“บอย”เดินตามรอยทฤษฎีพ่อของแผ่นดิน ผุดศูนย์การเรียนรู้เกษตรผสมผสาน จ.สุรินทร์

หลังได้ซึมซับการทำอาชีพเกษตรกร ผ่านโครงการ “พลังคนสร้างสรรค์โลก รวมพลังตามรอยพ่อของแผ่นดิน” มานานถึง 4 ปี ทำให้นักร้องหนุ่ม “บอย พิษณุ” ยอมรับจากหัวใจว่า นอกจากจะได้เรียนรู้และลงมือทำทุกอย่างแล้ว สิ่งหนึ่งที่สำคัญที่สุด คือการได้น้อมนำหลักเศรษฐกิจพอเพียง ตามแนวทางพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาเป็นแบบอย่าง เพราะพระองค์ทรงห่วงใย ทั้งเรื่องการจัดการ ด้านดิน,น้ำ และป่า  ทำให้ได้รู้ว่าทุกสิ่งที่ในหลวง รัชกาลที่ ๙ ทรงสร้างไว้ ล้วนส่งผลลัพธ์และมีคุณอนันต์ต่อกับพสกนิกรทั้งสิ้น 

 

และเพราะเล็งเห็นความสำคัญด้านเกษตรกรรม และอยากเจริญรอยตามพ่อหลวง "บอย พิษณุ" จึงตัดสินใจซื้อที่ดินจำนวน 3 ไร่  ที่จังหวัดสุรินทร์ เพื่อทำเกษตรกรรมอย่างจริงจัง พร้อมวางรากฐาน ทำให้เป็นศูนย์การเรียนรู้ให้กับคนรุ่นหลังต่อไป

 

 "ผมทำโครงการพลังคนสร้างสรรค์โลกฯ มา 4 ปีทำให้เล็งเห็นผลประโยชน์ที่คนไทยจะได้รับ ผมได้เห็นสิ่งใหม่ๆซึ่งมหัศจรรย์มากทั้งที่เป็นภูมิปัญญาชาวบ้าน แต่เมื่อบวกเข้ากับทฤษฎีใหม่ กลายเป็นหลักสูตรที่พวกเราทำได้ ผมเลยอยากทำบนที่ดินของตัวเอง ทำให้ชาวนาแถวนั้นได้เห็นว่า เราทำแล้วจะได้อะไร ตอนนี้ผมขุดหนองน้ำ ปลูกพันธุ์ไม้ระดับคลุมดิน ไปจนถึงระดับกลาง สัก 4-5 ปีที่ดินตรงนี้จะอุดมสมบูรณ์มาก บนที่ดินนี้จะเลี้ยงปลาไว้สำหรับกิน และขายถ้ามีเหลือ ปลูกผักสวนครัว ที่เก็บไปขายได้ทั้งเช้า-เย็น สร้างรายได้ให้กับเรา เพื่อให้เห็นว่าการทำเกษตรที่หลากหลายให้ทางรอดมากกว่าการปลูกข้าวอย่างเดียว ทฤษฎีของพ่อที่สอนมา ทำแล้วต้องบอกต่อ ตอนนี้ผมทำจริงจังนะเพียงแต่ไม่ได้มีเวลาลงไปทำร้อยเปอร์เซ็นต์ ซึ่งเรามีเครือข่ายที่จะทำให้ที่ดินตรงนั้นเป็นศูนย์การเรียนรู้ให้ได้ เป็นภูมิปัญญาที่จะให้ชาวบ้านได้เรียนรู้"

 

นักร้องคนเก่ง  ยังเผยอีกด้วยว่า สิ่งที่ตนตั้งใจทำนั้น ขอสัญญาจะทำอย่างต่อเนื่อง และใช้อาชีพดารานักแสดง เป็นกระบอกเสียงให้ประชาชนได้เรียนรู้การทำเกษตรกรรมอย่างจริงจังต่อไป

 

"ผมสัญญา และตั้งใจจริงๆที่จะสืบสานตามรอยพ่อของแผ่นดินต่อไป โครงการแบบนี้ไม่ได้สำเร็จภายใน 4-5 ปี แต่จำเป็นต้องใช้เวลา 10 ปีกว่าจะกระจายออกไป ทุกคนในเครือข่ายตั้งใจจะทำต่อไปเพื่อพ่อของเรา เพื่อคนรุ่นหลัง เราต้องกลับไปสู่สามัญ สู่ธรรมชาติที่เราผ่านมันมา ซึ่งคำว่าพอเพียงไม่ใช่ปลูกผักปลูกหญ้ากิน ไม่ใช่การมาเป็นเกษตรกรอย่างเดียว แต่สามารถใช้ได้กับชีวิตทุกคนทำได้ในแบบฉบับตัวเอง ตัวเองพอเพียง เพียงพอแบบไหนก็ทำไปแบบนั้น"