หลังมีข่าวลือหนาหูเมื่อปลายปีที่ผ่านมา (2562) ว่ามีนางเอกอักษรย่อ อวดแฟนรวย เปย์ฝ่ายชาย ซื้อแหวนแต่งงานเอง ถูกหลอกให้เปิดบริษัท สุดท้ายก็เจ๊ง พอจับได้ว่าแฟนไม่รวยจริงก็บอกเลิก หลายคนก็เมาท์สนั่นโซเชียล และพุ่งเป้าไปที่นางเอกสาว “ปู ไปรยา”
ล่าสุดวันนี้ (24 มกราคม 2563) นางเอกสาว “ปู ไปรยา” ก็ออกงาน “Venezuala Film Night Tribute to UNHCR for Refugee and Migrant Crisis” เปิดตัวสารคดีจากการลงพื้นที่เยี่ยมผู้ลี้ภัยชาวเวเนซุเอลา พร้อมได้เปิดใจถึงข่าวที่เป็นกระแสออกมาและกระทบกับเธอโดยตรง ว่า
ตอนนี้ปูกับแมทธิวเลิกกันจริง แต่ไม่ใช่ตามข่าวที่ออกมา เหตุผลที่แท้จริงนั้น เพราะปูรักตัวเอง ยังไม่พร้อมที่จะทิ้งชีวิต ที่ตัวเองสร้างมา นางเอกสาวได้อธิบายเหตุผล ยอมรับข่าวที่ออกมา บั่นทอนจิตใจ พร้อมขอพื้นที่ภาพลักษณ์ดีๆ เพื่อสร้างรายได้ และได้ทำงานสังคมที่ตนรักต่อไป
1.แมทธิวย้ายมาอยู่เมืองไทย เพราะต้องการที่จะมาอยู่กับปู เขาต้องย้ายมาโดยที่ไม่รู้ภาษา และไม่มีญาติ แต่เพราะปูไม่ยอมเสียสละอาชีพของตัวเอง ปูยังอยากอยู่กับครอบครัว ยังอยากทำงาน UN
2.ยังมีเด็กในอุปการะ 5 คนที่ปูรับปากว่าจะส่งเสียจนเรียนจบ และตอนนี้ยังเรียนไม่จบสักน บางคนอยู่มหาวิทยาลัย บางคนอยู่มัธยม
3.ไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นนางฟ้าเหมือนที่ข่าวเขียน เพราะยังมีอารมณ์ รัก โลภ โกรธ หลง หึง แต่ที่เลือกทำงานสังคมเพราะในประเทศเรายังมีคนที่ลำบากอยู่เยอะ และดาราก็เป็นคนที่มีโอกาสเยอะ ที่ตนทำอยู่ทุกวันนี้เพราะคิดว่าเป็นคนที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม ต่อเพื่อนมนุษย์ ไม่ใช่เพราะคิดว่าตัวเองเป็นคนดี
4.สำหรับข่าวที่ออกมา ตนก็อยากจะขอพื้นที่ให้มีภาพลักษณ์เพื่อจะหารายได้ต่อไปโดยอย่าทำให้บั่นทอนจิตใจเลย ยอมรับว่างานที่ทำก็มีท้อ มีเหนื่อยบ้างกับสิ่งที่ทำอยู่
5.ไม่ได้โกรธนักข่าว และรักทุกคนเพราะยอมรับว่าที่มีชื่อเสียงอยู่ทุกวันนี้ก็เพราะมีข่าว แต่ยอมรับว่าข่าวอักษรย่อทำให้เรียกไลก์ แชร์ แต่มันทำให้เกิดการบั่นทอนจิตใจมาก โดยเฉพาะแมทธิว ที่ไม่มีพื้นที่จะพูด ไม่มีแม้โอกาสที่ได้แก้ตัวใดๆ เพราะเป็นชาวต่างชาติ
6.ปูไม่เคยบอกว่าแมทธิวรวย และแมทธิวก็ไม่เคยอวดรวย
7.คำที่แรงมาก คือ คำว่า “ปลอม” เพราะเขาได้สูญเสียคู่หมั้นของเขา และได้ย้ายกลับประเทศเขาแล้ว และมาเจอข่าวในช่วงที่เราลดสถานะกับเขา แต่เขาก็เข้าใจและไม่โกรธอะไรเลย
8.ช่วงที่ไปเจอเขาที่แอลเอ ก็ได้เจอกัน ปูเห็นน้ำตาเขาคลอ ไม่คิดว่าจุดจบของการที่จะคุยกัน จะมาด้วยคำพูดที่ไม่ได้เกี่ยวกับเขา เพราะเขาไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับรายได้เรา
