“จา”เผยดาราฮอลลีวูดชื่นชมในหลวง ร.๙ ปลื้มได้ร่วมงานผู้กำกับคิวบู๊ “หงจินเป่า”

เป็นอีกหนึ่งดาราจิตอาสา พระเอกนักบู๊ "จา พนม" ที่ชวนภรรยา "บุ้งกี๋ ปิยรัตน์" มาร่วมแจกขนมและอาหารให้กับพสกนิกรที่เดินทางมาเพื่อถวายบังคมเบื้องหน้าพระโกศพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บริเวณท้องสนามหลวง ซึ่งเจ้าตัวเผยว่า เชื่อว่าหัวใจของชาวไทยทุกคน และทั่วโลก ต่างโศกเศร้าและอาลัย รวมถึงต้องการทำสิ่งที่ดีที่สุดออกมาจากใจ ตนเองก็เช่นกันก่อนหน้านี้ได้มาร่วมเป็นจิตอาสาที่บริเวณท้องสนามหลวงหลายครั้ง เพียงแต่ไม่ได้พบสื่อมวลชนเท่านั้น 

 

"ตั้งแต่เล็กเกิดมาผมมีพระบรมฉายาลักษณ์พระองค์ท่านบนเหรียญบาทเป็นแรงบันดาลใจในการต่อสู้ เมื่อเจออุปสรรค ผมจะหยิบเหรียญบาทขึ้นมา และนึกถึงพระองค์ท่านเรื่องของเราก็จะกลายเป็นเล็กนิดเดียว แม้ในส่วนตัวผมยังจะไม่เคยเข้าเฝ้าหรือเคยถวายงานใดๆ"

 

จา พนม บอกด้วยว่าทุกครั้งที่เดินทางไปแสดงหนังที่ต่างประเทศจะพูดเสมอว่าตนมาจากเมืองไทยและมีในหลวง รัชกาลที่ ๙ เป็นแรงบันดาลใจ ซึ่งเพื่อนต่างชาติล้วนยกย่องในพระอัจฉริยภาพของพระองค์ท่านเช่นกัน 

 

"ผมเชื่อว่าชาวต่างชาติเองก็รักในหลวง เพราะผมได้เจอเพื่อนต่างชาติทุกคนล้วนยกย่องพระองค์ท่าน พวกเขาไม่มีโอกาส พวกเขาภูมิใจแทนประเทศไทย และคนไทยทุกคน ไม่ว่าจะเป็น วิน ดีเซล หรือ เจสัน สเตแธม เขามาเมืองไทย เขาบอกเราสุดยอดมาก ผมบอกได้เต็มปากว่าถึงเราเป็นประเทศเล็กๆ แต่มีพระมหากษัตริย์ยิ่งกว่าวีรบุรุษ แม้วันนี้เราสูญเสีย แต่อย่าเสียสูญ เราต้องตอบแทนพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านอย่างหาที่สุดมิได้ ทำหน้าที่ประขาชนคนไทยให้ดีที่สุด"

 

ในขณะเดียวกัน พระเอกนักบู๊ ยังอัพเดทถึงงานแสดงในตอนนี้ให้ฟังด้วยว่า ขณะนี้ได้ภาพยนตร์ที่ตนร่วมแสดง ทั้งภาพยนตร์เรื่องทริปเปิ้ล เอ็กซ์ ภาค 3 และภาพยนตร์ฮ่องกงเรื่องพาราด็อกซ์ ซึ่งได้ร่วมแสดงกับ หงจินเป่า และ กู่เทียนเล่อ โดยคาดว่าจะได้เข้าฉายในปีหน้า(2560)

 

"ในเรื่องพาราด็อกซ์ ผมได้ร่วมแสดงกับหงจินเป่า ซึ่งเขาได้ร่วมกำกับคิวบู๊ด้วย เป็นการร่วมงานกันเป็นครั้งที่ 2 หลังจากเมื่อ 20 ปีก่อนผมเคยร่วมงานในฐานะสตั๊นท์แมน โดยเรื่องนี้รับบทเป็นตำรวจไทย ได้แสดงความสามารถมวยไทย การได้ร่วมงานกับหงจินเป่า เขาเหมือนเป็นไอดอล เป็นครู ในการทำหนังแอ็คชั่น เราได้พูดคุยทำงานกันใกล้ชิดมาก เขาสไตล์กังฟู ผมสไตล์มวยไทยก็เอามาแลกเปลี่ยนกัน บางวันผมก็ทำอาหารไทยไปที่กองถ่ายให้ได้ชิมกัน"

 

"จา พนม" เผยด้วยว่าระหว่างนี้ยังคงมีงานแสดงในต่างประเทศเข้ามาเรื่อยๆ ส่วนภาพยนตร์เรื่องฟาสต์ 8 ตนไม่ได้ร่วมแสดงแล้ว เพราะคิวไม่ตรงกัน ส่วนงานแสดงในไทยยังไม่มีติดต่อเข้ามา ซึ่งตนไม่ได้เน้นว่าจะต้องไปแสดงหนังต่างแดนอย่างเดียว เพียงขึ้นอยู่กับจังหวะเวลา และหากจะสร้างภาพยนตร์อีกครั้งก็อยากที่จะทำเป็นภาพยนตร์นานาชาติที่สามารถเผยแพร่เอกลักษณ์ความเป็นไทยไปยังต่างแดนได้ด้วย.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน