หลังหมดแรงแพ้น็อกบนสังเวียนการแข่งขันในรายการ 10 Fight 10 และมีอาการวูบ จนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลทันทีด้วยอาการไตวายเฉียบพลัน ซึ่งนักแสดงกล้ามล่ำ “ดิว ภัทรพล” ถึงกับออกปากว่าเหมือนเป็นวินาทีเฉียดตายที่รอดมาได้
อาการตอนนี้เป็นอย่างบ้าง
“อาการล่าสุดก็ดีขึ้นแล้วครับ ไตวายเฉียบพลันนอนโรงพยาบาล 4 วัน 3 คืน ให้น้ำเกลือ ให้ยา ก็ดีขึ้น ตอนนี้กลับมาแข็งแรง ผมอยากออกกำลังกายแล้ว เราซ้อมมวยเยอะ ออกกำลังกายจนเสพติดไปแล้ว นอนโรงพยาบาลเบื่อเตียงนอนมาก”
ก่อนหน้านี้เคยมีปัญหาเรื่องสุขภาพไหม
“ไม่ครับ ไม่เคยป่วย ไม่เคยอะไรเลย นี่เป็นครั้งแรกอาจเพราะหักโหมกับการซ้อมและการลดน้ำหนักภายในระยะเวลาสั้น 42 วัน ลดลงมา 15 กิโลกรัม คุณหมอบอกว่าสาเหตุมาจากตรงนี้ คือผมใช้ครอสนักมวยแบบโหดมาก ออกกำลังกายโดยที่คุมอาหารและไม่กินน้ำ กินน้ำแข็งเอา ซึ่งมันผิดหลักนะ ไม่ควรเอาเยี่ยงอย่าง แต่ว่าผมก็ไม่สามารถทำน้ำหนักได้ตามเกณฑ์ มันมาถึงจุดพีคแล้ว เวลาชกมวยจริงพลังงานเลยไม่พอ ก็เลยเกิดอาการยกที่ 3”
ในเวลานั้นรู้สึกตัวมากน้อยแค่ไหน
“อย่างที่เห็น ใจผม 100% อยู่แล้ว ตั้งแต่ยก 1-3 ผมใจสู้ตลอด เหมือนว่ายกที่ 2 ผมโดนต่อยและเสียคะแนน ยกที่ 3 ผมเลยต้องเดินเข้าทำผู้ต่อสู้ ผมเดินเข้ายับเลย โดยที่ไม่คำนึงถึงสังขารตัวเอง ว่าไหวขนาดไหน แต่ใจผมสู้ ใจไปเป็นล้านเลย เดินเข้าใส่ พุ่งเข้าใส่เลย”
ช่วงไหนที่ร่างหายเริ่มมีเอฟเฟ็กต์
“มีครับ เริ่มมีเอฟเฟ็กต์ตอนพักยกที่ 2 เริ่มรู้สึกว่ายังพักไม่พอ ยังรู้สึกเหนื่อยๆ รู้สึกไม่สดชื่น พอกรรมการบอกให้เตรียมพร้อม เราก็เลยต้องขึ้นไปแล้ว”
พอคนรู้ว่าเป็นภาวะไตวายเฉียบพลัน น่ากลัวมาก
“มันก็น่ากลัวครับ หมอบอกว่าถ้ามาช้ากว่านั้นก็อาจจะเป็นอะไรที่แย่กว่า ไตอาจจะวายไปเลย ต้องฟอกไต หรืออาจเสียชีวิตก็ได้ ไตวายเฉียบพลันคือร่างกายขาดน้ำขั้นสุด เลือดเป็นกรด มันเลยไม่สามารถไปเลี้ยงอวัยวะส่วนต่างๆได้”
ช่วงที่ลดน้ำหนัก มีผู้เชี่ยวชาญมาบอกหรือไม่ว่าจะมีเอฟเฟ็กต์ตามมา
“มีครับ แต่เราก็ดื้อ ไม่ฟัง โค้ชอองตวน ( อองตวน ปินโต ) ก็บอกว่าให้กินบ้าง อะไรบ้าง อย่าหักโหม พี่เจ ( เจตริน วรรธนะสิน ) ก็บอกว่าให้ทำอย่างอื่นบ้าง กินบ้าง อย่ามัวแต่หักโหม มันไม่ดี เราก็ดื้อเพราะไม่อยากให้ทีมเสียคะแนน เราก็พยายามทำให้ดีที่สุด สุดท้ายก็ลงมา 15 กิโลกรัม จริงๆยอดทั้งหมดผมต้องลง 21 กิโลกรัมนะแต่ผมทำได้แค่นี้”
เข็ดไหม เพราะมันเสี่ยงถึงชีวิต
