
จรดปากกาเขียนเนื้อเพลง “ขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป” ทั้งน้ำตา เพื่อถ่ายทอดออกมาจากหัวใจในฐานะประชาชนคนไทยที่ต้องใจสลายกับข่าวที่การเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และหวังว่าเพลงๆนี้จะทำให้ลูกหลานในวันข้างหน้าได้รับรู้เหตุผลว่า ทำไมคนไทยรักในหลวง รัชกาลที่ 9 ขนาดนี้ หลากหลายความรู้สึกทั้งตลอดระยะเวลาบีบคั้นตั้งแต่เริ่มแต่งเพลง รวมไปถึงความรู้สึกถึงการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ "บดินทร์ เจริญราษฎร์" หรือ "เป้ วงมายด์" ถ่ายทอดให้ฟังอย่างที่ไม่อาจทำใจได้
.
ความรู้สึกเมื่อรับรู้ถึงการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่
-เชื่อว่าไม่มีใครเตรรียมใจไว้ เราทุกคนรู้ เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องธรรมดา แต่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับพระองค์ท่าน คนไทยเหมือนหลงทางพร้อมกันทั้งประเทศ เราเสียพ่อพร้อมกัน ประเมินค่าความสูญเสียครั้งนี้ไม่ได้เลย
ตอนที่ทราบข่าวอยู่ที่ไหน ทำอะไร
-จำได้ว่าเพิ่งทำงานเสร็จ กลับมานอนได้สักพักก็ได้ยินเสียงสัญญาณโทรทัศน์ตัดเข้าไปที่้แถลงการณ์สำนักพระราชวัง ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมา ภาวนาขอให้สิ่งที่จะได้ยินเป็นข่าวดี แต่เมื่อสัญญาณภาพมาเป็นสีขาว-ดำ ผมจำได้ว่าตอนนั้นมันเหมือนกับใจผมตกไปที่เท้า เย็นไปหมดทั้งตัว หมดแรง อยากลุกขึ้นมาดูโทรทัศน์แต่ไม่ไหว รู้สึกถึงความสูญเสียว่าเป็นแบบนี้นี่เอง
ทำไมถึงรักในหลวง รัชกาลที่ 9
-มีเหตุผลอะไรที่เราต้องไม่รักในหลวงด้วย พระองค์ท่านครองราชย์มาตลอด 70 ปีพิสูจน์อยู่แล้ว ไม่มีกษัตริย์พระองค์ไหน ทรงงานหนักเท่าพระองค์ท่าน ยาวนานเท่าพระองค์ท่าน ลำบากเท่าพระองค์ท่าน ถ้าไม่รักในหลวงแล้วจะรักใคร
น้อมนำคำสอนใดของพระองค์ท่านมาปรับใช้ในชีวิต
-ตอนที่ผมยังเด็ก อาจจะยังไม่ค่อยใส่ใจ เมื่อพระองค์ท่านได้เสด็จสวรรคตแล้วถึงได้เข้าใจ เหมือนกับคนที่เรารัก เวลามีโอกาสที่เขายังอยู่เรากลับไม่ทำ พอตอนนี้ผมมีโอกาสได้ดูพระราชกรณียกิจ โครงการพระราชดำริ รวมถึงพระราชดำรัสของพระองค์ท่าน พระราชดำรัสตอนหนึ่งพูดเรื่องการทำความดี ละความชั่ว ผมได้น้อมนำมาใช้ตลอด การทำความดีนั้นยาก เพราะการทำความดีต้องอาศัยทั้งความเพียร ความพยายาม ความอดทน และไม่ใช่ทำครั้งเดียวจะออกมาเป็นผลความดีได้เลย ผิดกับการทำความชั่วที่ทำเพียงครั้งเดียวผลออกมากลับทวีคูณ ทำครั้งเดียวก็เป็นคนชั่วได้แล้ว เพราะฉะนั้นคนที่ทำความดีได้ จะต้องเป็นคนที่มีควาเพียร ความอดทน และความพยายาม พระองค์ท่านไม่เคยสอนให้เราเป็นคนเก่ง เพราะหากประเทศชาตินี้มีแต่คนดี ก็จะมีทั้งคนเพียร คนอดทน และคนพยายาม ซึ่งถ้ามีคนเหล่านี้ประเทศชาติจะเจริญแน่นอน
