หลังเข้าพิธีหมั้นกัน 2 อาทิตย์ (20 ธันวาคม 2562) ล่าสุดนางเอกสาวหน้าหวาน “มิว นิษฐา” ก็ควงคู่สามีป้ายแดง “เซนต์ ธราภัช” มาเปิดใจถึงการใช้ชีวิตคู่กับกองทัพสื่อมวลชนที่ไปรอสัมภาษณ์กันที่ โรงแรม ดิ แอธินี โฮเทลแบงค็อก
ความรู้สึกเป็นยังไงบ้าง
มิว : ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง วันที่พี่เซนต์ต้องมาเจอกล้องมากมาย (หัวเราะ) ก็หลังจากที่เตรียมตัวก่อนแต่งงานมาเป็นเวลา 6 เดือน ตื่นเต้น และมีเรื่องให้ลุ้น จุกจิกมากมายตลอดระยะเวลาที่เตรียมงาน ซึ่งวันนี้ที่รอคอยก็มาถึง ก็อยากจะให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยความราบรื่นและทุกคนที่มารู้สึกอิ่มเอมใจไปกับเรา
เซนต์ : ดีใจและตื่นเต้นมากเหมือนกัน ยิ่งเจอพี่นักข่าวก็ตื่นเต้นยิ่งกว่างานครับ (หัวเราะ) ดีใจที่มิวแฮปปี้กับงาน เราก็พยายามทำออกมาให้น่ารักที่สุด เท่าที่เขาจะชอบครับ
ธีมการจัดงานนี่จัดตามไอเดียใคร
มิว : จัดตามความฝันของเราทั้งคู่ค่ะ เพราะมันมีเรื่องบางอย่างที่เราฝันคนละอย่างกัน เราก็มาจูนกันตรงกลาง เพื่อให้เป็นฝันของเราทั้งคู่ ตีมหลักๆ คือเราชอบความคลาสสิค ก็เลยตั้งเป้าว่า ให้อารมณ์ออกมาดูคลาสสิค พออีก 10 ปี กลับมาดูก็ยังสวยอยู่เหมือนเดิม
พอผ่านพิธีหมั้นวันนั้นกันมาแล้วเป็นยังไงบ้าง
มิว : จริงๆ หลังจากพิธีนั้นมาก็เหมือนแต่งงานกันแล้ว เราก็ได้ใช้ชีวิตคู่ด้วยกัน วันนั้นเสร็จก็ได้ย้ายเข้าไปอยู่ที่บ้านคุณเซนต์แล้ว
ความรู้สึกมันต่างไปจากเดิมยังไงบ้าง
มิว : ตอนแรกเราก็ลุ้นนะคะ ว่าพอย้ายไปอยู่ด้วยกันแล้วมันต้องเปลี่ยนจุกจิกขนาดไหน แต่เราอยู่กันมา 2 อาทิตย์แล้ว รู้สึกว่ามันยังไม่มีอะไรต้องเปลี่ยนเลย (หัวเราะ) ปรับอาจจะมีบ้าง เล็กๆ น้อย แต่ปัญหาใหญ่ยังไม่มี (หันไปถามเซนต์) พี่เซนต์มีป้ะ? (เซนต์หัวเราะ)
องค์แม่ศรีเรือนลงรึยังคะ
มิว : ตอนนี้มิวปอกผลไม้ได้แล้วนะคะ (หัวเราะ)
เซนต์ : ต้องให้เครดิตคุณแม่ยย ที่สอนมิวปอกผลไม้ ก็ปอกได้หลายอย่างแล้วครับ สาลี่ อะไรอย่างนี้ (หัวเราะ)
ประทับใจในแม่ศรีเรือนป้ายแดงยังไงบ้างคะ
เซนต์ : ก็ดีนะครับ เขาก็ตั้งใจ บางทีอย่างเช้าๆ ผมต้องตื่นไปทำงาน เขาก็ง่วงอยู่ เขาก็ตื่นขึ้นมา ลวกไข่ให้ ปิ้งขนมปังให้
มิว : ก็ยังเป็นเมนูที่ง่ายๆ อยู่ เดี๋ยวเราจะค่อยๆ อัพสเต็ป ขึ้นไป
มีแพลนไปฮันนีมูนกันบ้างหรือยัง
เซนต์ : ยังไม่เป็นเรื่องเป็นราว คงอีกสักพัก เพราะก็ยุ่งเตรียมงาน มิวเขาก็มีเปิดกล้องอยู่ด้วย
