆ พระองค์ท่านทรงดนตรีกับนักดนตรีระดับโลกมากมาย มาเมืองไทยที ก็ต้องไปเล่นถวายพระองค์ท่าน ซึ่งพระองค์ท่านก็ทรงดนตรีกับนักดนตรีระดับโลกได้มากมาย แสดงให้เห็นว่าพระองค์ท่านมีความสามารถด้านดนตรีมาก"

เมื่อถามว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเคยตรัสอะไรกับนักดนตรีบ้างหรือไม่ อ.วิรัช เล่าถึงพระองค์ท่านด้วยแววตาที่เปี่ยมสุขว่า ท่านทรงเป็นกันเอง เวลาเล่นดนตรีเสร็จ ก็จะมาขอบใจ บางครั้งที่ได้เล่นอยู่ใกล้ๆ พระองค์ท่านก็ทรงถามว่า เล่นเครื่องดนตรีอะไรบ้าง เล่นแซกโซโฟนหรือเปล่า  "ผมคิดว่าทุกครั้งที่ท่านทรงดนตรี เป็นเวลาที่ท่านทรงพักผ่อนที่ดีที่สุด ท่านทรงงานหนักมาก เวลาเล่นดนตรีถือเป็นการ relax เป็นการพักผ่อนของพระองค์ท่านอย่างดี"

ส่วนเรื่องเพลงพระราชนิพนธ์นั้น อ.วิรัช เผยว่าเวลาที่พระองค์ท่านทรงดนตรีจะไม่ได้เล่นเพลงของพระองค์เอง จะเล่นเพลงที่ท่านโปรด เพลงแจ๊ส  เพราะท่านโปรดเพลงพวกนี้ ซึ่งการได้ร่วมเล่นดนตรีกับในหลวงนั้น นับว่าเป็นความภูมิใจอย่างมากที่สุด เป็นความสำเร็จสูงสุดของชีวิต อ.วิรัช กล่าวพร้อมน้ำตาแห่งความตื้นตันใจ  "พระองค์ท่านเล่นไม่ค่อยผิดหรอก  ส่วนมากตัวเราเองจะเล่นผิด เพราะหลายๆ อย่าง อาจจะมีความตื่นเต้น มันอดไม่ได้เรื่องตื่นเต้นเพราะเราอยู่กับพระองค์ท่าน มีอยู่งานหนึ่งที่ไปเล่น เราก็มีหนังสือโน้ตเพลงพระราชนิพนธ์แล้วก็เปิด  เสร็จแล้วคนที่ร้องเนี่ย ไม่ได้ร้องคีย์ตามโน้ตในหนังสือ เราก็ต้องมานั่งทดเอง เช่นในหนังสือเป็นคีย์C  แต่คนร้องเป็นคีย์ F อย่างนี้   เราก็ต้องทดว่าในนั้น C  เราก็ต้องเล่น F  ในนั้นเล่น G ก็ต้องเล่น C อะไรอย่างนี้  เราก็ทดไม่ค่อยทัน พอเราเล่นจบเพลง พระองค์ท่านก็มารับสั่งถาม เป็นไง งงคอร์ดเหรอ  อะไรอย่างนี้"

 

นอกจากนี้ อ.วิรัช อยู่ถาวร ยังเผยถึงเรื่องน่าประทับใจเมื่อครั้งร่วมเล่นดนตรีกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่า พระองค์ท่านเป็นนักคิด โดยยกเหตุการณ์เมื่อครั้งที่เคยไปเล่นดนตรีกับพระองค์ท่านที่พระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ จ.เชียงใหม่ ในขณะที่กำลังเล่นดนตรีกันอยู่ ลมแรงมาก โน้ตปลิวหมด พระองค์ท่านเลยรับสั่งถามว่าเครื่องไฟฟ้าที่ อ.วิรัช เล่น (อ.วิรัช เล่นเปียโนไฟฟ้า)  ใช้ไฟเท่าไร ทำเอาคนถูกตั้งคำถามถึงกับงง พระองค์ท่านจึงตรัสว่า "ไม่ใช่อะไรหรอก โบราณว่า เวลาเล่นดนตรีมักจะเรียกลม  เพราะฉะนั้นเราเล่นดนตรีเรียกลมมา  ลมก็พัด เรามีกังหัน ลมพัดให้กังหันหมุน กังหันหมุนก็มาปั่นไฟ  ปั่นไฟมาใช้กันเครื่องดนตรีเรา อย่างนี้เป็นต้น"  ซึ่งความคิดนี้ทำให้ อ.วิรัช ถึงกับอึ้งไปเลยทีเดียว  


 
เมื่อได้รับทราบข่าวการสูญเสียหลักใจของคนไทยทั้งชาติ อ.วิรัช เผยความรู้สึกด้วยความเศร้าสะเทือนใจว่า "เมื่อวาน (13 ต.ค.59) ผมร้องไห้ไม่รู้กี่รอบ ตื่นมาเช้านี้ ก็ยังร้องไห้อยู่ เป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของทุกคนของประเทศไทย"

โดยผลงานล่าสุดที่ อ.วิรัช อยู่ถวาร ได้ทำเพื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9  คือการรับหน้าที่ควบคุมการบันทึกเสียงเพลงพระราชนิพนธ์ ซึ่งเป็นโครงการของสำนักราชเลขาธิการ "เพราะว่าเวลาคนทั่วไปจะขอใช้เพลงพระราชนิพนธ์ จะต้องไปขออนุญาตจากสำนักราชเลขาฯก่อน  แล้วเขาก็จะเอาไปเล่นเองบ้างหรือจะเอาเพลงที่บริษัทต่างๆ ผลิตมาบ้าง ไปขอใช้เพลงเหล่านี้  ซึ่งเราก็จะมีการตรวจว่าเพลงเหล่านั้นถูกต้องมากน้อยแค่ไหน  ตรงกับต้นฉบับของพระองค์ท่านหรือเปล่า  ก็ส่วนใหญ่มักจะไม่ค่อยตรง มีผิดนิด ผิดหน่อย ทางสำนักราชเลขาธิการ เห็นว่าน่าจะทำเพลงพระราชนิพนธ์เป็นต้นแบบของท่านที่ถูกต้องที่สุด  ทั้งเนื้อร้อง ทั้งทำนอง ทั้งคอร์ดให้ถูกต้องที่สุด แล้วต่อไปก็ให้คนยึดถืออันนี้เป็นต้นฉบับ ตอนนี้กำลังผลิตอยู่ ใกล้จะเสร็จแล้วครับ คิดว่าสิ้นเดือนตุลาคม59 จะเสร็จแล้ว"


"ผมยังนึกไม่ออกนะครับว่าจะทำอะไรถวายพระองค์ท่าน ก็คงจะมีในฐานะนักดนตรีเพราะท่านทรงเป็นนักดนตรีด้วย แล้วท่านก็มีเมตตากับนักดนตรีมาก" อ.วิรัชกล่าวทิ้งท้ายการสนทนา

เข้าชม 287 ครั้ง
ดูข่าวเพิ่มเติม

ข่าวแนะนำ