เน็ตไอดอลชื่อดัง “สิตางศุ์ บัวทอง” เจ้าของวลี “ส้มหยุด” สวมชุดไทยสีแดงเดินทางไปยังวัดหนองเต่า อำเภอหนองฉาง จังหวัดอุทัยธานี เพื่อชื่นชมภาพวาดรูปตัวเองที่เขียนอยู่บนผนังอุโบสถของวัดหนองเต่า ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ทั้งเชิงบวกและเชิงลบ เมื่อ จรัณภัตษญ์ (จะ-รัน-พัด) แก้วอ่ำ ศิลปินผู้วาดภาพได้สอดแทรกอิริยาบถของแม่สิตางศุ์ ที่สวมชุดไทยและชี้ผลส้ม สั่งให้ “ส้มหยุด” วลีเด็ดที่กำลังมาแรงในตอนนี้ เข้าไว้ในภาพจิตรกรรมฝาผนังโบสถ์ แล้วนำโพสต์ลงในโซเชียล จนมีชาวโซเชียลวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ถึงความเหมาะสม พร้อมกันนี้ยังมีการแนะนำให้ลบรูปนี้ทิ้งอีกด้วย
ด้านศิลปินผู้วาดภาพ เผยว่า ภาพแม่สิตางศุ์ เป็นรายละเอียดเล็กๆ ที่สอดแทรกไว้ ส่วนตัวชอบแม่สิตางศุ์ และได้ตั้งใจจะสื่อบ่งบอกถึงยุคสมัยของศิลปินที่เป็นผู้วาดภาพ ว่า การวาดภาพนี้ลงไปเพื่อหวังว่าในอนาคตข้างหน้าคนที่ย้อนดูภาพจะสามารถรับรู้ได้ว่าภาพนี้เคยเขียนในยุคสมัยที่แม่สิตางศุ์กำลังฮอต และโด่งดังในเรื่องของตำนานส้มหยุด และเทียบเคียงเรื่องเวลาได้ว่าอยู่ในช่วงยุคสมัยไหน การวาดภาพดังกล่าวไม่ได้คิดลบหลู่ หรือบิดเบือนพุทธประวัติแต่อย่างใด
หลังจากสิตางศุ์ได้ไปถึงวัดที่มีภาพวาดบนฝาผนัง ถึงกับกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ เมื่อได้เห็นภาพวาดบนฝาผนัง รวมทั้งเห็นสิ่งแวดล้อมและพบปะกับคนในชุมชนใกล้วัดหนองเต่ากับเปลี่ยนความคิด จากเดิมที่ไม่ซีเรียสเรื่องลบ หรือแก้ไขรูป กลับยืนยันจะไม่ยอมให้มีการแก้ไขภาพเด็ดขาด
“การเดินทางมาวัดนี้ลำบากมากเลย ตอนแรกที่เขาถามว่าถ้าจะแก้ไขรูปนี้ รู้สึกอะไรไหม ตอบว่าไม่รู้สึกนะ แต่ตอนนั่งรถมาวันนี้คืนคิวงานบ่ายเลย ระยะทางเข้ามาลำบากมาก ตอนเข้ามาก็หลงไปอีกหนองเต่าหนึ่งนั่งเข้ามาปวดหลังไปหมด แฟนคลับที่มารอก็มาจากนครสวรรค์ ฉันเปลี่ยนความคิดแล้วนะ ฉันยืนยันที่จะไม่ให้ลบรูปนี้ คือวัดนี้เป็นวัดเล็กๆ เป็นโบสถ์เล็กๆ ในชุมชนเล็กๆ ในจังหวัดอุทัยธานีนี่แหละค่ะ แล้วภาพที่ชี้ส้ม ทำให้พุทธศาสนิกชนจากจังหวัดต่างๆ ได้มองเห็นวัดนี้ เขามาเพื่อดูรูปนี้ หรือมาเพื่ออะไรก็ตาม แต่มันมีการแลกเปลี่ยนระหว่างพุทธศาสนิกชนระหว่างวัดไง เธอต้องมาดูนะ คุณที่ประชุมคำสั่ง เปลี่ยนได้นะคะ อย่ามาทำร้ายความรู้สึกของคนที่นี่”
ถ้ามีการแก้ไขเป็นรูปพนมมือล่ะครับ?