9.ปูไม่จำเป็นต้องซื้อแหวนของตัวเอง เพราะตอนนี้ปูยังมีผลงาน มีโฆษณาอยู่
10.การแต่งงานจะเป็นการเปลี่ยนความรับผิดชอบในชีวิต เป็นแม่ของลูก พอใกล้แต่งงาน (วางแผนไว้ เดือนมิถุนายน 2564 ) ก็มาคิดทบทวนว่า ถ้าจะแต่งงานกับชาวต่างชาติ ใครคนใดคนหนึ่งต้องยอมเสียสละ ไม่เขาย้ายมาอยู่กับเรา เราก็ต้องย้ายไปอยู่กับเขา และใครจะยอมเสียสละชีวิตตัวเองในวัย 30 และเราจะเสียใจทีหลังหรือเปล่า ถ้าเราเสียใจทีหลัง เราจะกลายเป็นภาระของพ่อแม่ ทั้งที่เราสร้างไว้ขนาดนี้ ลูกที่คลอดมาจะทำยังไงต่อ และความรับผิดชอบต่อครอบครัว พ่อแม่ ญาติที่อ่างทอง เด็กในอุปการะอีก 5 คน ทั้งหมดนี้เลยทำให้ปูยังแต่งไม่ได้ ปูคิดว่ายังไม่พร้อมที่จะเสียสละ
11.การที่แต่งงานไม่ได้ไม่ได้หมายความว่าไม่รัก ปูรักเขาสุดหัวใจ เพราะเขาเป็นผู้ชายที่ดีมาก เขาเป็นแฟนที่ซื่อสัตย์ ไม่เคยมีผู้หญิงคนอื่น ไม่เคยเอาเปรียบ เห็นคุณค่าในตัวเรา แต่ปูเลือกอาชีพปู ปูเลือกชีวิตปู ปูถอยไม่ได้ ถ้าเราแต่งงานแล้วมันไม่ได้เป็นอย่างที่เราฝัน เพราะถ้าแต่งงานแล้ว เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมมันเหนื่อยมาก ปูเห็นจากคนรอบข้าง เห็นจากแม่ เรายอมเจ็บวันนี้เพื่อสิ่งที่ดีกว่า ปูเลือกแล้ว ปูสร้างมาขนาดนี้
12.ไม่เคยซื้อแหวนแต่งงานเอง ข่าวนี้คือตลกมาก ถ้าจะจัดฉากจริงต้องสวยหรูกว่านี้ ไม่ใช่กางเกงยีนส์ง่ายๆ หรอก แต่ที่มีช่างภาพคือแมทธิวเขาเห็นว่าเราเป็นดารา อาจจะต้องมีรูปเพื่อโปรโมทในไอจีบ้าง ข่าวนี้ขำแบบรู้สึกเสียหน้า ว่าถ้าปู ไปรยาจะเมคทั้งทีต้องจัดใหญ่ใหญ่เต็มแน่นอน ไม่ทำแค่ครึ่งทาง จะจ้างออแกไนซ์มาเลย
13.บริษัทเขาไม่ได้เจ๊ง เรื่องนี้ไม่เกี่ยว
14.เรื่องเอาเปรียบ เขาไม่เคยเอาเปรียบปู เรื่องเปย์ ขอพูดประโยคหนึ่ง “ผู้ชายไม่ใช่ธนาคาร” เขามีพ่อมีแม่ เราในฐานะที่เป็นแฟนกัน ก็ต้องมีเลี้ยงแฟน ซื้อของให้บ้าง แล้วเราอยู่แบบนี้ ไม่เลี้ยงสิแปลก
15.ในวันที่เราบอกเลิก เขาไม่ได้ยื้อเราไว้ เพราะเขามีศักดิ์ศรีพอ และเขาเข้าใจในสิ่งที่เราเลือก คำพูดสุดท้ายที่เขาบอกเราคือ “อย่าแพ้และอย่าล้ม สู้ต่อไป”
ทั้งคู่รักกันและหมั้นกันแล้ว การเลิกกันคือทางออกที่ดีที่สุดแล้วเหรอ?
-ถ้าเรารู้ว่าเรารับผิดชอบหน้าที่ของภรรยาและแม่ของลุกยังไม่ได้ เราทำงานสังคม เราเห็นตัวอย่างจากงาน เราต้องเรียนรู้จากสิ่งที่เราทำ ปูยังไม่พร้อม
ทำไมไม่คิดจะเลื่อนงานแต่งแทนที่จะเลิกกัน?
-เพราะเขาต้องรอปู ถ้าเขาจะรอ เขาสามารถรอเราโดยที่เราไม่ใส่แหวนก็ได้ เราไม่อยากกั๊กเขา เชื่อว่าถ้าเขาเป็นของเรา ไม่แน่อีก 5 ปีเขาอาจจะมาขอปูแต่งงานอีกทีก็ได้
เตรียมงานแต่งไปถึงไหนแล้ว?
-ล็อคสถานที่เรียบร้อยหมดแล้ว แต่ยกเลิกไปหมด ด้วยเหตุผลที่บอกไป
กับข่าวเรื่องที่เราเพิ่งรู้ว่าเขาไม่รวย?
