เมื่อเวลา 06.30 น. ที่ผ่านมา พระเอกรุ่นใหญ่ หนุ่ม-ศรราม เทพพิทักษ์ อายุ 46 ปี เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.ทรงพล อธิวัฒน์ธนานันท์ รองสว.(สอบสวน) สน.สุทธิสาร เพื่อแจ้งความเป็นหลักฐาน หลังพบเงินในบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง ย่านลาดพร้าว 10 หายไปหลายแสนบาท ซึ่งนายศรราม ระบุว่า มีบัตรเดบิตของธนาคารใช้สำหรับถอนเงินสด แต่ไม่มีการเปิดใช้บริการทางออนไลน์ แล้วเงินในบัญชีหายไปได้อย่างไร
.
นายศรราม ระบุว่า เมื่อวันที่ 13 ม.ค.63 ได้นำเงินฝากเข้าบัญชีธนาคารของตน 1,100,000 บาท รวมเงินเหลือในบัญชี 1,105,750.49 บาท และในวันเดียวกันได้นำบัตรเดบิตของธนาคารดังกล่าว ไปซื้อสินค้าแต่จำสถานที่ไม่ได้ วันรุ่งขึ้น(14 ม.ค.) ได้นำสมุดบัญชีไปทำธุรกรรมทางการเงิน ที่สาขาลาดพร้าว 10 ที่ตนเปิดบัญชีไว้ เป็นจำนวน 346,836.12 บาท และต่อมาวันที่ 15 ม.ค. ได้นำบัตรเดบิทไปเบิกถอนเงินสดที่ตู้เอทีเอ็ม บริเวณตึกโอลิมเปียไทยพลาซ่า ถนนรัชดาภิเษก แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง พบว่าเงินในบัญชีได้สูญหายไป
.
เมื่อตรวจสอบพบว่าเมื่อวันที่ 13 ม.ค. เงินในบัญชีได้ถูกโอนออกไป 2 ครั้ง ครั้งละ 100,000 บาท รวม 200,000 บาท และมีการโอนออกไปอีก 2 ครั้ง เมื่อวันที่ 14 ม.ค. ครั้งละ 100,000 บาท รวมอีก 200,000 บาท และในวันเดียวกันยังมีการเบิกถอนเงินสดออกไปอีก 3 ครั้ง ครั้งละ 20,000 บาท จำนวน 2 ครั้ง รวมเป็นเงิน 40,000 บาท ครั้งละ 10,000 บาท 1 ครั้ง รวมเงินที่หายไปทั้งสิ้น 450,000 บาท จึงมาแจ้งความเพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ช่วยตรวจสอบ และติดตามเงินของตนที่หายไปจากบัญชี
.
ล่าสุดเมื่อเวลา 14.00 น. พ.ต.ท.สืบพงศ์ กรุณา รอง ผกก.สอบสวน สน.สุทธิสาร เปิดเผยว่า นายศรราม ได้มาลงบันทึกประจำวันจริง แต่เป็นเพียงการมาขอลงบันทึกเพื่อนำไปเป็นหลักฐานในการตรวจสอบการทำธุระกรรมที่เกิดขึ้นกับทางธนาคารเท่านั้น ยังไม่มีการสอบปากคำถึงรายละเอียดทั้งหมด อย่างไรก็ตามหลังจากนี้คงต้องรอให้ผู้เสียหายเข้ามาพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ข้อมูลในส่วนของรายละเอียดยอดเงินที่หายไป รวมถึงรายละเอียดการทำธุระกรรมอื่นๆ ส่วนการดำเนินการติดตามเงินในบัญชีที่หายไปคงต้องให้ทางธนาคารเป็นผู้ดำเนินการ และตรวจสอบว่าเงินหายไปที่ใด ใครเป็นผู้นำเงินออกไป และเงินหายไปได้อย่างไร
.
ขณะที่ทางธนาคารกสิกร ได้ร่อนเอกสารชี้แจงในเวลาต่อมา ถึงกรณีเงินพระเอกดังหายหลายแสน โดยระบุข้อความว่า “ตามที่มีการเผยแพร่ข่าวทางสื่อออนไลน์หลายสำนักเรื่อง “คุณศรราม เทพพิทักษ์ โร่แจ้งความ เงินโอนออกจากบัญชีสูญเงินไปแล้วครึ่งล้าน” โดยบางแห่งอ้างถึงธนาคารกสิกรไทย นั้น
ธนาคารขอเรียนให้ทราบว่า ธนาคารได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลการทำรายการ พบว่าเป็นการทำรายการผ่านเครื่องเอทีเอ็ม ซึ่งกล้องวงจรปิด สามารถบันทึกภาพผู้ทำรายการ เป็นคนใกล้ตัวของเจ้าของบัญชี และยืนยันว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ได้เกิดจากความผิกปกติของระบบธนาคารแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ธนาคารได้เรียนคุณศรราม ซึ่งเป็นเจ้าของบัญชีให้รับทราบแล้ว ตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม 2563″
