“ปั้นจั่น” ถามกินเนื้อปลากระเบนค้างคาว? ไม่ผิดกฎหมาย แต่เหมาะสมแล้วหรือ?

จากดราม่าในรายการแข่งทำอาหารชื่อดังที่นำเนื้อปลากระเบน ซึ่งตอนแรกมีการถูกตีความว่าเป็น “ปลากระเบนนก” มาให้ผู้เข้าแข่งขันทำอาหาร จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่เหมาะสม เพราะปลากระเบนนกนั้นหายาก 




ประกอบกับในเฟซบุ๊กของ “อาจารย์ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์” รองคณบดีคณะประมงมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ยังได้โพสต์เฟซบุ๊กแสดงความกังวลถึงกรณีดังกล่าว ระบุตอนหนึ่งว่า “กระเบนนกเป็นสัตว์หายากของทะเลไทย บางคนดำน้ำกันหลายปี ยังไม่เคยเจอสักตัว เราเคยพยายามผลักดันให้เป็นสัตว์คุ้มครอง แต่ยังติดขัดอยู่บางประการ” ก่อนจะลบโพสต์นี้ออกไป พร้อมเขียนอีกโพสต์เป็นศัพท์วิชาการ สรุปง่ายๆ ว่า ทั้ง ปลากระเบนนก  (Aetobatus ocellatus) และปลาประเบนค้างคาว (เนื้อดำ) (Aetobatus narinari) ถูกจัดอยู่ใน IUCN Red List of Threatened Species หรืออยู่ในบัญชีสัตว์สถานะอนุรักษ์

ด้านในเฟซบุ๊กของ MasterChef Thailand ออกมาชี้แจงว่าปลากระเบนที่เห็นในรายการ คือปลายี่สน หรืออีกชื่อหนึ่งคือ ปลากระเบนเนื้อดำ หรือปลากระเบนค้างคาว ถือเป็นวัตถุดิบพื้นบ้านที่นิยมนำมาใช้ประกอบอาหารในหลากหลายเมนู ปัจจุบันเมนูดังกล่าวยังติดอันดับ OTOP 5 ดาว ของจังหวัดเพชรบุรี อีกด้วย

ด้านนักแสดงหน่ามหน้าไทย “ปั้นจั่น ปรมะ” ออกมาโพสต์ไอจี แสดงจุดยืนในความเห็นส่วนตัว ด้วยข้อความส่วนหนึ่งในฐานะคนที่ชอบดำน้ำ และรักทะเลว่า “สำหรับนักดำน้ำคนที่รักทะเลกระเบนเป็นสัตว์ชนิดนึงที่สวยงามและใกล้จะสูญพันธุ์ ทุกอย่างเคยมีเยอะจนกระทั่งมนุษย์เลือกที่จะกินสิ่งมีชีวิตเกือบทุกอย่าง (หมู เห็ด เป็ด ไก่ ก็น่าจะพอแล้ว) #อยากแปลกไม่เเดกคนละครับ บางชนิดเราก็ยังหากินกันได้ถ้ามันมีเยอะถ้ากระกระเบนมันล้นโลกก็จับมากินกันเถอะครับเพื่อรักษาสมดุล” ก่อนจะเกิกดราม่ามีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย

จน “ปั้นจั่น ปรมะ” ต้องโพสต์อีกหนึ่งข้อความชี้แจง ซึ่งสอดคล้องกับรองคณบดีคณะประมงมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ว่ากระเบนทั้งสองชนิด อยู่ในกลุ่มอนุรักษ์ :- ไนน์เอ็นเตอร์เทน 

เข้าชม 178 ครั้ง
ดูข่าวเพิ่มเติม