ศาลยกคำร้อง ! “ต่าย” ร้อง” ทิม” ทำร้ายร่างกาย

วันนี้ 22 พ.ค. 62 ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง นัดพิจารณาไต่สวนคดีของคู่สามีภรรยา “ต่าย ชุติมา” และ “ทิม พิธา” หลังสาวต่ายเป็นฝ่ายยื่นคำร้องเพื่อขอคุ้มครองสวัสดิภาพตนเอง ซึ่งหลังใช้เวลาไต่สวนและพิจารณคดีนานถึง 11 ชม.ศาลได้มีคำสั่งยกคำร้องดังกล่าว 


.

สาวต่ายได้เผยกับทีมข่าวไนน์เอ็นเตอร์เทน ว่า คดีนี้ไม่เกี่ยวกับลูกตามที่เคยปรากฏมาก่อนหน้านั้น เพราะคดีเรื่องลูกถือเป็นโมฆะไปนานแล้ว แต่เป็นเรื่องของตนกับสามีที่เกิดการทะเลาะและทำร้ายร่างกายกัน ในส่วนของการดูแลลูกนั้น ยังยึดหลักตามเดิมจากครั้งที่แล้ว นั่นคือ ตนเลี้ยงลูก ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ ส่วนจันทร์-อังคาร-พุธ-พฤหัส เป็นของหนุ่มทิม


เป็นอย่างไรบ้างกับบทสรุปการไต่สวนคดี?

“ต้องขอชี้แจงก่อนว่าคดีนี้ ไม่ได้เกี่ยวกับคดีก่อนหน้านี้ คนหลายคนจะเอาไปปนกันว่าเขาฟ้องเรา คือคดีนี้มันเป็นคดีที่แยกออกไป ไม่เกี่ยวอะไรกับเด็ก คดีนี้เป็นคดีเกี่ยวกับความรุนแรงในครอบครัว หมายถึงเรื่องของการทำร้ายร่างกายที่ต่ายยื่นฟ้องไปทางคุณทิม ”


เป็นการฟ้องเพื่อคุ้มครองสิทธิ์ในตัวเรา ?

“ใช่ค่ะ พอเหมือนเราได้ไปปรึกษาทางกระทรวงฯ มูลนิธิความเสมอภาค ตอนแรกเราก็ไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เราเจอมามันถูกต้องตามทำนองครองธรรมหรือเปล่า หรือว่ามันเป็นสิ่งที่ภรรยาคนหนี่งต้องรับมันให้ได้ แต่พอทางผู้ใหญ่แนะนำว่าควรจะดำเนินคดีเพราะฟังดูน่าเป็นห่วงก็เลยตัดสินใจฟ้อง”

กำลังจะบอกว่าที่ผ่านมาเราโดนทำร้ายร่างกาย?

“ก็…จริงๆอยากให้เป็นเรื่องของคนสองคน”

แล้ววันนี้เคลียร์กันเป็นอย่างไรบ้าง?

“พอไต่สวนแล้ว มีการทำร้ายร่างกายจริง แต่ไม่ถึงกับเป็นความรุนแรงในครอบครัว แต่กระทบจิตใจเรา คือถึงมันไม่รุนแรงแต่มันก็มีความกังวลในการอยู่ร่วมกัน”

โดนทำร้ายร่างกายมานานหรือยัง?

“อยากให้เป็นเรื่องที่รู้กันสองคน”


เรื่องนี้เลยเป็นเหตุทำให้เกิดการฟ้องหย่า?

“อันนั้นคือเขาฟ้องเรา อย่างที่แจ้งไปคดีที่แล้วคืออีกคดีหนึ่ง ซึ่งศาลได้รับการพิจารณาคดีใหม่ คำสั่งทุกอย่างเป็นโมฆะไปแล้ว ศาลเห็นว่าเราไม่มีเจตนาจริงๆก็เลยยกฟ้องไป”

ตอนนี้เรื่องลูกตกลงกันได้ยังไง?

“ณ ตอนนี้ศาลมีคำสั่งออกมา ก็ถือว่าลงตัวในระดับหนึ่ง เป็นดุลพินิจของศาลด้วย ซึ่งทางทนายเราก็ได้ยื่นคำร้องขอพิจารณคดีใหม่ไปแล้ว ในตอนนี้ก็เป็นแบบนี้ไปก่อน ต่ายจะได้ดูแลลูก ศุกร์-จันทร์ ถามว่าเราโอเคมั้ย เราเป็นห่วงลูกมากกว่า จริงๆแล้วมองในมุมว่าต่ายได้เวลาช่วงวีคเอน น่าจะเป็นคนที่แฮปปี้ ไม่ต้องตื่นเช้า ไปรับไปส่ง พาลูกเที่ยวอย่างเดียว นั่นคือสิ่งที่ถูกต้องเหรอสำหรับเด็กคนหนึ่ง สิ่งที่เขาควรจะได้รับมันเป็นยังไง มันไม่ใช่แบบนี้”


เราก็ยังต้องต่อสู้กันต่อไป?

