ปรากฎตัวในฐานะพรีเซนเตอร์รถยนต์ยี่ห้อหรู สำหรับวีรบุรุษใจบุญ “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” หลัง 30 กว่าปีที่ผ่านมาทุ่มเวลาแรงกายแรงใจช่วยเหลืองานเพื่อสังคมมาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงล่าสุดกับภารกิจช่วยเหลือพี่น้องประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคอีสาน โดยบิณฑ์เปิดบัญชีเพื่อรับบริจาคซึ่งมียอดปิดสูงถึง 422 ล้านบาท
.
โดยในงานนี้นอกจากบิณฑ์แล้วยังมีน้องชายสุดที่รัก “ไทด์ เอกพันธ์” เดินทางมาร่วมแสดงความยินดีด้วย บิณฑ์เผยว่า ตัดสินใจรับเป็นพรีเซนเตอร์รถยนต์ในครั้งนี้เนื่องจากได้รับการอนุเคราะห์ในช่วงที่ตนปฎิบัติภารกิจช่วงน้ำท่วม รวมถึงสินค้ามีความแข็งแรง และตนรู้สึกประทับใจ ส่วนค่าตัวในการเป็นพรีเซนเตอร์ตกลงกันที่ 8 หลัก ซึ่งเงินดังกล่าวตนได้นำไปซื้อรถยนต์รุ่นเดียวกับที่เป็นพรีเซนเตอร์จำนวน 4 คัน จนหมดแล้วก่อนจะนำไปบริจาคให้กับมูลนิธิร่วมกตัญญูเพื่อช่วยเหลือสังคมต่อไป
.
งานนี้บิณฑ์และไทด์ยังชี้แจงกรณีการเข้าแจ้งความในเหตุการณ์ที่ตนนำเงินบริจาคน้ำท่วมมอบให้พี่น้องที่ได้รับผลกระทบ แต่กลับมีผู้ไม่หวังดีชื่อ “แม่กุ้ง” หักหัวคิวจากชาวบ้าน โดยนำรายชื่อชาวบ้านที่ไม่ได้เป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบอุทกภัยจริงเข้ารับเงินจากทีมงานของบิณฑ์ซึ่งปกติจะจ่ายช่วยเหลือรายละ 5,000 บาท แต่ “แม่กุ้ง” ได้ผันตัวเป็นหัวโจกหักหัวคิวชาวบ้านรายละ 4,000 เหลือถึงมือชาวบ้านเพียง 1,000 บาทเท่านั้น โดยอ้างว่าเงินจำนวน 4,000 จะถูกนำไปเป็นค่าดูแลส่วนตัว ที่พัก อาหารของบิณฑ์ ซึ่งที่ผ่านมามีชาวบ้านที่รับเงินจาก “แม่กุ้ง” เกือบ 200 ราย แต่มีเพียง 64 คนเท่านั้นที่ยินดีจะคืนเงินให้กับบิณฑ์
.
ในมุมตนรู้สึกไม่ควรโกงเงินของประชาชน ซึ่งที่ผ่านมาเองฟาก “แม่กุ้ง” แสดงความบริสุทธิ์ใจ เดินหน้าจะฟ้องกลับบิณฑ์ทันที โดยตอนนี้เองบิณฑ์เผยต่อว่า ยังไม่มีจดหมายศาลกลับมาหาตน ซึ่งตนยินดีต่อสู้ ไม่กลัว มีงัดหลักฐานพร้อมทั้งภาพและเสียง รวมถึงชาวบ้านต่างๆ ที่พร้อมเป็นพยานให้บิณฑ์ รู้สึกเสียใจมากเพราะชาวบ้านที่สมควรได้กลับไม่ได้ และหากคดีมีการตัดสินว่า “แม่กุ้ง” ผิดจริง ตนมองว่ายังไม่แน่ใจจะมีการฟ้องกลับหรือไม่ เนื่องจากอยากให้มันจบ เป็นคดีที่ยอมความได้
.
ส่วนที่ผ่านมาหลัง นายสันติ ภิรมย์ภัคดี คุณพ่อของ “ต๊อด ปิติ” สามีของนางเอก “นุ่น วรนุช” ผู้ใหญ่ใจดีมองเห็นถึงความเสียสละของตนและยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือโดยมอบเงินเดือนให้บิณฑ์ได้ใช้จ่ายในเรื่องส่วนตัวตลอดชีวิตเป็นจำนวนเดือนละ 150,000 บาทนั้น ตนรู้สึกขอบคุณ เกรงใจมาก แต่ผู้ใหญ่ยืนยันจะมอบให้ตนจึงยินดีรับไว้เนื่องจากตนก็ยังมีภาระต่างๆ ที่ต้องดูแลอยู่จริง
.
ส่วนอาการของคุณแม่ปรางทิพย์ วัย 83 ปี ที่เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเป็นเวลา 2 วันหลังป่วยหลายโรครุมเร้าทั้ง โรคไต และปอดติดเชื้อ บิณฑ์และไทด์เผยว่าคุณแม่อาการดีขึ้นมากหลังกลับมาที่บ้าน ร่างกายแข็งแรงดี เหมือนไม่เคยเป็นคนป่วยมาก่อน ซึ่งที่ผ่านมาน้องสาวอีกคนเป็นคนดูแล เชื่อว่าคุณแม่อาการดีขึ้นเรื่อยๆ ได้ น่าจะมาจากความดีที่ตนได้ทำแล้วภาวนาให้คุณแม่ รวมถึงกำลังใจดีๆ จากคนรอบตัว.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน
ภาพเพจเฟซบุ๊ก : สุดยอด ร่วมกตัญญู