นักร้องดอกไม้เหล็กมาดเท่ “แอม – เสาวลักษณ์ ลีละบุตร” วัย 53 ปี หลังจากเปิดใจถึงประสบการณ์ความรักและยอมรับในรสนิยมทางเพศว่าเป็น “ไบเซ็กชวล (Bisexual)” ในรายการดังรายการหนึ่ง โดยในงานแถลงข่าวคอนเสิร์ต “สาว สาว สาว” นักร้องมาดเท่ยอมรับแบบตรงไปตรงมา ไม่มีอ้อมค้อมว่า ออกมาพูดเรื่องนี้ไม่เห็นเป็นอะไรเลยเพราะไม่ได้เป็นคนเดียว ที่สำคัญแฟนนักดนตรี “จิ๊บ อรรถพล” ที่อายุน้อยกว่า 11 ปี และคบกันมากว่า 12 ปี ก็รู้เรื่องนี้ดี
“ไม่เห็นเป็นอะไรเลย พี่ว่าพี่ไม่ได้เป็นคนเดียวนะ พี่ว่าความจริงแล้วเราไปรู้สึกและโฟกัสหรือหวาดกลัวกับคำนี้มากเกินไป พี่ว่าคำนี้มันเป็นแค่ศัพท์ทางการแพทย์และเชื่อว่าพวกเราทุกคนจะมีนิสัยหรือบุคลิกอะไรบางอย่างที่ปนกัน ระหว่างเพศชายกับเพศหญิงไม่ได้หมายความว่าเป็น “ไบเซ็กชวล” แล้วจะไปนอนกับผู้ชายหรือผู้หญิงก็ได้ แต่มันหมายความว่านิสัยใจคอและความแมนบางอย่างในตัวเรา คือเราโตมากับโรงเรียนหญิงล้วนใช่ไหมคะ ต้องบอกก่อนว่าวัยรุ่นสมัยเราไม่ได้มีเรื่องเซ็กซ์ อาจจะมีแค่รุ่นพี่จีบรุ่นน้องและเขียนจดหมายใส่กระดาษหอมๆ ให้ดอกไม้ในวันวาเลนไทน์ ติดสติ๊กเกอร์รูปหัวใจที่หน้าอก เราโตมาแบบนั้น และเพื่อนๆ น้องๆ ของเรามีทุกเพศ ส่วนตัวเราเองก็เป็นหนึ่งในจำนวนเหล่านั้น”
พร้อมเผยต่อว่า “เราเชื่อว่าถ้ามีความรู้สึกที่ดีต่อกันจะเป็นเพศไหนไม่สำคัญ ยิ่งตัวพี่เคยมีแฟนผู้หญิงตอนอยู่โรงเรียน อาจจะเป็นตามแฟชั่นของเด็กนักเรียนในยุคนั้น แต่เราอาจจะมีความเป็นผู้หญิง 70 เปอร์เซ็นต์ แต่ในอีก 30 เปอร์เซ็นต์ เวลาที่เราเจอผู้หญิงคนหนึ่ง เราอาจจะรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้น่าสนใจ มีความดึงดูดได้บางส่วนเหมือนกัน แต่ไม่ได้หมายความว่าเราจะลุกไปไล่ปล้ำเขา ไม่ใช่อย่างนั้น เราสามารถมีแฟนเป็นผู้หญิงได้และก็มีแฟนเป็นผู้ชายได้ มันขึ้นอยู่กับว่าคนๆ นั้น เราชอบเขาตรงไหน เขาใช่หรือเปล่า ไม่ได้ดูไปที่สภาพเพศว่าเป็นอะไร เพราะฉะนั้นถ้าจะชอบกันก็ไม่แปลก”
ความรู้สึกเวลาคบผู้หญิงกับผู้ชายต่างไหม?
