“ไต้ฝุ่น” รอดคุก! จ่ายค่าปรับ 1.5หมื่น-รอลงอาญา พิษเมจิกสกิน

    ศาลตัดสินคุก 1 ปีปรับ 3 หมื่น “ไต้ฝุ่น KPN” นักร้อง-ดาราวัยรุ่น ร่วมโฆษณาผลิตภัณฑ์สลิมมิลค์ ลดความอ้วน กลุ่มเมจิกสกิน ขัด ก.ม. รับสารภาพลดโทษครึ่งหนึ่ง ให้โอกาสกลับตัวรอลงอาญา 1 ปี


    ที่ศาลแขวงพระนครใต้ ถ.เจริงกรุง  72 เวลา 15.00 น. เมื่อวานนี้(11 มิ.ย.62)ที่ผ่านมา พนักงานอัยการสำนักงานคดีศาลแขวง 4 ได้นำตัว “นายกนกฉัตร มรรยาทอ่อน” หรือไต้ฝุ่น KPN นักร้องและดาราวัยรุ่น อายุ 28 ปี มายื่นฟ้องคดีด้วยวาจา เป็นจำเลยในความผิดฐานโฆษณาคุณประโยชน์คุณภาพ หรือสรรพคุณของอาหารอันเป็นเท็จหรือเป็นการหลอกลวงให้เกิดความหลงเชื่อโดยไม่สมควร ตาม พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ. 2522 มาตรา 40,70 และประกาศสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เรื่องหลักเกณฑ์การโฆษณาอาหาร พ.ศ. 2561 ข้อ 4 (6) และบัญชีแนบท้ายของประกาศดังกล่าว

    หลังจากที่ “ไต้ฝุ่น” ได้เข้าพบพนักงานสอบสวน กองบังคับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) รับทราบข้อกล่าวหาจากกรณีร่วมโฆษณาคุณประโยชน์ผลิตภัณฑ์ของกลุ่มเมจิกสกินในกลุ่มอาหารเสริมชื่อ “Slim Milk” แล้ว ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา


    โดยอัยการนำตัวมายื่นฟ้อง ระบุพฤติการณ์สรุปว่าประมาณเดือน ส.ค.60 วันใดไม่ปรากฏชัด “นายกนกฉัตร” จำเลย ได้บังอาจโฆษณาคุณประโยชน์ หรือสรรพคุณของอาหารชื่อ “Slim  Milk” ผ่านช่องทางออนไลน์ในอินสตราแกรม (Instagram) ด้วยข้อความว่า “สวัสดีครับ ผมไต้ฝุ่น KPN วันนี้ผมมีผลิตภัณฑ์มาแนะนำให้กับทุกท่านนะครับ Slim Milk ส่วนผสมนี้ทำให้เราผอม ผอมได้จริงๆนะครับ ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ปลอดภัยมาจากสมุนไพร 100% เพราะฉะนั้นเรื่องโยโย่เอฟเฟคไม่มีแน่นอน เพราะเราไม่ได้ทำมาจากสารเคมีนะครับ สามารถลดไขมันสะสมพุงได้ ใครที่หาตัวช่วยลดน้ำหนัก ลดความอ้วนนะครับ ผมแนะนำเลย Slim Milk” ซึ่งข้อความดังกล่าว เป็นการโฆษณาว่าผลิตภัณฑ์นั้นสามารถลดน้ำหนัก ลดความอ้วนไม่โยโย่ อันเป็นการต้องห้ามไม่ให้โฆษณาตามประกาศ อ.ย.เรื่องหลักเกณฑ์การโฆษณาอาหาร พ.ศ. 2561 ข้อ 4 (6) ประกอบบัญชีแนบท้ายของประกาศฯ ซึ่งเป็นการโฆษณาคุณประโยชน์ หรือสรรพคุณของอาหาร อันเป็นการหลอกลวงให้หลงเชื่อโดยไม่สมควร เหตุเกิดที่แขวงสีลมเขตบางรัก กทม. โดยเมื่อวันที่ 11 มิ.ย.62 เวลา 11.00 น. ที่ผ่านมา “นายกนกฉัตร” จำเลยได้เข้าพบพนักงานสอบสวน ซึ่งได้แจ้งข้อกล่าวหาและทำการสอบสวนแล้ว ในชั้นสอบสวนก็ให้การรับสารภาพโดยระหว่างสอบสวนไม่ถูกควบคุมตัว

    ซึ่งศาลประทับรับฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำ อ. 1297/2562 โดยศาลอ่านและอธิบายคำฟ้องให้จำเลยฟัง และได้ดำเนินกระบวนการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพที่ได้อธิบายสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมาย รวมทั้งแนวทางในการบรรเทาความเสียหายกรณีหากมีผู้เสียหายให้จำเลยทราบแล้ว “นายกนกฉัตร” จำเลย ก็ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา 


    ศาลจึงได้มีคำพิพากษาว่า การกระทำของ”นายกนกฉัตร” จำเลย เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.อาหารฯ มาตรา 40,70 ตามฟ้องโจทก์ให้จำคุก 1 ปี และปรับเป็นเงิน 30,000 บาท

    จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษจึงลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยเป็นเวลา 6 เดือนและปรับเป็นเงิน 15,000 บาท

    โดยเมื่อพิเคราะห์ถึงพฤติการณ์แล้วจำเลยไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน ศาลจึงเห็นสมควรให้โอกาสกลับตัวเป็นพลเมืองดี ดังนั้นโทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี หากจำเลยไม่ชำระค่าปรับก็ให้ดำเนินการกักขังแทนค่าปรับ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30

เข้าชม 213 ครั้ง
ดูข่าวเพิ่มเติม