ยอมรับว่าจิตตก นักแสดงรุ่นใหญ่ “เมฆ วินัย ไกรบุตร” วัย 50 ปี ที่เคยโด่งดังจากบท “พ่อมาก” ในภาพยนตร์ “นางนาก” ตรวจพบว่าเป็นโรคเพมพิกอยด์หรือโรคตุ่มน้ำพอง โดยทำการรักษามาได้ 2 เดือนแล้ว โดย เมฆ ให้สัมภาษณ์เอ็กคลูซีฟผ่านไนน์เอ็นเตอร์เทนว่า ไม่ทราบสาเหตุว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร และหมอก็ไม่สามารถอธิบายได้ ที่ผ่านมาเข้า – ออกโรงพยาบาลทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด 10 กว่าแห่ง เพื่อรักษาอาการนี้ ผ่านการฉีดสเตียรอยด์ แต่ตนรู้สึกไม่ไหวหากจะรักษาด้วยวิธีนี้ จนได้มารักษาตรงจุดกับทีมแพทย์ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ด้วยวิธีการฉีดยาที่เพิ่งฉีดไปได้ 1 เข็มเพื่อสังเกตอาการ และนอนอยู่โรงพยาบาลก่อนหน้านี้นานถึง 10 วัน
.
เมฆ เล่าให้ฟังว่า ทรมานกับตุ่มที่เกิดขึ้นมาทุกวัน ทุกจุดในร่างกาย ไม่ใช่เพียงตุ่มเล็กๆ แต่เป็นตุ่มที่ใหญ่มาก ลามไปจนถึงในปาก ซึ่งต้องทำให้แตกไม่อย่างนั้นจะไม่สามารถรับประทานอะไรได้เลย ตลอดระยะเวลา 2 เดือน ต้องทนกับความแสบ คัน ที่ยากเกินกว่าจะอธิบาย จนทำให้จิตตก ทั้งคนป่วยไปจนถึงครอบครัว อยากรักษาให้หายให้ไวที่สุด ที่ผ่านมาตนรักษาทุกวิธีทาง ไปจนถึงการรับประทานยาขับ ก็ไม่เป็นผล หลังจากรักษาด้วยยาเข็ม โดยมีค่าใช้จ่ายในระหว่างพักฟื้นจำนวน 50,000 บาท ส่วนค่ายาเข็มแรกทางแพทย์ยังไม่ได้คิดค่าใช้จ่าย แต่หากหลังจากนี้จะต้องจ่ายตนก็ยินดี นอกจากนี้ยังมีแฟนคลับที่เมื่อรู้ว่าข่าวว่าป่วย ก็โอนเงินมาให้หลักแสนบาทเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการรักษาตัวเอง ทั้งที่ตนไม่ได้ร้องขอ ทำให้ซึ้งใจอย่างมาก การใช้ชีวิตหากต้องออกข้างนอกตนก็จะแต่งกายมิดชิดเพื่อไม่ให้ใครเห็นตุ่มและรอยแผล
.
เมฆ ยังเคยเปรยกับภรรยาว่า หากไม่หาย และไม่สามารถทำงานในวงการบันเทิงได้ ก็คงจะกลับไปทำสวนที่ต่างจังหวัดเพื่อหาเงินเลี้ยงครอบครัว แต่ตอนนี้เริ่มมีสัญญาณดีขึ้น และหากหายดีต้องรีบรักษาแผลเป็นบริเวณผิวหน้าก่อน เพราะต้องใช้ในการแสดง พร้อมย้ำว่า ยังอยากออกมาถ่ายละครที่ยังเหลืออีก 1 ซีน ซึ่งตอนนี้ต้องเลื่อนออกไป 1 เดือน เพื่อรักษาตัวให้ดีขึ้นก่อน อีกทั้งยังไม่ได้ไปร่วมวิ่งกับร็อคใจบุญ “ตูน อาทิวราห์” ในโครงการก้าวที่เริ่มวิ่งวันนี้ตามที่ตั้งใจอีกด้วย
.
เมฆ ยังส่งกำลังใจถึงคนที่ป่วยเหมือนตนว่า ต้องอย่าจิตตกแม้จะยากแค่ไหนก็ต้องทำ และเปฌนโรคที่สามารถรักษาหายได้ เพียงแต่ขึ้นอยู่แต่ละบุคคลว่าจะหายเร็วหรือช้า
สำหรับโรคเพมพิกอยด์หรือโรคตุ่มน้ำพอง เกิดจากภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานผิดปกติ โดยมีการสร้างแอนติบอดี้ที่มาทำลายการยึดของเซลล์ผิวหนัง ผิวหนังจึงหลุดลอกออกจากกันโดยง่าย ทำให้เกิดอาการตุ่มน้ำพองที่ผิวหนังและเยื่อบุต่างๆ ไม่ใช่โรคติดต่อ และสามารถรักษาให้หายได้ พบไม่บ่อยแต่จัดเป็นโรคผิวหนังที่มีความรุนแรง ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอายุเฉลี่ย 50 – 60 ปี .-ไนน์เอ็นเตอร์เทน
