จากใจ “กวาง กมลชนก” ถึง “โอ วรุฒ” เพื่อนแสนดีกับข้อคิดในวันที่สาย

“ถ้าวิญญาณเราอยากอยู่ แต่ร่างกายไม่อยู่แล้ว เงินทองก็ซื้อไม่ได้” คำพูดจากใจ “กวาง – กมลชนก เขมะโยธิน“ อดีตนางเอกคนหนึ่งของ “โอ – วรุฒ วรธรรม”  พระเอกดังผู้ล่วงลับในวัย 49 ปี ด้วยหลายโรครุมเร้า จากสาเหตุหลัก “ดื่มหนัก” และใช้ร่างกายเปลือง  “กวาง กมลชนก”  เผยกับ “ไนน์เอ็นเตอร์เทน” ว่าเมื่อทราบข่าวรู้สึกตกใจ  ในฐานะของคนเป็นเพื่อนได้เคยตักเตือนโอว่า “ต้องเลิกเหล้า”  ซึ่งเจ้าตัวรับปากด้วยความสดใสตลอดว่า “เลิกแล้ว”  



“เรามารู้ทีหลังว่า เขายังไม่เลิกเหล้า เพราะเราไปเจอคนอื่นบอกมา และหลังจากเล่นละครเรื่อง “แหวนทองเหลือง” ด้วยกันเป็นเรื่องสุดท้าย กวางปล่อยให้มีลูก ซึ่งตอนนี้ลูกชายคนโตอายุ 15 ปีแล้ว หลังจากนั้นตอนที่ลูกเรายังเล็กอยู่ เราได้ไปเจอตอนที่เขาผอมลง ซึ่งตอนนั้นเราตกใจและรู้ว่าเขาเป็นโรคเบาหวาน ซึ่งอันนี้น่าจะเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้โอดูซูบผอมไป  สิ่งที่น่าเสียใจคือช่วงที่เขาป่วยมาก เป็นช่วงที่เขาเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองดีขึ้น คือเป็นช่วงที่เลิกเหล้า แล้วมาทำร้านกาแฟ”  กวางเผย



นักแสดงคู่ขวัญบอกต่อรู้สึกมาตลอดถ้า “โอ” ไม่เลิกเหล้าจะต้องมีวันที่ร่างกายเสื่อมถอยในช่วงวัยกลางคน  เพราะโอใช้ร่างกายหนักมาก  “น่าเสียดาย เพราะเขาเป็นคนมีความสามารถ เป็นคนนิสัยน่ารัก ถ้าตัดเรื่องที่เขาดื่มเหล้าออกไป โอเป็นคนอัธยาศัยดีสร้างเสียงหัวเราะให้คนรอบข้างเสมอ เวลาเล่นละครก็ตลกอย่างเป็นธรรมชาติ ดราม่าก็เล่นได้” กวางเล่า

ย้อนกลับไป “โอ วรุฒ” เข้าวงการมาก่อนตน แจ้งเกิดจากภาพยนตร์เรื่อง “คู่กรรม”  คู่กับ “แหม่ม จินตหรา” ในปี พ.ศ. 2531 ส่วน “กวาง กมลชนก” โด่งดังจากละครเรื่อง “คู่กรรม” เล่นกับ “เบิร์ด ธงไชย” ในปี พ.ศ. 2533  ซึ่งบางครั้งจะมีอีเว้นท์ที่ผู้จ้าง สลับพระนางทั้ง 2 เวอร์ชั่นมาเจอกัน ทำให้ได้โชว์ตัวด้วยกันบ่อย อาทิ งานปิดสวนสนุกแดนเนรมิต (ปี 2543) และถ่ายแบบขึ้นปกนิตยสารอยู่หลายเล่ม แต่ที่กวางจำได้แม่นคือหนังสือ “แก้ว” ที่ปิดตัวลงแล้ว 

อีกมุมหนึ่งกับฉายา “เจ้าชายสายเสมอ” ของ “โอ วรุฒ” นางเอกคู่ขวัญตอบว่า ถ้าผู้กำกับนับ 5-4-3-2 โอสามารถเล่นละครได้เลย สวมวิญญาณตัวละครได้ดี และส่วนตัวคิดว่าเคมีของเธอกับโอลงตัวเพราะมีเป็นคน “คิดบวก” ทั้งคู่

