เดินทางกลับมาถึงประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยเมื่อเวลา 15.30 น.ที่ผ่านมา(12 ธ.ค.62) ท่ามกลางแฟนๆที่ไปให้กำลังใจกันคึกคักถึงสนามบินสุวรรณภูมิ “ฟ้าใส-ปวีณสุดา” มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ตัวแทนประเทศไทยที่สามารถทะลุเข้าสู่ท็อป 5 มิสยูนิเวิร์ส 2019 โดยเป็นสาวเอเชียเพียงหนึ่งเดียวจาก 90 ประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาเธอคือสาวงามที่เหล่าแฟนคลับนางงามมองว่าจะเป็นผู้ได้มงมาครอง เพราะถือว่าเป็นตัวเต็งและทำผลงานได้โดดเด่นบนเวทีประกวดครั้งนี้
ฟ้าใส เผยว่า รู้สึกภูมิใจมากๆ สำหรับท็อป 5 มิสยูนิเวิร์ส 2019 หลังจากรู้ว่าเข้ารอบก็ดีใจ แต่ถ้าไม่ได้ก็ภูมิใจเช่นกัน เพราะวินาทีนั้นในการตอบคำถามแต่ละคนตอบได้ดีมากๆ ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการจะชอบใครมากกว่า ยอมรับว่าในแต่ละรอบก็มีความคาดหวังเมื่อเห็นตัวเต็งหลายคนหลุดไปก็เริ่มหวั่นใจ คิดว่าขอให้ได้เข้ารอบต่อไปเรื่อยๆ
“สำหรับหนูแค่นี้ก็ยิ่งใหญ่มากๆ เป็นหนึ่งเดียวในเอเชียของท็อป 5 ไม่ผิดหวัง ภูมิใจมาก เพราะหนูเต็มที่กับทุกวัน ทุกก้าวแล้ว เพราะถ้าหนูทำไม่เต็มที่ก็จะกลับมาคิดว่าทำไมวันนั้นไม่ทำให้ดีกว่านี้ เมื่อทำได้เต็มที่แล้วก็เลยภูมิใจมาก”
เมื่อถามว่ารู้สึกว่าคำถามที่ได้รับยากไปหรือไม่ ฟ้าใส ตอบตรงๆว่า มองว่าหลายคำถามค่อนข้างจะง่าย ซึ่งถ้าได้คำถามอื่นๆ ตนคิดว่าจะสามารถตอบได้ในระดับหนึ่งเหมือนกัน แต่เมื่อได้คำถามนี้ก็ต้องตอบให้ดีที่สุดสุดความสามารถ ซึ่งตนก็ได้ย้อนกลับไปฟังคำตอบตัวเองอีกครั้ง คิดว่าตอบได้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้ว ตอนที่ได้ยินก็ตกใจเป็นคำถามที่เซนซีทีฟ(ละเอียดอ่อน) มากๆ ส่วนที่มีข่าวว่าท่านนายกฯ ชื่นชมคำตอบนี้ก็รู้สึกดีใจ
เธอยังบอกด้วยว่า สิ่งที่กังวลมากกว่าเป็นเรื่องอาการบาดเจ็บที่ดวงตา เพราะมีวันหนึ่งตื่นขึ้นมาแล้วไม่สามารถลืมตาได้ ซึ่งคิดว่าอีกวันคงหายดี แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น เพราะอีกวันหนึ่งกลับน้ำตาไหลออกมาเอง ทำให้ต้องปิดตาไว้ ซึ่งกองประกวดก็เข้าใจ เนื่องจากได้แจ้งไว้ก่อนหน้าแล้ว
“หนูเริ่มเจ็บตัวตั้งแต่ช่วงประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ประมาณเดือนมิถุุนายน หลังกลับมาจากเก็บตัวที่พัทยา กองประกวดให้ใส่คอนแทคเลนส์ใส แล้วตัวหนูมีปัญหากับคอนแทคเลนส์อยู่แล้ว ช่วงนั้นพักผ่อนน้อย ตาแห้ง จนถอดคอนแทคเลนส์ไม่ได้ ต้องไปโรงพยาบาลให้หมอถอดทำให้กระจกตาถลอก หนูก็รักษามาตลอด แต่รักษาไม่ถูกทาง หมอแนะนำให้ทำเลเซอร์ ซึ่งต้องให้แผลหายถลอกก่อน หนูก็ตั้งใจทำ แล้วเลเซอร์ชนิดนี้ต้องพักผ่อน 10 วัน เป็นเวลาเดียวกับการประกวด หนูก็จำเป็นต้องเลือกว่า จะเลือกตาหรือเลือกไปประกวดมิสยูนิเวิร์ส วันที่ประกวดรอบตัดสินหนูก็ใส่คอนแทคเลนส์ข้างเดียว ข้างขวาใส่ไม่ได้เลย”
จากนี้ ฟ้าใส บอกว่า จะสานต่องานกุศล และหากมีโอกาสก็อยากทำงานในวงการบันเทิง โดยเฉพาะงานพากษ์เสียงที่ใฝ่ฝันมาตั้งแต่เด็ก