“เบน” รับผิด! ทำร้ายสาว ขอหักรายได้ 10% ตลอดปีทำดีเพื่อสังคม

หลังเกิดเรื่องฉาวกับนักร้องสีม่วง “เบน ชลาทิศ” กรณีที่ น.ส.สาวิตรี ว่องไว อายุ 24 ปี เดินทางไปลงบันทึกประจำวันที่ สน.ทองหล่อ เพราะถูกนักร้องดังทำร้ายร่างกาย ทั้งตบและชกเข้าที่ตาซ้าย 1 ครั้งจนบวมช้ำ ที่ร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งหนึ่ง ในซอยทองหล่อ16 เวลาประมาณ 2.00 น. วันที่ 18 มี.ค.2562 ซึ่งวันนั้นนักร้องดังได้มาร่วมกินดื่มสังสรรค์อย่างสนุกสนาน โดยหลังเกิดเหตุแฟนหนุ่มของ “เบน” ได้มาจ่ายรักษาพยาบาล และคู่กรณีสาวได้ขอให้ “เบน” ออกมาขอโทษเธอต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย



ล่าสุุดในบ่ายวันนี้ (23มี.ค.2562) “เบน ชลาทิศ” ได้มาออกงานอีเวนท์ พร้อมเปิดใจให้สัมภาษณ์กับสื่อครั้งแรกว่าตนรู้สึกเสียใจ ยอมรับผิดต่อเรื่องที่เกิดขึ้นและอยากขอโทษคู่กรณีและจะขอโทษทุกๆ ท่านที่อยู่ในเหตุการณ์วันนั้น สิ่งที่ผมทำอาจจะสร้างความเสียใจ ผิดหวัง สร้างความโกรธ  ผมไม่มีสิทธิ์แก้ตัวใดๆ นอกจากผมขออภัย ผมละอายใจอย่างมาก ผมเข้าใจว่าไม่ว่าผมจะขอโทษยังไง การกระทำสำคัญกว่าคำพูด  


“เบน ชลาทิศ” ยังขออนุญาตพิสูจน์ตัวเอง 1 ปีหลังจากนี้ด้วยการบำเพ็ญตนเพื่อสาธารณประโยชน์ โดยรายได้ที่จะเกิดขึ้นในทุกงานๆ ทั้งงานเล็ก งานใหญ่ งานโชว์ตัว จะหัก 10% เพื่อมอบให้กับมูลนิธิที่สร้างสาธารณประโยชน์  ส่วนจะเป็นมูลนิธิใดจะแจ้งให้ทราบภายหลัง พร้อมยืนยันว่าการกระทำเช่นนี้ไม่ใช่เพื่อขอลบล้างความผิด แต่อยากแสดงถึงความจริงใจจริงๆ ว่าผมเสียใจ ละอายใจมากๆ และหวังว่าผมจะได้รับการให้อภัย 

ในส่วนของเหตุการณ์นั้น จะไม่ขอเล่าย้อนอีกแล้วเนื่องจากคู่กรณีได้ให้การกับตำรวจไปแล้ว ที่ผ่านมาทั้ง 2 ฝ่ายมีการติดต่อตลอด เพียงแต่ยังไมได้คุยและขอโทษเป็นการส่วนตัวทีหลัง ส่วนเรื่องค่าเสียหาย ค่ารักษาพยาบาลได้ชดเชยให้เรียบร้อยแล้ว ทุกอย่างเป็นความรับผิดชอบ ไม่ขอเบี่ยงประเด็นเลย ขอรับผิดแต่เพียงผู้เดียว รู้ดีว่าเรื่องนี้สังคมรับไม่ได้หรอก ซึ่งคนใกล้ตัวจะรู้ดีว่าผมจะอ่อนไหวเรื่องนี้ ใครก็ตามไม่มีสิทธิ์ทำร้ายกัน แต่ผมละอายใจที่ตนเองเป็นต้นเหตุเสียเอง ที่ผ่านมาได้อ่านข่าวบ้างและก็สมควรแล้วที่เราจะโดนต่อว่า เมื่อถามว่ากลัวแฟนเพลงจะติดภาพลักษณ์นี้หรือไม่ “เบน” ได้แต่กล่าวขออภัย ทั้งยังหวังว่าจะได้รับการอภัยจากทุกท่าน 

ก่อนจะทิ้งท้ายว่า สิ่งนี้สอนให้รู้ว่าต้องมีสติ เพราะเมื่อเราไม่มีสติ สิ่งที่เราปฏิญาณตนหรือยึดมั่นมาตลอด เราอาจทำมันทั้งๆที่เราก็ไม่ได้ต้้งใจ แต่สุดท้ายเราก็หนีความผิดไม่ได้  :-ไนน์เอ็นเตอร์เทน 

เข้าชม 41 ครั้ง
ดูข่าวเพิ่มเติม