โพสต์ตัดพ้อลงโซเชียลมีเดียในทำนองว่า “เหนื่อย” กับเรื่องที่ไม่จบสิ้น จนนายณพสิน แสงสุวรรณ หรือ “หนุ่ม กะลา” บอกรู้สึกโชคร้ายที่กลางคืนจับไมค์กลางวันต้องถูกใส่กุญแจมือ ล่าสุดเพิ่งไปขึ้นศาลที่ จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 12 ก.พ. 62 ที่ผ่านมา หลังบริษัทเพาเวอร์ เทรเชอร์ หรือค่ายเพลง “มิวสิค บั๊กส์” นำหมายจับจากศาลอาญา จังหวัดชุมพร เข้าพบตำรวจ สภ.ปากช่อง แจ้งให้ตามจับกุม “หนุ่ม กะลา” ในคดีละเมิดลิขสิทธิ์ นำเพลง “ยาม” ของวงลาบานูน ไปร้องตามสถานที่ต่างๆ จนเจ้าตัวถูกแจ้งความดำเนินคดี ต้องไปรายงานตัว 45 สถานีตำรวจ ปัจจุบันเหลือไปรายงานตัวอีก 2 สถานีตำรวจ ในกรุงเทพฯ เท่านั้น
โดย “หนุ่ม กะลา” เผยในงานแถลงข่าวคอนเสิร์ต Cassette Festival ณ บริเวณ ล็อบบี้อาคาร จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ว่าตอนนี้ไม่ตนเครียดเพราะค่อนข้างชิน ที่ผ่านมาไปรายงานตัวตามกฏหมายทุกอย่าง ส่วนที่ฝ่ายคู่กรณีฟ้องเรียกเงินจาก 45 ท้องที่ ที่ละ 500,000 บาท ในคดีอาญา เป็นเงินทั้งหมด 22.5 ล้านบาท แต่ยังมีคดีแพ่งอีก 40 กว่าล้าน รวมแล้วเกือบ 70 ล้านบาท พร้อมรับทาง “แกรมมี่” ต้นสังกัดได้ลงมาช่วยไกล่เกลี่ยอีกแรง แต่ยังไม่รู้ว่าสุดท้ายจะได้ข้อสรุปเป็นอย่างไร
ด้านภาพรอยกุญแจมือที่ร็อกชื่อดังโพสต์ลงไอจี พร้อมข้อความระบายเรื่องอัดอั้น เจ้าตัวแจงไม่ใช่ครั้งแรกที่โดนใส่กุญแจมือ ที่ผ่านมาเจอหลายครั้งและบางท้องที่มีห้องพักให้ แต่บางที่ตนต้องเข้าไปอยู่ในห้องขังรวมกับผู้ต้องหาคนอื่นๆ โดยมีผู้ต้องหาบางคนจำตนได้ แต่ความรู้สึกในตอนนั้นถ้าจะให้ยิ้มหรือโบกมือทักทายคงไม่เหมาะสม ทำให้รู้สึก “ไม่ค่อยโอเค” หรือบางครั้งถูกจับรวมใส่กุญแจมือร่วมกับผู้ต้องหาคนอื่นๆ อีก 5-6 คน เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ทำให้รู้สึก “แย่มาก” ในชีวิต
ก่อนบอกต่อไม่รู้เรื่องนี้จะจบลงอย่างไร ยังตอบอะไรไม่ได้เลย ย้ำที่ผ่านมาไม่เคยหนีสักครั้ง และเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้มาบุกจับกุมตนคาเวที ทุกวันนี้ก่อนตนจะไปเล่นคอนเสิร์ตที่ไหน ต้องให้ทีมงานโทรเช็คก่อนเสมอว่าต้องไปรายงานตัววันไหน จะได้ไม่มีปัญหา ยอมรับเรื่องนี้ทำให้รู้สึกผวาเวลาต้องไปเล่นคอนเสิร์ตเหมือนกัน :- ไนน์เอ็นเตอร์เทน