“ทุกวันนี้มันจะมีอะไรบางอย่าง เช่นเวลาเราพูดถึงผู้ชายบางคน เราก็จะรู้สึกว่าทำไมเขามีนิสัยหยุมหยิมเหมือนผู้หญิงจังเลย ส่วนผู้หญิงบางคนกลับมีนิสัยโคตรแมนเลยอะไรแบบนี้ พี่ว่ามันขึ้นอยู่กับว่าในแต่ละวันของเราเป็นยังไง บางวันเราอาจจะตื่นขึ้นมาเป็นโหมดหวาน คิดว่าไปซื้อดอกกุหลาบดีกว่า หรือบางวันอาจจะตื่นขึ้นมาแล้วกดฟังเพลงร็อกแต่เช้าเลย ทุกคนมีหลายมิติเป็นของตัวเองขึ้นอยู่กับว่าวันไหนมิติด้านใดจะเด่นขึ้นมา มันเป็นเรื่องปกติมาก ซึ่งปัจจุบันนี้แฟนของพี่ก็รู้เรื่องนี้เพราะตอนพี่อยู่โรงเรียนก็มีแฟนเป็นผู้หญิง”
ไม่ได้ปิดหรือเปิดตัวอย่างชัดเจน?
“มันไม่มีความจำเป็นอะไร เพราะว่าพี่แยกแยะว่าการร้องเพลงหรือการเป็นคนมีชื่อเสียงคืองานและเป็นอาชีพ แต่ความจริงเรามีชีวิตเหมือนกับทุกๆ คน เพราะเป็นมนุษย์คนหนึ่งธรรมดา มีความรัก มีเลิกกับแฟน เพียงแค่บทบาทหน้าที่ของเราเท่านั้นเองที่ทำให้ดูแปลกออกไป”
ที่ผ่านมามีคนมาถามเรื่องนี้หรือเปล่า?
“คือถ้าเป็นคนที่ไม่รู้จักกัน เขาคงไม่เดินเข้ามาถาม อาจจะมีแค่สื่อมวลชนที่มาถาม ซึ่งเรายินดีตอบเพราะไม่ใช่ความลับอะไร เพียงแต่เราไม่ต้องขึ้นมาประกาศว่ามีแฟนแล้วนะ เราคิดว่ามันติงต๊องไม่ต้องทำเลย ซึ่งกับแฟนเราคบกันมา 10 กว่าปีแล้ว และก็เป็นเรื่องที่ตลกด้วยเพราะพ่อบ้านผมยาว แม่บ้านผมสั้นกุด ถ้ามีลูกก็อาจสร้างความสับสนให้ลูกได้ (หัวเราะ) ซึ่งที่ผ่านมาคนรอบข้างก็ไม่เคยถาม เพราะเขารู้มาตั้งนานแล้ว เอาอย่างนี้เราโตมากับโรงเรียนหญิงล้วน ตัวเพื่อนรอบข้างจะรู้อยู่แล้ว และเพื่อนๆ ก็จะเห็นเป็นเรื่องปกติ จนถึงทุกวันนี้เพื่อนบางคนยังมีแฟนเป็นทอมอยู่เลย เพราะฉะนั้นจะเป็นอะไรก็ได้ เรามีเพื่อนทุกเพศและการที่ตัวเราจะเป็นยังไง เพื่อนๆ ก็ไม่ได้รู้สึกยังไง บางวันเราอาจจะเป็นแม่บ้านหวานมาก ลุกขึ้นมาทำกับข้าวให้ผัวกิน แต่บางว่าเราอาจจะลุกขึ้นมาทำตัวแมนมาก ซึ่งมันแล้วแต่ว่าในแต่ละวันเราจะต้องทำโจทย์อะไรในชีวิต”
นอกจากนี้นักร้องรุ่นใหญ่ยืนยันว่าที่ผ่านมามี “แฟน” เป็นผู้ชายมาตลอดและประชาชนรับรู้ แต่เรื่องที่เพิ่งจะโดนสื่อมวลชนถาม คือเรื่องที่เป็น “ไบเซ็กชวล” มากกว่า ซึ่งตนยอมรับว่าเคยมีแฟนเป็นผู้หญิงเหมือนกัน :- ไนน์เอ็นเตอร์เทน