ไม่ใช่คนเนรคุณ “เจนนี่” ย้ำส่งเสียพ่อตลอด เชื่อชื่อเสียงเป็นเหตุ

หลังคุณพ่ออภินันท์ สุวรรณเกตุ พ่อของนักร้องสาว “เจนนี่-รัชนก” หรือ เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่อ อัดคลิปวิดีโอขอโทษลูกสาวและได้โพสต์ลงเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยวอนสังคมให้เข้าใจว่า ป้าที่ออกมาโพสต์ข้อความเป็นพี่สาวที่รักตนมาก จึงได้ทำลงไป พร้อมขอโทษลูกสาวและอยากให้ทุกอย่างยุติลงโดยเร็ว จบในวันนี้ได้ก็ยิ่งดี รวมถึงยังอยากให้ลูกสาวถอดแจ้งความที่ได้แจ้งไว้กับป้านั้น


เวลาห่างกันเพียงหนึ่งชั่วโมง นักร้องสาว เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น ก็ได้ให้สัมภาษณ์เปิดใจในรายการคุยแซ่บโชว์ทั้งน้ำตา ว่าได้เห็นข้อความดังกล่าวเมื่อวานนี้(25 ต.ค.62) เวลาประมาณ 20.00 น.หลังทำงานเสร็จระหว่างที่ขึ้นรถตู้ และเห็นปฏิกิริยาของคนในทีม แดนเซอร์ ที่สำคัญคือเห็นแม่ร้องไห้ พร้อมบอกตนว่า แม่เคยบอกแล้วใช่ไหม ให้ถอนตัวมาตั้งแต่แรก 


“พ่อกับแม่แยกทางกันตั้งแต่หนูยังเล็ก หนูรักแม่ แต่มองว่าเขาก็คือพ่อ หนูอยากคุยกับพ่อตลอด แม่จะบอกตลอดให้ถอย ไม่อยากให้ยุ่ง แต่หนูก็จะเกลี้ยกล่อมแม่ตลอดว่าอยากช่วย อยากตอบแทนพระคุณ และได้ติดต่อกันตอนอายุ 9 ขวบ และพ่อก็หายไป จนมาเจอกันอีกครั้ง 2-3 ปีที่้ผ่านมา หนูไม่เคยโกรธ เกลียดที่พ่อทิ้งไป ไม่เลี้ยงดู เพราะเขาก็นมีครอบครัวที่ต้องดูแล”


เจนนี่ ยังบอกด้วยว่า ป้าที่ออกมาโพสต์ให้ความเท็จทุกอย่าง หากเรื่องไหนจริงตนจะยอมรับ เรื่องพ่อส่งเสียตนตลอดนั้นไม่มี ตนเลี้ยงตัวเองมาตั้งแต่เด็ก รวมถึงเรื่องที่บอกว่าพ่อเป็นคนแต่งเพลงเลิกคุยทั้งอำเภอเพื่อเธอคนเดียว เพราะตนเป็นคนแต่งเอง เพียงแค่ส่งเพลงที่เสร็จแล้วไปให้พ่อฟังเพื่อให้พ่อชื่นชม ด้วยความที่พ่อเป็นนักแต่งเพลง 

นักร้องสาวยอมรับด้วยว่า ไม่สนิทกับพ่อเพราะไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่การกล่าวหาว่าตนมองพ่อเหมือนขอทานนั้นยิ่งไม่จริง ตนให้เงินปกติ เพลงไหนลูกค้าจ้างก็จะให้พ่อ เพราะตนเห็นพ่อไม่สบาย จึงส่งงานแต่งเพลงให้เพื่อจะได้มีรายได้ และยังเป็นเรื่องเดียวที่ตนคุยกับพ่อแล้วแม่ไม่ว่า จริงๆ เรื่องเหล่านี้ตนไม่จำเป็นต้องออกมาพูด เพียงแต่อยากพูดเพื่อปกป้องตัวเอง ทุกครั้งเวลาพูดเรื่องเงินกับพ่อก็มักจะมีความไม่ลงตัวตลอด จนถึงสุดๆ แล้ว 

