“เอมี่” รับ!หลงผิดเสพยาอนาคตดับ ขอกลับตัวทำดีเพื่อสังคม

หลังเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้ปล่อยตัวนักแสดงสาว “เอมี่ – อาเมเรีย จาคอป”  วัย 29 ปี ออกจากเรือนจำพิเศษมีนบุรี (28 ส.ค. 2561) เมื่อศาลจังหวัดมีนบุรีมีคำพิพากษายกฟ้อง ในคดีร่วมกันครอบครองไอซ์ 70 กรัมเพื่อจำหน่าย ส่วนในข้อหาเสพยาเสพติดคงโทษจำคุก 3 เดือนแต่รอลงอาญา 2 ปี โดยให้คุมประพฤติรายงานตัวทุก 3 เดือนเป็นเวลา 1 ปี โดยให้ตรวจหาสารเสพติดทุกครั้งที่ไปรายงานตัวและให้บำเพ็ญประโยชน์ 24 ชั่วโมง 


 

ล่าสุดเช้าวันนี้ (29ส.ค.2561)  ที่สำนักงานทีมงานทนายประชาชนจังหวัดสมุทรสาคร “เอมี่ อาเมเรีย” พร้อมคุณพ่อ – คุณแม่และนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความ  ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวเปิดใจหลังได้รับอิสรภาพจากเรือนจำ โดยสาวเอมี่ยอมรับว่า เสพยาจริงแต่ไม่ได้เป็นผู้ค้าแน่นอน รู้ตัวว่าเป็นคนไม่ดีและการเสพยาก็เกิดจากความอยากลองของตัวเองไม่ได้มีใครชักชวน ส่วนที่เรื่องแฟนหนุ่ม “นายปุณยวัจน์ หิรัณย์เตชะ” ค้ายาเสพติดนั้น ตนไม่ทราบ รู้แต่เพียงว่าแฟนมียาเสพติดครอบครองไว้พอสมควร ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนไม่โทษใครทั้งนั้น โทษตัวเองคนเดียว  


สาว “เอมี่”  ยังบอกต่อไปว่า  นี่คือบทเรียนชีวิตครั้งใหญ่ที่สุด จะไม่ได้ทำแบบนี้อีกแล้ว สงสารแม่ (ร้องไห้)  ขอโทษหม่ามี๊ ที่ทำให้ต้องลำบาก หลังจากวันนี้จะไม่มีการไปเดินสายออกรายการช่องไหน แต่จะไปทำงานเพื่อสังคม เล่าเรื่องราวประสบการณ์ หลงผิดเสพยาเสพติดสอนน้องๆ ไม่ให้หลงผิดเหมือนเธอ ชีวิตจากนี้จะกลับไปอยู่กับพ่อแม่ที่ จ.ภูเก็ตก่อน สำหรับงานในวงการบันเทิงคงยากที่จะได้กลับมาทำงานเพราะรู้ตัวดีว่าเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี จนทำให้ต้องจบอนาคตลง 


อดีตนางเอกสาวเล่าถึงชีวิตในเรือนจำว่า  ต้องกินอยู่ร่วมกันกับหลายคนได้เจอกับคนที่หลากหลายและต้องปรับตัวอยู่ให้ได้ แรกๆ เข้าไปก็ร้องไห้ ไหว้พระสวดมนต์อย่างเดียว ทำให้ไม่ต้องคิดมาก ซึ่งตลอดเวลาก็เฝ้ารอคำตัดสินตามรูปคดี ซึ่งยืนยันคำเดิมว่าเธอแค่หลงผิดเสพยา ไม่ได้ค้าหรือมีไว้ครอบครอง ศาลจึงยกฟ้องในที่สุด ก่อนจะทิ้งท้ายว่า ตอนนี้ขอตัดขาดจากยาเสพติดเด็ดขาด ขอโทษผู้ใหญ่ทุกคนที่เคยให้โอกาสเธอ จากนี้จะไม่ทำอีกแล้ว พร้อมขอโทษแฟนๆ ทุกคนที่ทำตัวไม่ดีและหลังจากนี้คงเดินสายทำบุญ  ส่วนที่หลายคนสงสัยในรูปร่างที่อวบอิ่มขึ้นผิดตา ทนายความขอยืนยันแทนว่า เธอไม่ได้ท้องแค่ทานเยอะไป พร้อมย้ำอยู่ในรือนจำจะท้องได้อย่างไร  :-ไนน์เอ็นเตอร์เทน

เข้าชม 10 ครั้ง
ดูข่าวเพิ่มเติม