ศาลเจ้ากลางป่าในนางาโนะกับต้นสนยักษ์อายุกว่า 800 ปี มุมไม่ลับที่คนไม่ค่อยรู้

เข้าเดือนตุลาฯ ใบไม้เริ่มเปลี่ยนสีไปเที่ยวญี่ปุ่นกันดีกว่า…คนชอบเที่ยวเคยลองนับไหมว่าไปญี่ปุ่นมากี่ครั้งแล้ว ถ้ายังไม่เคยไป เมืองท่องเที่ยวใหญ่ๆ อย่างโตเกียว เกียวโต โอซาก้า ฮอกไกโด อาจจะน่าดึงดูดใจมากกว่า แต่หากไปมาหลายครั้งจนนับแทบจะครบสิบนิ้วในมือแล้ว มุมไม่ลับแต่อาจไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติย่างกรายไปเยือน ก็น่าสนใจเหมือนกันนะ 



อย่างศาลเจ้า Togakushi Shrine ศาลเจ้าอายุนับพันปีกลางป่าใหญ่ในนางาโนะ ก็เป็นอีกสถานที่หนึ่้งที่จะทำให้ผู้มาเยือนตกหลุมรักในทันที ยิ่งเป็นช่วงที่ใบไม้กำลังเปลี่ยนสีอย่างช่วงนี้ ความสวยแปลกตาของธรรมชาติที่รายรอบศาลเจ้าแห่งนี้จะยิ่งเพิ่มมนต์เสน่ห์ให้ Togakushi Shrine งดงามขึ้นอีกเป็นทวีคูณ

 


ความที่เป็นศาลเจ้าขนาดใหญ่ที่ซ่อนตัวอยู่กลางป่า ทั้งยังมีจุดให้เดินชมและสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ถึง 3 ชั้น 3 ระดับ หลายคนที่ไม่ชอบความเหน็ดเหนื่อยอาจจะหวั่นใจเรื่องการเดินอยู่บ้าง แต่แท้จริงแล้วการเดินทางไปยัง Togakushi Shrine สะดวกสบายมาก เพราะมีรถบัสให้บริการจนถึงศาลชั้นบน ยกเว้นช่วงฤดูหนาวที่มีหิมะปกคลุม รถบัสจะให้บริการถึงแค่ชั้นกลางเท่านั้น

 

แต่หากเข่ายังดีและการเดินไม่ใช่ปัญหา แนะนำว่าการลงรถบัสจากจุดลงรถชั้นล่างแล้วค่อยๆ เดินชมทัศนียภาพสองข้างทาง จะทำให้ดื่มด่ำกับความงามที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ได้มากกว่า เชื่อเถอะว่าตลอดระยะทางไม่กี่กิโลเพื่อขึ้นไปยังศาลเจ้าชั้นบนนั้นจะเต็มไปด้วยความตื่นตาตื่นใจจนต้องแวะถ่ายรูปเป็นระยะ

โดยเฉพาะเมื่อเดินทะลุผ่านประตู Zuishinmon Gate ไปพบเจอกับทิวต้นสนญี่ปุ่น Cryptomeria ใหญ่ยักษ์อายุกว่า 800 ปี จะรู้สึกราวกับว่าได้เดินผ่านประตูแห่งกาลเวลาเข้าไปยังอีกมิติหนึ่งที่เต็มไปด้วยความอัศจรรย์ 

การได้มองดูผู้คนเดินผ่านต้นสนยักษ์ที่ตั้งตระหง่านอยู่สองฟากฝั่ง ทำให้หวนกลับไปนึกถึงคำที่ว่า แท้จริงแล้วมนุษย์เราก็เล็กนิดเดียว ธรรมชาติสิยิ่งใหญ่ เพราะเมื่อเทียบกับขนาดต้นสนที่บ่มตนผ่านกาลเวลามาเกือบพันปีแล้ว แต่ละคนกลับดูเล็กกระจ้อยร่อยลงทันตา

เมื่อสองเท้าก้าวผ่านทิวต้นสน ขึ้นไปยังเนินเขาจะพบเจอกับศาลเจ้าชั้นบนที่ผู้คนต่างพากันไปขอพร โดยเฉพาะแถวซื้อเครื่องรางนั้นยาวเหยียดทีเดียว ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความศักดิ์สิทธิ์ขึ้นชื่อของเครื่องรางจากที่นี่ และอีกส่วนคิดว่าน่าจะเป็นเพราะไหนๆ ก็เหน็ดเหนื่อยกับการเดินขึ้นไปแล้วจึงต้องซื้อเครื่องรางกลับไปสักหน่อย เพราะไม่รู้ว่าเมื่อไรจะได้กลับไปอีกครั้ง

แต่นอกจากการสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์และซื้อเครื่องรางแล้ว เมื่อไปถึงบนนั้นเรายังจะได้ชมความงามของทิวเขาและเหล่าต้นไม้ใบไม้ที่เปลี่ยนจากสีเขียวสดไปเป็นหลากสีสัน ทั้งส้ม เหลือง แดง ม่วง อย่างเพลิดเพลินตา ชวนให้หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง

ขากลับจากศาลเจ้าใช้เส้นทางเดิมเดินย้อนกลับลงมา จนถึง Zuishinmon Gate หากใครใคร่กลับไปเที่ยวในเมืองก็เดินไปยังจุดขึ้นรถบัสจุดเดิม 

แต่สายธรรมชาตืที่รักป่ารักเขา เราแนะนำให้เดินศึกษาธรรมชาติและชมความงามของเส้นทางเดินป่า Togakushi ดู จะมีจุดให้ชมนั่นนี่ไปเรื่อยๆ ตามแต่ความสนใจ 

 

และสำหรับคนรักนก ที่นี่ยังมีนกหลากหลายสายพันธุ์ให้ดูด้วย ระหว่างเราจึงได้เห็นชาวญี่ปุ่นสะพายกล้องส่องนกเดินในป่าแห่งนี้กันหลายกลุ่ม

อย่างที่บอกว่าเริ่มเข้าสู่ช่วงใบไม้เปลี่ยนสีแล้ว ใครที่กำลังวางแผนจะไปชมความงามแห่งสีสันที่ญี่ปุ่น ลองใส่ Togakushi Shrine ไว้ในลิสต์ด้วยก็ดีนะ โดยเฉพาะคนที่ชอบความสวยแปลกตาแบบที่หาไม่ได้ในบ้านเรา แอบกระซิบบอกนิดว่านักท่องเที่ยวคนไทยน้อยมาก เหมือนเป็นมุมลับที่คนยังไม่ค่อยไปเยือนกันสักเท่าไร ใครชอบแนวนี้รับรองจะหลงรักที่นี่อย่างแน่นอน

เข้าชม 301 ครั้ง
ดูข่าวเพิ่มเติม