“เรื่องเกิดขึ้นเมื่อ 3 วันก่อนเราทะเลาะกัน หนูให้คุณพ่อแต่งเพลงให้ลูกค้า และหนูก็เพิ่งโอนเงินไปให้พ่อ 3,000 บาท จากนั้นพ่อก็โทรศัพท์มาหาหนู แต่หนูไม่ได้รับ 4 สาย เพราะรู้ว่าพ่อต้องโทรมาเรื่องเงิน แล้วคือเป็นช่วงที่หนูยุ่งมาก เหนื่อยมาก แม่เพิ่งผ่าตัด หนูก็เป็นห่วงแม่ แล้วหนูก็ยังต้องถ่ายเอ็มวีอีก จนช่วงค่ำพ่อโทรมาหนูก็เลยรับ คุยไปคุยมาก็เป็นอย่างที่้คิด เข้าเรื่องเดิม สเต็ปเดิม หนูก็ยิงตรงเลยคราวนี้ ถามไปว่าจะพูดเรื่องอื่นบ้างได้ไหม แต่ด้วยความตรงของหนู ทำให้กลายเป็นเรื่อง ต้องเข้าใจหนูด้วย แม่หนูผ่าตัดมีก้อนเนื้อในตัว 4 ก้อน จะเป็นยังไงก็ยังไม่รู้ หนูเหนื่อยนมาก และหนูก็เพิ่งให้เงินพ่อไป” 

นักร้องสาว บอกต่อว่า ความคิดตนคือพ่ออาจจะไประบายให้ป้าฟัง ป้าจึงจัดหนัก และเชื่อว่าวันที่ตนให้เงินพ่อป้าไม่เคยรู้ ซึ่งตนก็ไม่เคยรู้จักป้ามาก่อน แม่บอกว่าเป็นพี่ของพ่อ ตนก็รอเมื่อไหร่พ่อจะออกมาพูดปกป้อง เมื่อพ่อโพสต์ก็รู้สึกดีขึ้น แต่ยังเสียใจ ไม่โกรธพ่อ ไม่เคยโกรธ ยินดีที่จะคุย แต่ไม่ขออภัยให้กับป้า

เมื่อถามว่าพ่อเป็นโรคพิษสุราเรื้อรังด้วยเหตุผลนี้ด้วยหรือไม่จึงมักมีปัญหาเรื่องเงิน เจนนี่ ตอบว่า เหตุผลนี้ก็จะเป็นอีกเหตุผลหนึ่งเวลาที่จะโอนเงินให้ต้องคิดทุกครั้ง ต้องอยู่ในขอบเขตที่พอดี ไม่ใช่ 2-3 วันมาขออีก ตนเหนื่อยมาก ทำงานไม่ได้หยุด ไม่มีเวลาที่จะกินข้าวด้วยซ้ำ แต่กลับต้องโดนบั่นทอนจิตใจเรื่อยๆ ยืนยันว่าตนไม่เคยพูดคำหยาบกับพ่อเลย เพียงแต่วันหนึ่งก็ถึงเวลาต้องพูดตรงๆ

“เรื่องที่พ่อป่วยหนูไม่ได้ไปเยี่ยมจริง แต่จัดการเรื่องค่าใช้จ่ายให้ หนูไม่จำเป็นต้องโพสต์บอกว่าหนูโอนเงินให้พ่อแล้วนะคะ เพราะคนที่หนูต้องให้ความสำคัญคือแม่ ต้องให้เกียรติแม่ที่เลี้ยงหนูมา บางครั้งหนูก็ต้องแอบแม่ให้พ่อ เรื่องงานบวชก็เป็นช่วงที่หนูเดินสายพอดี ตัดสินใจจัดงานบวชให้พ่อ แล้วหนูก็โครตดีใจเพราะพ่อบอกว่าเหมือนได้เกิดใหม่ และลูกสาวให้เงินจัดงาน ครั้งนั้นให้ไป 20,000 บาท”