“อันนี้ก็ปรึกษาผู้ใหญ่อยู่”


คิดว่ามันจะจบยังไง?

“อยากให้ศาลท่านพิจารณาจริงๆว่าใครที่สมควรจะเป็นบ้านหลัก ใครที่มีคุณสมบัติจริงๆ”

คือเราอยากจะขอดูแลลูกแต่เพียงผู้เดียว?

“คือเหมือนคำนั้นมันเป็นคำที่ใช้ในศาล คำว่าขอดูแต่เพียงผู้เดียว แต่คุณก็ตัองมีจิตสำนึกในการเป็นผู้ปกครองหลักนะ เพราะเราดูแลสภาพจิตใจเด็ก บ้านที่เป็นบ้านหลักต้องดูแลน้อง 80 เปอร์เซ็นต์ อีก 20 เปอร์เซ็นต์คือเป็นบ้านรอง ถ้าจะมาให้แฟร์ๆ 50:50 ผลกระทบคืออยู่ที่ตัวลูก เด็กจะเกิดการอยู่บ้านนี้จะเป็นบุคลิกแบบนี้ อยู่บ้านหนึ่งจะเป็นอีกบุคลิกหนึ่ง พอไปโรงเรียนก็จะสร้างบุคลิกใหม่ขึ้นมา พอเราเริ่มสังเกตพฤติกรรมเราก็ค่อนข้างมีความเป็นห่วงและกังวล”


หมายถึงการแบ่งกันเลี้ยงตอนนี้มีผลกระทบต่อลูก?

“คิดว่า เราต่อสู้เพราะเราอยากจะเป็นบ้านหลัก”


มั่นใจแค่ไหนว่าจะชนะคดี?

“ไม่ได้มั่นใจหรืออยากจะชนะอะไร แต่เราก็ใชัข้อเท็จจริงทุกอย่างว่า เราเลี้ยงลูกมายังไง เป็นคนดูแลลูกอย่างไร ใช้อะไรดู ทุกสิ่งทุกอย่าง”


จะมีไกล่เกลี่ยนอกรอบมั้ย?

“พยายามอยู่ตลอดนะคะ”


กับเรื่องว่าที่ผ่านมาเราต้องรับภาระค่าใช้จ่ายในบ้านมาตลอด 2 ปี?

“มันเกิดขึ้นจริง แต่เราก็ยินดีที่จะทำเพื่อครอบครัว”


กลัวมั้ยว่าพอคดียืดเยื้อจะไปมีผลกระทบต่อลูก?

“ทุกวันนี้ก็กังวล เรื่องเป็นอย่างนี้ตั้งแต่ช่วง พ.ย. 61 เราก็เป็นห่วงเขามากที่สุด คำแนะนำของคุณหมอเด็ก จิตแพทย์เด็ก เขาก็บอกว่าเด็กอยู่แบบครึ่งๆแบบนี้ไม่ได้ ความเป็นตัวตนของเด็กจะหายไป”


น่าจะต้องใช้เวลาอีกนานแค่ไหนคดีถึงจะจบ?

“อันนี้ก็ไม่ทราบจริงๆ แต่อยากให้เร็วที่สุด”

นอกจาก 2 คดีนี้แล้วยังมีคดีอื่นเพิ่มอีกมั้ย?

“ไม่มีแล้ว”


สินสมรสเคลียร์กันได้ ไม่มีปัญหา?

“อันนี้เป็นในส่วนของทางทนายให้เขาดูตามความเหมาะสม ตามความจริง ไม่ได้เรียกร้องอะไร ตั้งแต่แรกเราก็มุ่งประเด็นที่เรื่องลูกอยู่แล้ว”


แต่เราไม่ได้เรียกร้องอะไรเกี่ยวกับการเลี้ยงดูลูก?

“ก็มีคิดๆไว้บ้าง อย่างจะแบ่งกันรับผิดชอบค่าใช้จ่ายต่างๆ คนละกี่เปอร์เซ็นต์ เราออกส่วนไหน เขาออกส่วนไหน ที่ผ่านมาเราก็เป็นคนดูแลค่าใช้จ่ายลูกอยู่แล้ว”


ด้าน “ทิม-พิธา” ก็ได้โพสต์ข้อความในอินสตาแกรมส่วนตัวชี้แจงสั้นๆว่า “คดีคุ้มครองสวัสดิภาพเรื่องความรุนแรงในครอบครัว ศาลได้ยกฟ้องและให้ผมชนะคดี” 

เข้าชม 123 ครั้ง
ดูข่าวเพิ่มเติม