“คนเราไตวายมันอาจจะทำให้เสียชีวิตได้ ตอนเลือดข้น เลือดเป็นกรด ไตจะทำงานหนักมากจนทำให้น็อค จริงๆผมไม่ได้หมดสตินะ ยกที่ 3 ผมรู้สึกว่าผมเข้าไปต่อย แอนด์ดรูวร์ แล้วผมรู้สึกว่าผมเหนื่อย กรรมการก็เลยจับแยก จังหวะนั้นถึงรู้สึกว่าภาพเริ่มมืด ม่านตาเริ่มปิด แต่ใจสู้ กรรมการเห็นว่าเราไม่ไหวก็เลยนับ ผมก็ยังยกมือว่าไหว กรรมการบอกไม่เอาแล้วๆ ตอนนั้นตาผมอาจจะเริ่มลอยแล้วก็ได้”
หลังจากนี้จะกลับไปลดน้ำหนักอีกไหม
“ผมตั้งใจไว้ว่าจะเล่นเพาะกายต่อ จะแข่งชิงแชมป์ประเทศไทย ผมคุยกับ กาย ( รัชชานนท์ สุประกอบ )แล้ว มองเขาเป็นไอดอล”
ไม่กลัวเหรอ เพิ่งผ่านเหตุการณ์นั้นมา
“ไม่กลัวครับ มันไม่ได้เป็นเพราะกีฬา มันเป็นเพราะตัวผม กีฬาไม่ได้ทำร้ายใคร กีฬาทำให้เราแข็งแรง แต่เราหักโหมกับมันมากเกินไป ทำให้เกือบจะเสียชีวิตไปกับมัน”
มีการติดต่อกับรายการถึงการรับผิดชอบไหม
“ไม่ๆ เขามีประกันของบริษัทดูแลอยู่แล้ว มันไม่ใช่ความผิดของรายการ เป็นความผิดของผมเอง จริงๆเขามีเวลาให้ลดมากกว่านี้ แต่ด้วยงานด้วยอะไร เราเลยมีเวลาน้อย ผมเบรกงานเดือนกรกฎาคมทั้งหมด เพื่อฝึกซ้อมเลยมีเวลา 42 วัน ผมจริงจังกับมัน 100% ทีมงานไม่ผิด ไม่มีใครผิด ผิดที่ตัวผมเอง มีคนเตือน มีคนบอก แต่ผมเป็นคนที่ทำอะไรแล้วมุทะลุ บ้าพลังเกินไปโดยไม่ดูสังขารตัวเอง ความผิดทุกอย่างเป็นของผมเองดีกว่า อย่าโทษคนอื่น เขามีเวลาให้มากกว่า 42 วัน”
ผลการแข่งขันที่ออกมา เสียดายไหม
“เสียดายครับ อยากชกอีก ถ้าไม่ลดน้ำหนักมากขนาดนี้ ผมน่าจะทำได้ดีกว่านี้”
คนมองว่ารุ่นและขนาดทำให้มีผล
“ก็ด้วยครับ นักมวยเวลาลดน้ำหนักลงเยอะๆ ไม่ว่าจะเก่งขนาดไหน แรงมันก็จะหายไป โค้ชอองตวนเตือนแต่แรกแล้วว่า ถ้าลดน้ำหนักขนาดนี้จะไม่มีแรงนะ แต่ผมก็คิดว่าไหว เมื่อก่อนอายุไม่ถึง 30 ปี ลดง่าย พออายุเลย 30 ทุกอย่างมันเริ่มยาก”
คนมองว่าเรากับ “แอนด์ดรูวร์” ไม่ควรชกด้วยกัน
“เหมือนคนละไซส์ใช่ไหมครับ ขนาดลดน้ำหนักมาแล้วช่วงต่างก็ยังดูต่างกัน วันนั้นช่วงต่างเป็น 10 กิโลกรัม”
เรื่องนี้มีผลไหม
“ก็มีผลนิดหนึ่งครับ บางคนต้องเพิ่ม บางคนต้องลด แอนด์ดรูวร์ ต้องเพิ่ม ผมต้องลด การกิน การออกกำลังกายมันต่างกัน ถ้าผมต้องเพิ่มผมสบายเลย”
ร่างกายกลับมา 100% หรือยัง ต้องระวังอะไรอีกไหม
“ก็มีดูแลเรื่องไต เรื่องอาหารการกิน ดูแลสุขภาพ เพราะไตเป็นอวัยวะหนึ่งที่สำคัญต้องดูแลดีๆ ได้ยินว่าก็ไม่ง่ายนะ ถ้าต้องรักษาอาการไตวาย ฟอกไตก็ใช้เงินเยอะ ส่วนร่างกายผมว่าผมกลับมา 100% นะ ผมว่าผมฟิตแล้ว หมอก็บอกเจาะเลือดดูค่าไต มันโอเคแล้ว เลือดไม่เป็นกรดแล้ว ทุกอย่างเข้าภาวะปกติ แต่ก็บอกว่าอย่าเพิ่งออกกำลังกายหักโหม และให้ดูแลสุขภาพให้ดี สัปดาห์นี้หมอบอกว่าอย่าเพิ่งออกกำลังกาย งดการออกกำลังกายที่ใช้กล้ามเนื้อเยอะ หมอก็นัดตรวจอีกครั้งประมาณสัปดาห์หน้าครับ”