-คำนี้ตอบยาก ถ้าเราบอกว่าเขารวยก็หาว่าอวดรวย ถ้าบอกว่าไม่รวยมันก้ไม่ใช่ เขามีเงินค่ะ ให้ไปเสิร์ชประวัติพ่อเขาดีกว่า ว่าพ่อเขาทำงานอะไร แต่ครอบครัวเขาเข้าใจ คนที่อึ้งคือปูกับแมทธิว
ที่ต้องเลิกกันยอมรับว่ามีน้ำตา เป็นปกติของคนรักกัน เราคุยกับเขาทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องที่จะต้องมาสัมภาษณ์วันนี้ และปูตอบไม่ได้ว่าเขาจะรอเราไหม เพราะไม่งั้นเขาคงไม่คุกเข่าขอเราแต่งงาน แต่เราทิ้งชีวิตเราไม่ได้
ช่วงที่เขามาอยู่เมืองไทย เขาไม่มีเพื่อนเลย หาเพื่อนยาก เขาไม่เที่ยวกลางคืน เขารอเราทุกวันตอนเราทำงาน ในช่วงที่เขาเขาทำงาน เราแทบไม่มีเวลาให้กัน และเราลองแล้ว มันไม่เวิร์ค
พอแรงกดดันของงานแต่งเกิดขึ้นเราบอกเขาว่า เราขอทำงาน และเราทำงานจริง เดือนกันยายนที่ผ่านมา ปูบินไปเวเนฯ 19 ไฟลท์ เราไม่ได้เจอกันเลย 3 เดือน จาก 3 เป็น 4 จาก 4 เป็น 4 เดือนครึ่ง เขาเลยเรียกเราคุยว่ายังไง มีอะไรก็พูดได้ ปูก็บอกเขาตรงๆ ว่าการเป็นผู้หญิงที่สู้มาตลอด กว่าปูจะมีวันนี้มันไม่ง่าย ปูถอยไม่ได้
สภาพจิตใจตอนนี้เราเป็นยังไง
-ตรงๆ จังหวะที่พูดแฮปปี้ จะเศร้าตอนนึกถึงเขา เพราะข่าวสารที่เกิดขึ้น รู้สึกผิดกับการที่เราเลือกตัวเอง เลือกอิสระให้ตัวเอง
“ชีวิตของมนุษย์จริงๆ คือความรับผิดชอบ ความมั่นคง และเราพร้อมไหม”
เรารู้ว่าเดินหน้าต่อไปตอนนี้ยังไม่ได้ และการเลิกกันแบบนี้ เลิกกันแบบไม่ได้โกรธกัน เราทั้งคู่คือผู้ใหญ่ ที่รู้ว่าเราเดินหน้าต่อไปยังไม่ได้
หลังจากนี้เราจะปิดตัวเองเพื่อเขามั้ย
-ปูไม่มีคนอื่น ปูคิดว่าผู้ชายคนนี้คือรักแท้ปู เพราะเขาเป็นคนดี แต่รักแท้อีกคนหนึ่งคือ ตัวปู ปูรักประเทศตัวเอง ปูรักงานสังคม ปูรักครอบครัว ปูรักวงการบันเทิง รักพี่ๆนักข่าว ปูรักกล้อง
แสดงว่าการแต่งงานไม่ได้อยู่ในหัวเราเลย?
(ส่ายหัว) ไม่ร้อนตัวว่าอยากจะแต่งงาน เพราะกลัวจะเสียอิสระภาพของตัวเอง
แสดงว่าตอนที่จะแต่งเป็นตัวเขาที่อยากแต่ง?
-เพราะเขาคิดว่าการที่ได้แต่งงานแล้วไปพักที่เมืองนอก ชีวิตปูอาจจะมีความสุขมาก กว่าการที่ต้องมาแข่งขัน ในจุดนี้ แต่การทำงานมา 17 ปี ปล่อยวาง ปลงยาก
ความรักครั้งนี้เราได้มุมมองยังไงบ้าง?
-ได้มุมมองว่ารักใครจริง ได้มุมมองว่า ปลง และปล่อย อาจจะเป็นเพราะเราทำงานสังคมเยอะ เวลาเราไปอุปถัมภ์เด็ก เราเห็นถึงว่าทำไมครอบครัวถึงดูแลเขาไม่ได้ ปูคิดในใจว่าถ้าปูมีลูกของตัวเอง ทุกคนที่ฟังข่าวนี้ต้องรู้ คนเป็นแม่ ความรับผิดชอบของตัวเองกลายเป็นลูก แล้วเด็กๆ ที่เรารับอุปถัมภ์ก็ไม่เหลือใครแล้ว เรารักเด็ก ชอบอุ้มหลาน แต่ใจยังไม่คิดอยากจะมีของตัวเอง คนอาจจะมองว่าปูแปลก แต่เราไม่ได้คิด ไม่ได้มีความต้องการ .-ไนน์เอ็นเตอร์เทน