“ส่วนตัวโอเป็นคนคิดบวกมาก มองโลกสดใส (หัวเราะ) เขาถึงอารมณ์ดีตลอดเวลา ไม่เคยคิดว่าอะไรจะไม่ดี แม้กระทั่งกับตัวเขาเองก็ไม่คิดว่าจะมีอะไรไม่ดี เขาเลยปล่อยให้ตัวเองเป็นมากขนาดนี้ ปล่อยจนถึงวันที่ล้ม ซึ่งความคิดบวกของเขาอีกอย่างหนึ่งคือเวลาที่เราเล่นละครด้วยกัน ต่อให้คุยสนุกในกองมากขนาดไหน แต่โอไม่เคยว่าใครเลย  หรือต่อให้ใครจะว่าอะไรถึงเขา โอก็ไม่โกรธ  ขนาดเราเคยโกรธเพราะมาสาย นัด 8 โมง โอมาเที่ยง เราโกรธจนหน้านิ่ง แต่พอเขามาถึงก็เข้ามาแหย่เล่นด้วยทำให้เราหายโกรธหมดเลยนะ เหมือนเขาลงนะมาดี (หัวเราะ)  จนมีละครเรื่องใหม่ติดต่อมาให้เล่นกับโออีก เราก็รับนะ (ยิ้ม) อย่างละครเรื่อง “พ่อครัวหัวป่าก์” ที่โอใส่เสื้อยืดลายจุดดำๆ เหมือนหมาพันธุ์ “ดันเมเชี่ยน” แล้วเขาคุกเข่าเข้ามาหาเราเลย ทำท่าเป็นหมาบอกว่า โอขอโทษนะกวาง แล้วทุกคนในกองก็ขำกัน (หัวเราะ) คือเขาชอบให้เรามารอ หรือ เบี้ยวเราบ่อยมาก แต่เราก็โกรธเขาไม่ลง” กวางเล่า

จากสถานะของเพื่อนร่วมวงการบันเทิงที่ปรารถนาดีต่อกัน ซึ่งอาจจะไม่สนิทเท่ากับ “นีโน่ เมทนี” แต่เจอกันเมื่อไหร่ กลับต่อติดตลอดและคิดว่า “โอ วรุฒ” น่าจะรับรู้ตรงนี้ 

“สิ่งที่เราเห็นชัดนอกจากความเสียใจและความเสียดาย  คือเรารู้สึกว่า โถ…โอ ไม่น่าเลย และมีความรู้สึกตามมาว่าอย่างน้อยการจากไปของโอให้แง่คิดกับคนเยอะ โอทิ้งอะไรให้คนอื่นได้คิด จะได้ไม่ต้องเดินตามแนวทางในด้านของการดื่มสุรา แต่ไปเดินตามแนวทางของเขาเรื่องความสดใส น่ารัก และมีความสามารถเอ็นเตอร์เทนคนอื่น มองโลกในแง่ดี คิดบวก จริงใจต่อเพื่อนร่วมงานทุกคนแทน ซึ่งตรงนี้คือข้อดีของเขา ข้อเสียเขามีข้อเดียวคือชอบดื่ม” กวางบอก

เพื่อนร่วมงานรุ่นน้องบอกจากใจว่า พูดเรื่อง “โอ วรุฒ” แล้วเศร้าเพราะสงสารที่เจ้าตัวตระหนักถึงภัยจากการดื่มเหล้าเมื่อสายไป อย่างน้อยที่สุด  “โอ”  คงได้ไปสวรรค์ไม่ต้องทุกข์ทรมาน  ดีกว่าการตื่นขึ้นมาแล้วเป็นเจ้าชายนิทรา..ไม่รู้สึกตัว 

“ถ้าย้อนเวลาได้  แล้วโอรู้สึกว่ามีคนรักและติดตามผลงานเยอะขนาดนี้ เขาคงไม่ทำร้ายตัวเองขนาดนั้นหรอก…สิ่งนี้สอนว่าเวลาย้อนกลับคืนไม่ได้ ทุกคนต้องมีสติและรู้ตัวว่าทำอะไรอยู่ ควรจะดูแลร่างกายและจิตใจให้ดี ถ้าวิญญาณเราอยากอยู่ แต่ร่างกายไม่อยู่แล้ว เงินทองก็ซื้อไม่ได้”  :- ไนน์เอ็นเตอร์เทน    

เข้าชม 713 ครั้ง
ดูข่าวเพิ่มเติม