"ฮยอนอา" เผยต้องต่อสู้โรคซึมเศร้า , ความวิตกกังวล และอาการเป็นลมหมดสติ

นักร้องสุุดแซ่บ “ฮยอนอา” โพสต์ข้อความเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพของเธอลงอินสตาแกรมส่วนตัวเมื่อช่วงค่ำวันที่ 28 พฤศจิกายน 2562 ที่ผ่านมา โดยเธอเผยว่าที่ผ่านมาเธอต้องต่อสู้โรคซึมเศร้า, ความวิตกกังวล และอาการเป็นลมหมดสติมาตลอด โดยข้อความระบุว่า

“สวัสดีค่ะ ถึงแฟนๆ ของฉันรวมไปถึงทุกๆคนที่ชื่นชอบและสนใจฉัน ฉันไม่แน่ใจว่านี่จะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องหรือเปล่า แต่มันเป็นอะไรที่ผ่านการคิดมามาก และกำลังจะบอกเรื่องของตัวเองให้ทุกคนได้รู้

ฉันฝันถึงการได้ยืนอยู่บนเวทีมาตลอดตั้งแต่ตอนที่เป็นเด็ก และฉันก็ทำมันให้เป็นจริง ฉันได้รับความรักและความสนใจมากเกินกว่าที่เคยจินตนาการเอาไว้ และฉันคิดว่านั่นเป็นการที่ทำให้ฉันได้เติบโต บางทีเพราะฉันเคยคิดว่ามีโอกาสพิเศษเข้ามามากในตอนที่ฉันเป็นเด็ก ฉันเลยรู้สึกปลื้มใจและตื่นเต้น ช่วงเวลานั้นฉันเองก็รู้สึกเศร้าด้วยเช่นกัน ช่วงเวลาหลังจากที่เดบิวต์ฉันก็กลายเป็นผู้ใหญ่ ทำให้ฉันคิดว่าตัวเองต้องรับผิดชอบทุกอย่างที่ทำ ฉันไม่ควรที่จะทำผิดพลาด และฉันต้องการเป็นที่ยอมรับของทุกคน เพราะความทะเยอทะยานเหล่านั้นทำให้ฉันได้แต่มองไปข้างหน้าและวิ่งอยู่ตลอด ฉันไม่รู้ตัวว่าฉันป่วย

อย่างไรก็ตามเพราะมีเหล่าคนที่ยอดเยี่ยมและแฟนๆ อยู่ข้างฉันมาตลอด มันเลยทำให้ฉันคิดว่าไม่เป็นไร ฉันเลยปล่อยมันไปพร้อมทั้งบอกกับตัวเองว่ามันไม่จริงหรอก ฉันยังโอเค แต่ก็ได้พบกับมันอีกครั้งหลังจากที่ฉันไปโรงพยาบาลในปี 2016 และพบว่าจิตใจของฉันป่วย มันเหมือนกับว่าเมื่อร่างกายคุณป่วยก็ต้องกินยา เมื่อเป็นไข้ก็ต้องกินยาแก้หวัด และฉันก็เป็นคนหนึ่งที่ต้องผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบาก ดังนั้นฉันไม่สามารถที่จะเชื่อว่าตัวเองจะเป็นโรคซึมเศร้าและวิตกกังวล ฉันไม่เชื่อมันมาเป็นปี

ตอนนี้ฉันได้รับการรักษา 2 สัปดาห์ต่อครั้ง และพยายามจะไม่คิดเกี่ยวกับมัน เพราะว่าฉันมีผู้คนอยู่รอบตัวมากมาย แต่เมื่อครั้งแรกที่ตาของฉันพร่ามัวและล้มลง หลายต่อหลายครั้ง จนฉันคิดว่าเป็นอาการของโรควิตกกังวล และพยายามจะเพิกเฉยต่อมัน อย่างไรก็ตามคุณหมอบอกให้ฉันไปเช็คคลื่นสมอง และพบว่าฉันมีอาการเป็นลมหมดสติ แต่ดูเหมือนว่าฉันไม่มีทางเลือก ฉันยังอยากจะยืนอยู่บนเวที ทำให้เกิดความกังวลว่า หากฉันเป็นลมบ่อยๆ ทุกคนก็จะรู้ว่าฉันกำลังป่วย พวกเขาก็จะไม่อยากให้ฉันแสดง ตั้งแต่ป่วยฉันไม่ต้องการที่จะบอกใคร และเก็บเป็นความลับมานาน แต่เมื่อไหร่ที่ฉันล้มลงอีก ฉันคงจะวิตกกังวลกับตัวเองและรู้สึกเสียใจทั้งตอนที่ถ่ายโฆษณา, ในงานอีเว้นท์ หรือบนเวที ฉันเสียใจต่อคนหลายๆ คนที่เชื่อในตัวฉัน จึงอยากที่จะปลดปล่อยความรู้สึกเหล่านี้แม้จะเป็นเพียงเล็กน้อย นี่คือเหตุผลว่าทำไมฉันจึงออกมาพูดความจริง แม้ว่าด้วยความระมัดระวังฉันไม่ต้องการที่จะซ่อนมัน ฉันอยากจะเดินต่อด้วยความกล้าหาญและพยายามที่จะกลับมาสบายดี ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ ฉันคิดว่ามันยังไม่สาย จึงเรียนรู้ที่จะรักและดูแลตัวเอง รวมทั้งกล้าหาญและซื่อตรงเหมือนที่เป็นอยู่ตอนนี้ ขอบคุณที่อ่านข้อความนี้”