มิว : อาจจะอีกสักพัก เป็นช่วงหลังของปีเลย เพราะต้นปีละครก็จะเปิดกล้องแล้ว
การใช้ชีวิตร่วมกันแล้ว ต้องปรับยังไงบ้างความ เช่นความเป็นตัวของตัวเอง
เซนต์ : ผมว่าผมโชคดี เพราะมิวเขาค่อนข้างเป็นธรรมชาติอยู่แล้ว เวลาไปไหนมาไหนด้วยกัน เขาก็จะง่ายๆ เราก็จะไม่รู้สึกว่าเราต้องปรับอะไรเยอะ ตอนแรกเราก็ห่วง เพราะมิวเขาเคยบอกว่าจะอึดอัดมั้ยเวลาตื่นขึ้นมาแล้วต้องเจออีกคนด้วยทุกเช้า แต่ผมก็ไม่อึดอัดนะ เพราะมิวเขาก็..น่ารัก ครับ
มีความสุขมากเลยใช่ไหมครับ
เซนต์ :เยอะเลยครับ (หัวเราะ)
มีคำมั่นสัญญาอะไรต่อกันไหม
เซนต์ : ชีวิตคู่ เราก็ต้องปรับตัวและเข้าอกเข้าใจกันเยอะๆ คิดว่ามันก็คงไม่ได้สวยงาม หวานชื่นกันตลอดเวลา แต่มันก็มีรู้จักอดทนให้อภัยกัน ก็มีคำมั่นสัญญา ว่าจะดูแลมิวอย่างดี
มิว : มิวว่าหลักๆ แล้วคือความอดทนและความเข้าใจกัน เพราะว่าเรามาจากคนละพ่อแม่ มีหลายอย่างมากที่เราต้องมาทำความเข้าใจกัน กับความเป็นตัวตนของเขา กับไลฟ์สไตล์ของเขา เพราะฉนั้นเราก็ต้องเข้าใจกันมากๆ และก็อดทน อย่างที่พี่เซนต์บอก มันคงไม่ได้สวยหรู หวานฉ่ำเหมือนวันนี้ทุกวัน มันก็คงมีบางวันที่อาจจะทะเลาะกัน แต่สิ่งที่สำคัญก็คงจะเป็นความอดทน
อะไรเป็นสัญญาณที่บอกเราครับว่า คนนี้แหละคือคนที่ใช่
มิว : มิวว่าเวลาที่มิวมีพี่เซนตือยู่ข้างๆ คือมิวอุ่นใจ
อย่างคุณเซนต์ คือตกหลุมรักตั้งแต่วันแรกที่เจอเลยหรือเปล่าครับ เขามีตรงไหนที่บอกว่า อืม นี่แหละ แม่ของลูก
เซนต์ : (หัวเราะ) สำหรับผมรู้สึกว่ามิวเป็นคนที่น่ารัก จิตใจดีมาก ตั้งแต่ที่เจอกันคือมิวเขาไม่คิดลบเลย ก็ชีวิตเรา ถ้าจะมีชีวิตคู่สักหนึ่งคน เราก็รู้สึกว่า ถ้าได้ผู้หญิงแบบนี้มาเป็นแม่ของลูกเรา เราก็สบายใจ
แล้วจะมาทายาทเลยมั้ย
มิว : ยังไม่ใช่ปีนี้ค่ะ เพราะยังมีละครอยู่ ยังมีงานที่ต้องจัดการอยู่
เซนต์ : ความจริงผมก็อยากมีเลย แต่ว่ามิวเขายังรักในสิ่งที่เขาทำอยู่ และเขาทำมันได้ดีมาก เราก็อยากให้เขาได้ทำเต็มที่ในสิ่งที่เขาอยากจะทำก่อน แล้วเรื่องมีลูกก็ค่อยๆ ว่ากันไป
ห่วงเรื่องการทำงานของมิวไหม
เซนต์ : จะห่วงเรื่องเวลาทำงานของเขานิดหน่อย เขามีความสุขกับมัน ผมรู้สึกว่า ไม่อยากให้ชีวิตส่วนตัวไปกระทบกับการทำงานของเขา
มิวคิดว่าจะทำงานในวงการอีกกี่ปี
มิว : ก็เคยคุยกันว่า เราอยากทำงานต่อไปนะ ถึงแม้จะว่าแต่งงานแล้ว ไม่อยากให้เป็นว่า การแต่งงานคือเป็นการหยุดงานของเรา ก็ตั้งใจว่ายังทำต่อไป
เรามองสถานการณ์เรื่องงานว่ายังไง เพราะเราแต่งงานแล้ว อาจมีผลต่อความนิยมของเรา
