นับเป็นช่วงเวลาที่ต้องสู้ เข้มแข็งและมีกำลังใจที่ดีมากๆ สำหรับนักแสดงสาว “โบว์ เบญจวรรณ อาร์ดเนอร์” ที่คุณแม่ป่วยหนัก นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ซึ่งสาวโบว์ก็คอยดูแลและให้กำลังใจอย่างใกล้ชิด
ล่าสุดวันนี้ (3 ก.พ.63) ได้มีโอกาสเจอสาวโบว์ในงานบวงสรวงละครเรื่อง “จังหวะหัวใจนายสะอาด” เจ้าตัวอัปเดตอาการป่วยของคุณแม่ว่า “ตอนนี้ยังอยู่รพ. ประมาณ 3สัปดาห์แล้ว อาการอยู่ช่วงในทรงๆ ไม่ได้ดีแต่ก็ไม่ได้แย่ไปกว่านี้ แค่เราต้องให้กำลังใจเพราะโรคที่แม่เป็นเขาได้ยาที่ดีที่สุดจากหมอแล้ว ตอนนี้ร่างกายต้องต่อสู้กับยา เนื่องจากบางทียาที่ได้รับเยอะมาก ร่างกายขับออกไม่ทัน ทำให้มีอาการแทรกซ้อน มีอาการมีทรุดบ้าง บวกกับไข้ขึ้นๆ ลงๆ วันเว้นวัน ซึ่งเวลาที่ไข้ขึ้นจะมีบ่งบอกได้ว่ามีการอักเสบข้างใน ก็เลยทำให้หายช้า”
สาวโบว์บอกว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือ กำลังใจ เพราะท่านไม่เคยอยู่ในสภาพแบบนี้ เคยแต่เห็นป๊าและญาติ ตอนแรกท่านรับไม่ได้ แถมยังเป็นห่วงลูกมาก พร้อมบอกลูกว่า ไม่ต้องมา และอยากให้คุณแม่เข้าใจว่าที่ทุกคนมาเพราะอยากให้แม่หาย ถ้าแม่เห็นว่าเรามา ก็จะเป็นกำลังใจที่ดีสำหรับเขาที่จะค่อยๆ ฟื้นฟูตัวเอง เริ่มทำอะไรด้วยตัวเอง
ส่วนโรคที่คุณแม่เป็นนั้น ครั้งแรกที่เจอคือเป็นตับอ่อนอักเสบ ซึ่งอยู่ในระยะที่ค่อนข้างรุนแรง พอทำซีซีกัน ก็เห็นว่าตับยุ่ย เหมือนอักเสบเยอะมาก จนผนังของกระเพาะแดง หลังจากนั้นได้ยา เพื่อที่จะให้ไตทำงาน กลายเป็นว่ามีน้ำในปอด ซึ่งแม่ไม่สามารถขับเองไม่ได้ ต้องดูดออก ซึ้งต้องใช้น้ำเกลือในการรักษาข้างใน จากนั้นพบอีกอาการหนึ่งว่า ข้างในเริ่มย่อยตัวเอง โดยคุณหมอบอกว่าเคสที่แม่เป็น ค่อนข้างเสี่ยงต่อการเสียชีวิตสูง เพราะเกี่ยวกับตับและไต ถ้ามีอะไรที่ล้มเหลวนิดเดียว อาการจะทรุดหมดเลย แต่ถ้าร่างกายรับกับยาได้ดี ตอบสนองดี ก็สามารถที่จะกลับมาดีได้ อาการตอนนี้ต้องดูวันต่อวัน
นอกจากนี้เจ้าตัวยังเผยในฐานะคนเป็นลูกอีกว่า “โบว์คิดว่าตัวเองมีกำลังใจที่ดี ทั้งแฟนหนุ่ม “ก็อต จิรายุ” ที่คอยมาหา รวมถึงพี่ชายและครอบครัวด้วย ทุกคนต่างเข้ามาให้กำลังใจ มาดู ขับรถมาหา ซึ่งพอคุณแม่ได้เห็นก็ดีใจ ที่เรามีเพื่อนซัพพอร์ต โบว์เชื่อว่าถ้าไม่มีพวกเขาคอยเตือนสติ แล้วถ้าเราล้มอีกคน แม่ก็จะยิ่งเป็นห่วง เราเชื่อว่าถ้าเราแฮปปี้ทุกอย่างจะดีขึ้น”
สาวโบว์ยอมรับว่าช่วงแรกที่แม่เข้ารพ. มีอาการเครียดเพราะท่านอยู่ห้องไอซียู บวกกับอาการขึ้นๆ ลงๆ เป็นอาการที่เดาไม่ได้ ต้องคอยดูวันต่อวัน แต่ด้วยความที่เราเป็นผู้ปฎิบัติ นั่งสมาธิ ดูอาการในสิ่งที่เกิดขึ้น คิดว่าเป็นเรื่องธรรมชาติที่เกิดขึ้น อยู่ที่ว่าเรารับมือได้มากแค่ไหน สู้มากแค่ไหนเท่านั้นเอง
พร้อมทั้งบอกอีกว่ากำลังใจของโบว์ คือแม่ ทุกวันนี้พยายามทำทุกอย่างให้ท่านแฮปปี้ มีความสุขมากที่สุดเพราะตนกับแม่คอยเป็นกำลังใจซึ่งกันและกันมาตลอดอยู่แล้ว “ดีใจที่เห็นแม่สู้ คอยบอกตลอดว่าต้องสู้ ห้ามงอแง เพราะตอนแรกท่านไม่อยากกินยา ยาไม่อร่อย แต่แม่แพ้มอร์ฟีน เลยต้องเปลี่ยนเป็นยาที่อ่อนลง คุณหมอทุกคนทำเต็มที่ ทั้งหมดทั้งมวลขึ้นอยู่กับตัวคุณแม่เอง ก่อนหน้านี้กินอะไรไม่ได้ ทำให้ตอนนี้ต้องให้อาหารทางเส้นเลือดดำ ถ้าแม่เริ่มขยับเองได้ ก็จะเริ่มกินเองได้”
ยอมรับว่าที่ผ่านมามีร้องไห้บ้าง แต่ไม่เคยร้องให้เขาเห็น แค่อึดอัดที่เห็นทุกคนเครียด สิ่งที่เจอบางทีมันหนัก เพราะเคยเจอเห็นการแบบนี้กับคุณพ่อ ที่อยู่ในสภาพใกล้เคียงกัน แต่ก็พยายามไม่คิด ไม่อยากให้แม่เป็นห่วงมากกว่าเดิม คอยบอกท่านตลอดว่าไม่ต้องห่วงลูก อยากให้ห่วงตัวเองอย่างเดียว เพราะโบว์เหลือแค่แม่คนเดียว เลยอยากให้แม่หายไวๆ จะได้กลับไปนั่งเล่นที่บ้านด้วยกัน เพราะทุกคนมีความหวังว่าทุกอย่างจะดีขึ้น .-ไนน์เอ็นเตอร์เทน
