เลิกรากันแล้วจริงๆ นางร้ายช่อง 3 “มะปราง วิรากานต์ เสณีตันติกุล” กับแฟนหนุ่มสุดเซอร์ “อัทธ์-อังค์กูณฑ์ ธนาทรัพย์เจริญ” นักร้องนำวง “Yes’sir Days” หลังคบหาดูใจกันมานานถึง 5 ปี ล่าสุดนางร้ายสาวได้มาออกงานอีเวนท์พร้อมเผยอย่างหมดใจให้ฟังแบบนี้
.
ถามถึงเรื่องที่เลิกรากับ “อัทธ์ อังค์กูณฑ์”
“ใช่ เลิกกันแล้ว จริงๆ สาเหตุมาจากที่เราสองคนคุยกันไว้ตั้งแต่แรก มีข้อตกลงอะไรบางอย่าง ที่ผ่านมาเราพยายามมองข้ามปัญหาไปเรื่อยๆ อยู่ด้วยกันมันดีและมีความสุข แล้วก็บอกว่าปัญหาพวกนั้นมันคงไม่มีอะไร แต่พอวันหนึ่งที่เราอยากข้ามสเต็ป แต่กลับข้ามไม่ได้ จริงๆ ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่หนัก แต่มันไปต่อไม่ได้”
.
ใครเป็นฝ่ายตัดสินใจถอย หรือ ทำผิดข้อตกลง?
“ไม่มีใครทำผิดข้อตกลง แค่ไปไม่ถึงจุดที่จะข้ามสเต็ปต่อไปได้ ไม่มีฝ่ายไหนตัดสินใจก่อน แต่คุยกันแล้วว่า ถ้าเกิดเป็นแบบนี้ต่อไปยังไงก็ข้ามสเต็ปไม่ได้ สเต็ปที่ว่านั้นก็คือ การแต่งงาน ที่ผ่านมาเชื่อว่าเขามองอนาคตร่วมกันกับเราแน่นอน พี่อัทธ์เป็นคนดีและน่ารัก ไม่อย่างนั้นไม่ครบมา 5 ปีขนาดนี้ แต่ตอนนี้เราโตแล้ว ไม่ใช่แค่คบกันแบบว่า เฮ้ย! ไปเที่ยวกันเหอะ เราก็เลยรู้สึกว่าจะไม่ถ่วงเวลากัน”
.
รักหวานมาตลอดมาสะดุดที่อะไร ?
“มันมีปัญหาอยู่ พยายามแก้ปัญหานี้ แต่แก้ไม่ได้ แล้วไม่ใช่เรื่องใหญ่ แค่ว่าข้ามไม่ได้”
.
หลายคนบอกว่าครอบครัวเราไม่ปลื้มฝ่ายชาย ?
“ถ้าไม่ปลื้ม พี่อัทธ์คงไม่สามารถมาเข้าออกบ้านเราได้ถึง 5 ปี ไม่เกี่ยวกับครอบครัวเลย ที่บ้านเราเป็นครอบครัวใหญ่ด้วย ทุกคนเอ็นดูเขา ลองถามเขาดูก็ได้ วันที่เลิกกันก็ตกลงกันต่อหน้า พี่อัทธ์น่ารักและปลอบใจเราด้วยซ้ำ”
.
จุดแตกหักที่ทำให้ไปต่อไม่ได้?
“เราโตขึ้น จุดที่ทำให้เรารีบตัดสินใจ คือคุณแม่เป็นโรคกระดูกพรุนเลยรู้สึกว่าตัวเองต้องรีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อต้องดูแลแม่ให้ดีที่สุด การตัดสินใจครั้งนี้ก็เสียใจทั้งสองฝ่าย วันนั้นที่คุยกันเราเฮิร์ตมากกว่า แล้วต้องปรบมือให้พี่อัทธ์ด้วย ถ้าไม่มีเขา เราคงผ่านวันนั้นมาไม่ได้ เขาไม่ร้องและตบไหล่เราด้วยซ้ำ แต่ว่าเราล้มก็ต้องรีบลุกเนอะ ฝากบอกพี่อัทธ์ด้วยว่าเราต้องรีบลุก”
.
ทำไมการที่เราจะก้าวไปข้างหน้า ถึงไม่มีเขา?
“มันมีเหตุผล ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่ยาก 5 ปีที่ผ่านมาเราไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองเสียเวลากับเขาเลยแต่มีความสุขมาก ทุกวันนี้ก็ห่วงพี่อัทธ์มากๆ อยากให้เขามีชีวิตต่อไปที่ดีงาม คิดบวกต่อไปเรื่อยๆ เชื่อว่าเขาต้องเจอคนที่ดี แต่ที่เราดูแลเขาไม่ได้เพราะเราต้องดูแลแม่ของเรา”
.
โอกาสที่จะกลับมามีไหม?
“ไม่มี ณ ตอนนี้ยังไม่เปิดโอกาสด้วย เราก็เดินต่อไปข้างหน้า อีกอย่างเชื่อว่าความรักสามารถเปลี่ยนเป็นรูปแบบอื่นได้ เรารักเขาเท่าเดิม แต่ไม่ใช่แบบเดิมอีกต่อไปแล้ว แต่ถ้าเขาเดือดร้อนเราก็พร้อมดูแล หรือถ้าเขามีคนอื่นเราก็ยินดีดีใจด้วย ส่วนเราตอนนี้ให้ครอบครัวยืนหนึ่ง แล้วก็คนที่จะเข้ามาเป็นคนต่อไปก็ต้องขอให้เขารักครอบครัวเรามาก”
.
พูดแบบนี้หลายคนจะเข้าใจว่าท้ายที่สุดก็เกี่ยวกับครอบครัว”
“ไม่ พอยต์ที่ตัดสินใจแบบนี้เพราะอยากดูแลตัวเองให้ดี เพื่อที่จะดูแลครอบครัวให้ดี เพราะที่ผ่านมาเราดูแลกันและกันสองคน”