เพลง "ขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป" ใช้เวลาแต่งนานหรือไม่
-แต่งไม่นานราว 15 นาทีหลังผมกลับจากส่งเสด็จพระองค์ท่าน แล้วกลับมาบ้าน ในระหว่างที่โทรทัศน์ทุกช่องเปิดภาพพระราชกรณียกิจวนไปเรื่อยๆ ผมรู้สึกเหมือนภาพสมัยเด็กที่นั่งดูข่าวประราชสำนัก แต่เราไม่เคยเห็นประโยชน์ น่าเบื่อ ตอนนี้ทุกอย่างที่พระองค์ท่านทรงทำไว้ ทำให้เราเสียน้ำตา พระองค์ท่านทรงทำอะไรให้เราตั้่งเยอะแต่เรากลับไม่สนใจ ผมอยากเล่าเรื่องให้เด็กที่เกิดไม่ทันได้รับรู้ว่า ทำไมในหลวงถึงเป็นที่รักของประชาชนขนาดนี้
ความรู้สึกระหว่างที่แต่งเพลงนี้
-จริงๆจะเร็วกว่านี้ถ้าเกิดกระดาษที่ผมเขียนมันไม่เปียกเสียก่อน ผมเขียนไปร้องไห้ไป ทำเดโมไปก็ร้องไห้ไป บันทึกเสียงยิ่งยาก ต้องควบคุมอารมณ์ สติ ตลอดวเลา เป็นความรู้สึกสูญเสียและตื่้นตันในขณะเดียวกัน ตลอดชีวิตผมไม่เคยได้ถวายงานพระองค์ท่านเลย ผมจึงคิดไปเองว่าครั้งนี้เหมือนเราได้มีโอกาสถวายงานพระองค์ท่านแล้ว ถือเป็นเกียรติของวงตระกูล
ความยากง่ายในการแต่ง
-สำหรับผมมันง่ายมาก เราเห็นพระองค์ท่านมาตั้งแต่เด็กๆ ปีนี้ผมอายุ 29 ปีแล้ว ตั้งแต่เด็กคุณพ่อคุณแม่ให้ดูข่าวพระราชสำนักตลอด ไม่เคยมีวันไหนที่ในหลวงไม่ทรงงานเลย จึงไม่ยากเลยที่จะนำเอาเรื่องดีๆของคนๆหนึ่งมาเล่าให้ลูกหลานฟัง
รู้สึกอย่างไรเมื่อหลายคนชอบเพลงนี้
-ขอบคุณมาก ความตั้งใจผมไม่ได้อยากให้ออกมาเป็นเพลงดังหรือเพลงฮิต อยากให้คนอื่นรู้ ทำไมเรารักในหลวงเท่านั้น ผมแค่อยากเล่าเรื่อง เอาความรู้สึกของผมมาเล่าให้ฟัง
ทำไมถึงเลือกแสดงความอาลัยด้วยการแต่งเพลง
-เป็นอย่างเดียวที่ศิลปินทำได้ดีที่สุด และมีประโยชน์ที่สุด พระองค์ท่านทรงตรัสว่า จงทำอะไรก็ได้ให้มีประโยชน์ต่อประเทศชาติ ผมเป็นศิลปินก็มีหน้าที่สร้างความสุขให้คนในชาติด้วยการร้องและทำเพลง
จากนี้วางแผนการใช้ชีวิตไว้อย่างไร
-ผมขอเป็นคนดี ขอใช้ชีวิตนี้ให้มีประโชยน์กับประเทศชาติอย่างที่พระองค์ท่านเคยหวังไว้ หากความดีของผมสามารถช่วยสร้างประเทศชาติได้ ขอยกเป็นพระราชกุศลแด่ในหลวง รัชกาลที่ 9 ผมขอมีโอกาสทำดีให้ประเทศชาติบ้าง
มองคนไทยในเวลานี้อย่างไร
-ก้นบึ้งคนไทยรักกันอยู่แล้ว เราเป็นประเทศโอบอ้อมอารี แต่ด้วยสถานการณ์ต่างๆทำให้เรากลายเป็นคนเห็นแก่ตัว เห็นแก่ส่วนตน แต่เมื่อเราต้องรู้สึกถึงการสูญเสียพร้อมกัน ธาตุแท้ของเราก็ออกมา ผมอยากให้เป็นแบบนี้ตลอดไป จนกระทั่งวันที่ประเทศเรากลับมามีความสุขอีกครั้ง หากตอนนี้บ้านเรามันร้อน พ่อไม่อยู่ ไม่มีใครห้ามไม่ให้ลูกๆตีกันแล้ว การทะเลาะกันในบ้านเรารุนแรงขึ้นเรื่อยๆ อยู่ในบ้านเดียวกันใส่เสื้อคนละสีก็ตีกันแล้ว ทั้งที่ความจริงประเทศเไทยเรามีแค่ 3 สีเท่านั้น คือสีแดง สีขาว สีน้ำเงิน สีอื่นไม่มี เราผลักอกกันมานานพอแล้ว ถึงเวลาที่จะต้องกลับมากอดกันแล้วนะ.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน
เข้าชม 21 ครั้ง