มิว : ก็คงเป็นงานที่เติบโตขึ้น สถานะในวงการอาจจะเปลี่ยนไปนิดหน่อย แต่ก็เชื่อว่ามันยังมีช่องทางของมัน
กลัวกระทบกับงานละคร มากขึ้นกว่าที่ผ่านมาไหม
มิว : ไม่กลัวนะคะ ส่วนงานก็คือส่วนงาน มันเป็นอีกคาแรกเตอร์นึงไปแล้ว เพราะคนดูก็คงจะอินกับเนื้อเรื่อง เส้นเรื่องอันนั้น
เลิฟซีนยังได้ใช่ไหม
เซนต์ : (หัวเราะ) ก็พอประมาณแล้วกันครับ
มิว : มิวก็พอประมาณอยู่แล้วค่ะ(หัวเราะ) หมายถึงว่าก่อนหน้านี้มิวก็ค่อนข้างที่จะดูแลในส่วนเรื่องตรงนี้ได้ดีอยู่แล้วค่ะ
แสดงว่ามิวมีลิมิตในเรื่องเลิฟซีน
มิว : ใช่ค่ะ มิวมีลิมิตตั้งแต่ขอแต่งงาน แล้ว
ต้องร่างใบขออนุญาตมั้ยครับ
มิว : (หัวเราะ) ไม่ต้องขนาดนั้น คุณเซนต์เขาไม่ค่อยดูละครหรอก
มิวว่ามิวสามารถตัดสินใจว่าอันไหนที่มันเกินลิมิต และอันไหนยังอยู่ในลิมิตอยู่ แล้วอีกอย่างมีก็มีแม่ที่ไปช่วยดูลิมิตอยู่
ต้องรับงานน้อยลงไหม เพราะต้องมีไปทั้งในและต่างประเทศด้วย
มิว : ไม่ถึงกับจำกัดงานให้มันน้อยลง เราน่าจะเลือกงานให้มันตื่นเต้นอยากจะทำมากขึ้น
แต่งานไหนที่เรารู้สึกว่าไม่ตื่นเต้นกับมัน ก็อาจจะไม่
เซนต์ ต้องหาเวลามาดูแลมิวมั้ย
เซนต์ : ไม่ขนาดนั้นครับ มิวเขากินง่ายนอนง่าย จะหาเวลาที่จะอยู่ร่วมกัน หาเวลาที่จูนกันได้
แหวนแสบตามาก
มิว : ก็เป็นเรื่องของผู้ใหญ่
ถามเรื่องสินสอด
มิว : ก็พอสมควร หันไปหาเซนต์)
เซนต์ : ตามขนบธรรมเนียมและความเหมาะสม
ขออนุญาตถามถึงแหวน กี่กะรัต
เซนต์ : ไม่ทราบเลย เพราะแหวานคุณแม่ เก็บไว้นานแล้ว เป็นแหวนที่คุณแม่เก็บไว้นานแล้ว อยากให้
ชุดวันนี้มีกี่ชุด
มิว : มีชุดนี้ ชุดที่งาน และ อาฟเตอร์ปาร์ตี้
เรื่องจดทะเบียน หรือยัง
เซนต์ : ยังไม่ได้จดเรายังดูฤกษ์และจังหวะ
มิว : ก็จะเปลี่ยนนามสกุล แต่ อาจจะเป็นนางสาว เพราะมิวก็ยังอยากเป็นนางสาวอยู่
มีความในใจอะไรอยากจะบอกต่อกันและกันไหม
มิว : ช่วงนี้และช่วงแต่งงาน ก็เป็นช่วงที่เราได้ใช้ชีวิตคู่ วันนี้เป็นยังไง วันหน้าก็จะยิ้ม และมีความสุข ให้ได้ หรือ มากกว่าวันนี้ ชีวิตคู่เราก็จะมีความเข้าใจ อดทน ให้ได้มากที่สุด
เซนต์ : ดีใจที่มิว ผมว่าสำหรับเขา ผลกระทบอาจจะมีกับหน้าที่การงานเขา ก็จะมีการเปลี่ยนแปลง มีจังหวะของมัน แต่เขาก็ยอมที่จะมาเริ่มต้นชีวิตคู่กับเรา ขอบคุณมิวที่ปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ ก็ขอบคุณเขา ขอบคุณพ่อกับแม่ และรับปากกับคุณพ่อคุณแม่ ครอบครัวจิรยั่งยืน ว่าจะตั้งใจดูแลมิว เป็นครอบครัว ที่อบอุ่น เข้าใจ อดทน และให้อภัยกันเยอะๆ