เจนนี่ ยังเผยด้วยว่า ก่อนหน้านี้ให้เงินเดือนพ่อเดือนละ 5,000 บาท แต่พ่อจะเอาเท่าแม่ไม่ได้ เพราะตนอยู่กับแม่มา ถ้าพ่อทิ้ง แล้วแม่ทิ้งไปอีกตนจะมีวันนี้หรือไม่ ก่อนหน้านี้ตอนที่ตนต้องทำงานคืนละ 4-5 ร้านเพื่อเอาเงินมาให้น้องสาวได้เรียนหนังสือ ต้องดร็อปเรียน ต้องหนีหนี้ ไม่มีใคร ทำไมวันนี้ทุกคนต้องมารุมทำร้ายตน

“หนูไม่อยากพูดมาก เพราะมันจะทำร้ายพ่อ ไม่อยากให้คนไปเกลียดพ่อ แต่หนูต้องปกป้องตัวเอง เอาจริงๆ หนูอยู่กับแม่มา หนูให้แม่เดือนละ 2 แสนยังน้อยไป พ่อจะเอาเท่าแม่ไม่ได้ บางคนอาจจะมองว่าหนูให้พ่อน้อยไป แต่สำหรับหนูมันเหมาะสมแล้ว อีกอย่างเดือนหนึ่งก็ไม่ได้ให่้แค่ครั้งเดียว 2-3 วันมาก็มีค่านั่นค่านี่อีก มีครั้งหนึ่งพ่อบอกจะไปโรงพยาบาลขอเงินหนูไปหาหมอ หนูก็โอนไปให้แล้วพ่อก็บอกว่าเอาไปจ่ายเงินค่าเทอมน้องคนเล็กอีกแล้ว หนูให้พ่อไปหาหมอ ก็ทะเลาะกันอีก 

นักร้องสาวยังยืนยันอีกครั้งว่า ตนไม่เคยเนรคุณใคร ไม่ว่าตนจะมีข้าวกินหรือไม่มีกิน แม่และน้องต้องได้กิน คนที่ให้ข้าวให้น้ำยรามลำบาก ตนกลับไปตอบแทนทุกคน ไม่เคยลืม ส่วนเรื่องแจ้งความป้าเรื่องให้การเท็จหากพ่ออยากให้จบ ตนก็จะจบ

ทุกวันนี้เจนนี่ต้องดูแลลูกน้อง 30 คน ซึ่งแต่ละคนจะได้เงินเดือนๆ ละ 30,000 บาท โดยมีรายได้จากคอนเสิร์ตครั้งละ 2 แสนบาท ซึ่งจะเลี้ยงข้าว เปิดโรงแรมให้ทุกคน กินอะไรจะกินเหมือนกัน 

“ในคลิปพ่อบอกว่าจะไม่ติดต่อกันแล้ว จะอยู่ห่างๆ ที่ผ่านมาหนูไม่เคยทิ้งพ่อและดูแลพ่อตลอด และจะยังคงไม่ทิ้งพ่อ ยังคงเคารพ และยังบอกทุกคนได้เสมอว่า นี่คือพ่อของหนู พ่อคือพ่อคนเดิม หนูมีสายเลือดศิลปินมาจากพ่อ” 

ในส่วนของป้า เจนนี่ บอกว่า ไม่อยากคุย ไม่อยากเจอ และไม่อยากรู้จักด้วย ไม่ใช่ญาติตน ในส่วนของพ่อคงต้องใช้เวลา และยังคงให้การช่วยเหลืออยู่ในเหตุผล หัวหน้าครอบครัวคือแม่ สิทธิ์อยู่ที่แม่ เชื่อว่าเงินและชื่อเสียงเป็นเหตุ  

เข้าชม 74 ครั้ง
ดูข่าวเพิ่มเติม