-อันนี้ฉันไม่มีความเห็น เพราะคนละประเด็น ฉันดูที่ผลงาน ถ้าเป็นภาพพนมก็ไม่มีคนมาดูแล้วไง ประเด็นว่าจะเป็นพนม หรือว่าชี้ ประเด็นว่าคนมาที่นี่ มาจากที่อื่น แล้วระยะทางการมาที่วัดนี้ ไกลมากกกกก ฉันปวดหลังไปหมดเลย เข้าใจที่ฉันพูดนะคะ เปิดออกมากันก่อน เปิดกรอบเปิดกะลาที่คุณคุณตีกรอบให้ตัวเองอยู่ เพราะเราหัวหงอก ฉันก็ 58 จะ 60 คนที่ดูแลคำสั่ง ก็รุ่นๆ เราแก่ๆ กันแล้ว ปล่อยให้คนรุ่นใหม่มันบริหาร ทำนุบำรุงศาสนาได้ไหม แล้วแนวคิดของคนรุ่นใหม่มันสามารถที่จะแลกเปลี่ยนพุทธศาสนิกชนระหว่างจังหวัด โดยที่วัดนี้ไม่ได้มีจุดขายอะไร ในเมื่อสร้างความสุขให้คน ผู้เฒ่าผู้แก่ ในชุมชน เป็นชุมชนเล็กๆ ฉันยืนยันได้ ตอนแรกฉันไม่ได้จะมาอะไร ฉันจะมากราบเจ้าอาวาส แต่ตอนนี้ฉันไม่ยอมให้มาแก้ไขแล้วนะ แล้วติดต่อฉันได้หน้าเฟซบุ๊ก สิตางศุ์ บัวทอง ภาษาอังกฤษไม่จริง เพราะฉันเป็นคนไทย คนไทยแปลว่าอิสระ เราไม่ยอมเป็นทาสคำสั่งที่ไม่มีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลไปในอนาคต” สิตางศุ์กล่าว นอกจากนี้เจ้าตัวได้นำปัจจัยร่วมทำบุญ บริจาคเตรียมจัดกฐินผ้าป่าเพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการวาดภาพจิตรกรรมฝาผนังในอุโบสถให้แล้วเสร็จด้วย
ด้านความเห็นของป้าวัฒนา ทิพวรรณ วัยย่าง 70 ปี ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในชุมชนใกล้วัดหนองเต่า ได้บอกความรู้สึกกับเหตุการณ์จิตรกรรมส้มหยุดบนฝาผนังว่า “ไม่เห็นจะเป็นอะไร ไม่ได้เสียหายตรงไหน ก็เป็นสิ่งที่ดี 1. ทำให้คนรู้จักวัดเรามากขึ้น รู้จักตำบลเราดียิ่งขึ้น เราเกิดมาอายุขนาดนี้ก็เพิ่งจะเห็นภาพวาดที่ถูกต้อง มันก็ไม่ใช่เป็นภาพอะไรที่น่าเกลียด มันเป็นภาพที่น่าดู แล้วน่าสนใจ ทุกคนก็ออกเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่ให้ลบ อาจารย์เฉลิมชัยยังไม่ให้ลบเลยค่ะ ที่ดูข่าวนะ เราก็ชื่นใจนะ ในตำบลเราก็มีคนมาเยี่ยมเราอย่างนี้ มาดูแลเราอย่างนี้ ดีใจกับเด็กด้วยเพราะเด็กมีศิลป์ เขาไม่ได้ทำผิดด้วย เขาทำดีที่สุดแล้ว รูปก็ไม่ได้โป๊ ถ้าโป๊เราก็จะว่า เพราะเราดูแลอยู่ทุกวัน”
ชาวบ้านบางคนก็มีความเห็นว่า จากที่ดูภาพบนฝาผนังก็ไม่ได้รู้สึกว่าไม่สมควรแต่อย่างใด
พระอธิการสมชาย เตชะภะโล เจ้าอาวาสวัดหนองเต่า ก็บอกว่า ส่วนตัวไม่รู้จักสิตางศุ์เป็นการส่วนตัว เพราะไม่ได้เล่นโซเชียล ขอบคุณน้ำใจคนที่มาวาดที่อาสาช่วยเหลือในการาดครั้งนี้ ถ้าดูในความเหมาะสมก็จะดูให้ แต่ถ้าในมุมมองส่วนตัวเจ้าอาวาสก็มองว่า การที่มีรูปชี้ส้มหยุดไม่ได้สร้างความเสียหายอะไรนักหนา ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไร หากไม่มีมีการแก้ไข ก็ไม่เป็นไร เพราะทางด้านญาติโยมก็ไม่ได้ว่าอะไร.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน