นอกจากยาที่ต้องทานตามแพทย์สั่งแล้ว ยาใจอย่างครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นภรรยา และลูกที่เป็นแก้วตาดวงใจทั้งสองของ “เมฆ วินัย” วัย 50 ปี ก็ช่วยทำให้เมฆพร้อมจะต่อสู้กับโรคตุ่มน้ำพองที่ต้องรักษาตัวมานานนับปีด้วยอีกแรง ซึ่งขณะที่ไนน์เอ็นเตอร์เทนได้สัมภาษณ์เอ็กคลูซีฟเมฆที่บ้านพัก ในบางช่วงลูกสาว “น้องแมม” วัย 6 ขวบ ก็มากอดและหอมคุณพ่อเมฆด้วยความรัก ซึ่งเมฆและภรรยาได้เล่าย้อนให้ฟังว่า เมื่อปีที่แล้วช่วงแรกที่ป่วยตุ่มน้ำพองขึ้นหนักมาก ลูกๆ ทั้งสองก็จะเป็นอีกแรงช่วยดูแลคุณพ่อ ซึ่งก็ต้องอดทนทั้งพ่อและลูกที่ไม่สามารถกอดกันได้ เพราะมีอาการเจ็บจากตุ่มน้้ำพอง แต่ตอนนี้สามารถแสดงความรักได้ทุกอย่าง
.
เมฆได้เปิดใจถึงอาการป่วยล่าสุดกับไนน์เอ็นเตอร์เทนว่าตอนนี้อาการดีขึ้นมาก ไม่มีตุ่มเกิดขึ้นใหม่ เพียงแต่มีอาการบวมทั้งใบหน้า มือ และเท้า ซึ่งเป็นผลของการทานยา จากการที่เมฆได้ติดตามอาการกับคุณหมอที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์เมื่อวานนี้ ยังคงต้องทานยาสเตียรอยด์วันละ 4 เม็ดอย่างต่อเนื่อง และเฝ้าดูอาการว่าจะมีอาการใดเปลี่ยนแปลงหรือไม่ หากอาการดีขึ้น ไม่มีตุ่มขึ้นอีกอาจจะมีการลดปริมาณยา แต่เมฆเผยว่าห่วงเรื่องการปรับยาถ้าลดลงก็กังวลว่าตุ่มน้ำพองจะกลับมาอีกครั้ง เพราะที่ผ่านมาตนทรมานมามาก ไม่อยากจะกลับไปเป็นซ้ำเดิมอีกครั้ง
.
และผลของการทานยารักษาโรคตุ่มน้ำพองยังทำให้ภูมิคุ้มกันในตัวเองของเมฆต่ำลงกว่าคนปกติ จึงทำให้ต้องระวังตัวเองมากกว่าคนอื่นเป็น 2 เท่า หากไม่จำเป็นก็จะไม่ออกจากบ้าน และยังมีการซื้อเครื่องพ่นฆ่าเชื้อโรคมาไว้ ใช้ทั้งพ่นในบ้านและรถที่ต้องใช้ในการเดินทาง
.
ส่วนค่าใช้จ่ายในการรักษาตอนนี้หมดไป 2 ล้านกว่าบาท ซึ่งต้องใช้เงินเก็บที่มีมารักษาตัวเอง เมื่อช่วงที่อาการกำเริบหนักต้องใช้ยาทาบริเวณผิวหนังจำนวนมาก เดือนละ 300 หลอด แต่ตอนนี้บรรเทาลงไปได้เยอะ ยาที่เคยทานมากสุดวันละ 12 เม็ด แพทย์ก็ค่อยๆ ปรับลดมาเหลือวันละ 4 เม็ด
.
และเพราะการป่วยครั้งนี้ทำให้งานในวงการบันเทิงต้องสะดุด เมฆจึงหันมาทำธุรกิจคอลลาเจน เพื่อใช้เป็นรายได้หลักเพื่อเลี้ยงครอบครัว ซึ่งเป็นการขายผ่านช่องทางออนไลน์ ที่เมื่อเห็นรายได้ก็ทำให้ยิ้มขึ้นมาได้ เมฆยังบอกอีกว่าหากมีรายได้มากกว่านี้ตั้งใจจะบริจาคเงินให้โรงพยาบาลทุกเดือน รวมถึงนำเงินส่วนหนึ่งช่วยเหลือผู้ป่วยโรคตุ่มน้ำพอง ด้วยความเข้าใจดีกับความทรมานของโรค.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน