หลังช่วงดึกเมื่อคืนนี้(2ก.ค.62) นักแต่งเพลงชื่อดัง “ดี้ นิติพงษ์” โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า “ด่วน นักแต่งเพลงถังแตก มัวแต่ทำงานการกุศล ขอประกาศขายเปียโน กีตาร์ สนใจสอบถามได้ทั้งหน้าไมค์หลังไมค์” ต่อมาได้โพสต์อีกครั้งโดยมีใจความว่า “ตอนนี้รายได้ยังพอมี แต่รายจ่ายมันเยอะมาก ชีวิตคนเราก็แบบนี้ อยากเริ่มขายของที่เคยซื้อมาตอนฟุ่มเฟือย ขายเปียโนในราคาไม่แพง กีตาร์หลายตัวที่ปล่อยให้อยู่เฉยๆ อยากให้คนที่อยากได้เอาไปเล่น รวมถึงของมีค่าอย่างอื่น” ทำเอาหลายคนสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับนักแต่งเพลงคนดังหรือเปล่า?
.
ล่าสุดวันนี้(3ก.ค.62) “ดี้” ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการตกมันส์บันเทิง ทางช่อง 9 MCOT HD ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ว่า “คือเรามีไอเดียขึ้นมาอย่างนึง มันจริงครึ่งไม่จริงครึ่ง คือเป็นเรื่องของลูกที่กำลังจะไปเรียนต่อต่างประเทศ ใน 1-2 เดือนนี้ เขาเป็นคนเล่นเปียโนตัวนี้ แต่ไม่ได้เล่นมานานแล้ว ผมก็ไม่ได้เล่น เลยมานั่งมองเล่นๆ ว่าน่าจะขายๆ ไป คือคิดไปเรื่อยๆ ของมันเยอะเพราะเราซื้อตอนที่เราอยากซื้อ แต่ไม่ค่อยได้ใช้ กีตาร์ก็ไม่ค่อยได้เล่นไม่รู้จะซื้อมาทำไมตั้ง 4-5 ตัว ประจวบกับรายจ่ายรายได้เป็นตามนั้น แต่ไม่ถึงกับรุนแรงอะไร เพราะอาชีพนักแต่งเพลงก็ไม่ค่อยร่าเริง ต้องมีงานอื่นๆ ทำกันไป แต่ส่วนใหญ่เป็นโปรเจ็กต์ชิ้นที่ไม่ค่อยได้เงิน
.
ส่วนที่ก่อนหน้านี้เคยพูดไว้ว่า เพลงก็เหมือนอากาศ เพราะอากาศหายใจฟรี ถามว่ายังเป็นแบบนั้นอยู่มั้ย นักแต่งเพลงชื่อดังกล่าวว่า “ตอนนี้ดีขึ้น แต่ยังไม่ถึงกับทำให้เป็นอาชีพที่น่าส่งเสริมให้ลูกหลานเป็น แต่มันไม่ใช่ประเด็นหลัก คืออยู่ๆ ก็มีอารมณ์ว่าของมันเกินจะทำยังไง จะขายไหม มันก็คิดขึ้นมาเฉยๆ จนกระทั่งมีคนมาคอมเมนต์แนะนำ เลยได้ไอเดียว่าอาจจะเอาของไปประมูล แล้วเอาเข้าการกุศลดีว่า เข้าโรงพยาบาลศรีธัญญา แต่กำลังคิดอยู่ ว่าน่าจะทำอะไรสนุกๆ แล้วให้เป็นการกุศลด้วย”
.
สำหรับเรื่องที่ว่ารายได้มีแต่รายจ่ายเยอะกว่า ดี้ เผยว่า “รายจ่ายมันคงที่แต่รายได้ไม่คงที่ บอกกับหลายๆ อาชีพเลย ยิ่งที่ทำงานบันเทิง ว่าตอนที่มีเงินเยอะๆ แล้วใช้เยอะ ถ้าวางแผนไม่ดี มันจะเริ่มมีความตึงๆ ยอมรับว่าตัวเองล้ำเส้นไปหน่อยในช่วงนึงของชีวิต แต่ตอนนี้ไม่ได้อะไรมาก แค่เห็นความน่ากลัวในการวางแผนการใช้เงินไม่ดีเท่าที่ควร ประกอบกับเห็นใครโพสต์รวยๆ เราเลยอยากโพสต์โชว์จนบ้าง เราแค่สงสัยว่าเขาทำมาหากินอะไร ถึงซื้อรถคัน 20 ล้านบาท มีนาฬิกา 3 ล้านบาท คือมันมีความปะปน สับสนกันหลายอารมณ์ มาคิดได้ว่าข้าวของวันนึงมันเป็นส่วนเกิน เราจะทำยังไงกับมัน คือภาษาที่เราพิมพ์มันอาจจะไม่ดีเฉยๆ ส่วนเรื่องงานการกุศล ต้องบอกเลยว่าเหมือนคนที่ลงไปช่วยคนตกน้ำขึ้นมาได้ พอช่วยขึ้นมาได้ แล้วยืนงงว่าใครถีบลงไปว่ะ คือไม่ได้ตั้งใจทำ แต่คนชวนกันไปๆ เราเองไม่ได้เป็นคนดีขนาดนั้น แต่สำหรับเรื่องขายของที่โพสต์ไว้ เดี๋ยวขอกลับไปวางแผนใหม่ก่อน ค่อยว่ากัน”