ฝ่าวิกฤติครอบครัวได้เพราะพ่อหลวง “ตุ๊ก”ขอยึดมั่นเดินตามรอยตลอดชีวิต

เพียงเพราะความคิดของคุณพ่อบุญธรรม "สุธา นิติภานนท์" ที่อยากจะปลูกข้าวปลอดสารพิษไว้รับประทานเองภายในครอบครัวตามแนวพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ถือเป็นการจุดประกายให้ "ตุ๊ก ชนกวนันท์" อยากเดินตามรอยพ่อหลวง และคุณพ่อบุญธรรม ด้วยการผันตัวไปเป็นเกษตรกร ปลูกข้าว ในจังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งนอกจากจะได้ข้าวปลอดสารพิษไว้รับประทานเองแล้ว ส่วนที่เหลือยังได้นำออกจำหน่ายในราคาผู้ผลิต เพียงเพราะอยากแบ่งปันให้คนอื่นๆ ได้รับประทานข้าวปลอดสารพิษในราคาที่ย่อมเยา โดยไม่ได้คิดถึงผลกำไร อีกทั้งนาผืนนี้ยังเป็นสถานที่ในการเรียนรู้วิถีธรรมชาติของลูกๆได้ดีอีกด้วย

 

"ตุ๊กโชคดีที่คุณพ่อบุญธรรมศรัทธาและน้อมนำพระราชดำริและพระราชดำรัสในหลวงมาใช้ในชีวิตอยู่แล้ว ใช้แบบเข้าใจและเชื่อจริงๆ เพราะตัวตุ๊กเองคนเดียวคงทำไม่ได้ อย่างที่ทราบข้าวของเรา เราทำเองตั้งแต่กระบวนการปลูก ไปจนถึงการทำโรงสีไว้สีข้าวเอง ทำทุกอย่างเองหมด ซึ่งแน่นอนการทำโรงสีต้องลงทุนมาก หลายคนมักถามว่าเราทำเพื่ออะไร เพื่อใคร แต่สิ่งที่เราทำนั่นคือการอยู่แบบยั่งยืนตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง" 

 

ไม่เพียงแต่นำแนวทางพระราชดำรัสปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงมาเป็นแกนหลักในการดำเนินชีวิตเท่านั้น แต่ในช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดของครอบครัว ตุ๊ก ชนกวนันท์ ยังได้มองเห็นความเหนื่อยยาก ตรากตรำพระวรกายและคำสอนเรื่องการเป็นคนดีของในหลวง ทำให้คิดได้และสามารถผ่านมรสุมชีวิตช่วงนั้นมาได้ไม่ยาก

 

"ในช่วงที่เกิดวิกฤติในชีวิต ตุ๊กผ่านมาได้เพราะมองสิ่งที่ในหลวงทรงต้องแบกรับ เรื่องของเราเป็นเพียงขี้ผง ไม่มีเหตุผลหรืออะไรที่ทำให้เราผ่านไปไม่ได้เลย หากเรายึดมั่นเดินตามรอยพ่อ เราจะดำเนินชีวิตได้อย่างปลอดภัย เสียชีวิตไปโดยที่คนอื่นยังรักเรา  ทุกวันนี้ท่านอยู่ในหัวใจตุ๊กตลอดเวลา เหมือนเทวดาบนดินใครจะงามพร้อมขนาดนี้ เป็นพระมหากษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ เป็นพระราชาที่สมบูรณ์แบบ งดงามในทุกจริยวัตร ทุกหลักคำสอนของท่าน เรานำมาใช้ได้หมด ในทุกช่วงวัย กาลเทศะ เหตุการณ์เฉพาะหน้า"

 

ตุ๊ก ชนกวนันท์ ยังบอกถึงหลักความพอเพียงที่ยึดถือปฏิบัติ ว่าไม่ใช่แค่ความพอเพียงทางด้านวัตถุ แต่ยังมีความพอเพียงทางด้านจิตใจด้วย และถึงแม้อาชีพคนบันเทิงจะสามารถทำรายได้มากแค่ไหน แต่ตนก็ไม่คิดใช้เงินฟุ่มเฟือย ยกตัวอย่างเรื่องง่ายๆ เช่น การซื้อเสื้อผ้าของลูก ซึ่งทุกวันนี้น้องภูมิ ลูกชายคนเล็กไม่เคยซื้อเสื้อผ้าใหม่ เพราะสามารถใส่เสื้อผ้าเก่าของน้องแพรว พี่สาวได้เหมือนกัน เนื่องจากตนมองว่าเด็กโตไวเปลี่ยนไซส์เสื้อผ้าบ่อยอาจจะเป็นการสิ้นเปลือง 

 

เธอยังทิ้งท้ายด้วยว่า ตนจะขอยึดแนวทางแบบพอเพียงไปตลอดชีวิต และจะปลูกฝังไปจนถึงรุ่นลูกเหมือนกับที่ในหลวงเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับคนไทยทุกคน.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน