ควงคู่กันมาแถลงข่าวภาพยนตร์ที่จะส่งต่อแรงบันดาลใจให้คนไทยร่วม “ก้าว” ต่อไปด้วยกัน “2,215 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว” กับคู่รักใจบุญของร็อกใจเพชร “ตูน อาทิวราห์” หรือ “ตูน บอดี้สแลม” กับ “ก้อย รัชวิน” ที่คบหาดูใจกันมาถึง 8 ปี งานนี้ร็อกใจเพชรแย้มเรื่องแต่งงานให้ฟังว่า จบอัลบั้มล่าสุดเมื่อไหร่ ข่าวดีอาจจะตามมาได้
วันนี้ได้มาเห็นตัวเองในจอใหญ่ๆ เป็นอย่างไรบ้าง?
“คือเราก็รู้นะว่าตลอดเส้นทางจะมีกล้องของทีมงานตามถ่ายมาตลอดไม่ว่าเราจะทำอะไรก็แล้วแต่ แต่เราใช้ชีวิตปกติ ปล่อยให้เขาได้ทำงานของเขาไป ส่วนงานตรงหน้าของเราคือการวิ่งการสื่อสารข้อมูลเกี่ยวกับโรงพยาบาลตลอดทาง 55 วัน พอได้มาเห็นตัวเองวันนี้ก็รู้สึกแปลกนิดหนึ่ง ปกติเห็นตัวเองมาตลอดในเอ็มวีอะไรแบบนั้น แต่วันนี้มันแค่แปลกเพราะว่ามันอยู่ในหนัง แล้วไม่ได้ถูกออกแบบ ฉากบางฉากก็คืออยู่ในรถบ้านที่มีที่นอน เสื้อผ้าบางทีก็ไม่ได้ใส่ คือเราก็ใช้ชีวิตจริงๆในช่วงเวลาสองเดือนนั้น สิ่งที่ได้เห็นในภาพยนตร์มันคือเรื่องจริงครับ”
ช่วงที่โดนกล้องตามถ่ายตลอดรู้สึกอึดอัดบ้างไหม?
“มีบางช่วงที่เรารู้สึกอยากจะเข้าห้องน้ำ ปวดอึมากอะไรอย่างนี้ คือตอนแรกไม่ชิน แต่ตอนหลังโอเคแล้ว เรียกว่าใช้ชีวิตปกติ ค่อยๆ ปรับสภาพตัวเองเพราะว่าน้องคนที่ตามถ่ายก็ค่อนข้างที่จะเจอกันมาก่อนนานแล้วและทำความคุ้นเคยกันมาสักพักแล้ว สิ่งที่ได้เห็นในหนังก็เป็นตัวเองที่สุดละครับ”
เรียกว่าเป็นพระเอกของเรื่อง?
“(หัวเราะ) เขินดีครับ จริงๆ ไม่ใช่พระเอกหรอกครับ แค่เราเป็นคนที่ทำอยู่ตรงนั้นก็ถูกโฟกัสเท่านั้นเอง”
เชื่อว่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนที่ได้ดูไหม?
“ไม่มากก็น้อย ผมหวังว่าอยากจะให้มันเป็นแรงบันดาลใจดีๆ กับใครหลายๆคนที่ได้ดู”
อย่าง ก้อย รัชวิน ได้มาอยู่ในหนังด้วยหรือเปล่า?
“ก็แน่นอนครับ”
แล้วเขาว่าอย่างไรบ้าง?
“เขาก็ตื่นเต้นนะครับ ตื่นเต้นที่มันจะออกมาเป็นบันทึกเรื่องราว แล้วก็ตื่นเต้นที่ทุกคนจะได้ดูมันแบบฟรีๆด้วย”
มีความโรแมนติกอยู่ในหนังเรื่องนี้ด้วยหรือเปล่า?
“ไม่มีนะเท่าที่ดู(ยิ้ม) ไม่รู้เขาจะตัดอะไรเข้าไปเพิ่มหรือเปล่า(หัวเราะ)”
เรียกว่าเป็นพระเอก แล้วก้อยเป็นนางเอก?
“ไม่ๆ จริงๆ หนังเรื่องนี้คนที่เป็นพระเอกน่าจะเป็นคนไทยทุกคนมากกว่า”
โปรเจกท์ “ก้าวคนละก้าว” จะมีแผนเพิ่มเติมอย่างไรไหม?
“ก็จริงๆ แล้วในโปรเจกท์หนังเรื่อง 2215 ที่เรากำลังจะฉายในเดือนกันยายนนี้ เราจะมีกิจกรรมไปตลอดประมาณ 6 เดือน 6 เดือนเราจะพาหนังเรื่องนี้ไปที่ต่างๆ แล้วก็จะมีกิจกรรมล้อไปกับหนังเรื่องนี้ อาจจะไปจัดวิ่ง ลองวิ่งตามที่ต่างๆ ตามจังหวัดต่างๆ แล้วก็มาชมภาพยนตร์ ร่วมกันบริจาคด้วย เราจะทำตลอด 6 เดือนนี้ คิดว่าน่าจะไปสิ้นสุดโครงการที่เดือนกุมภาพันธ์ แล้วก็จะสรุปยอดของกิจกรรม”
เห็นว่าโครงการนี้จะจัดทำเพื่อบริจาคให้โรงพยาบาลศิริราช ?
“ก็จริงๆ แล้ว เราก็ตั้งใจว่าเราจะให้ทุกคนได้ชมฟรี เราไม่อยากคิดสตางค์ว่า 150-200 ให้คนได้ทำบุญหรือหักค่าใช้จ่ายแบบนั้น อยากให้ทุกคนได้ดูกันแบบฟรีๆ เหมือนที่ทุกคนออกมาให้เราฟรีๆ ตลอด 55 วันที่ผ่านมา มาให้ใจ ส่งข้าวส่งน้ำ ให้เงินบริจาคหรืออะไรก็ตาม หนังเรื่องนี้จะเป็นเหมือนคำขอบคุณของพวกเราโครงการก้าวคนละก้าว ให้คนไทยได้ดูฟรีๆ สุดแล้วแต่ว่าออกมาแล้วคุณอยากจะบริจาคให้กับทางศิริราช เพื่อสร้างตึกนวมินทรบพิตร ๘๔ พรรษา ซึ่งต้องการงบประมาณอีกเป็นพันล้าน เพื่อที่จะสำเร็จแล้วแต่คุณเลยว่าคุณอยากจะบริจาคเท่าไหร่ ผมคิดว่าถ้ามีเป้า ผมก็อยากเป็นพระเอกพันล้าน (ยิ้ม)”
จะร่วมบริจาคได้อย่างไร?
“เรามีช่องทางรับบริจาคหลายๆช่องทางนะครับ sms ก็มี 10 บาทเหมือนเดิม คือเราอยากได้จำนวนคนที่เข้ามาและบริจาคได้ง่ายๆ และคิดดูว่า 70 ล้าน 10 บาทเหมือนเดิมเราได้ 700 แล้ว ฝากพี่ๆ สื่อช่วยกระจายตรงนี้ด้วย 10 บาทเหมือนเดิม และเรามีคิวอาร์โค้ดสำหรับใครที่มีนวัตรกรรมมือถือที่จะสแกนแอพพลิเคชั่น ก็สแกนได้ง่ายๆ บริจาคได้ง่ายๆตามจำนวนที่ทุกคนอยากจะบริจาค มีหลายช่องทางนะครับ ลองดูในเพจของก้าวคนละก้าว”
ถามถึงเส้นเสียงของ “ตูน” ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?
“ก็กลับมาทัวร์ได้แล้วตั้งแต่ต้นเดือน ก็ร้องเพลงไปแล้ว 4-5 วันสุขภาพเส้นเสียงก็อยู่ในเกณฑ์ที่ดี”
การรันตีได้ 100 เปอร์เซ็นต์ไหม?
“ประมาณ 90 ครับ แต่คุณหมอบอกว่าเราอายุเยอะแล้วก็ประมาณนี้แหละ ก็โอเค (หัวเราะ) หมอบอกว่าให้ค่อยๆใช่ ไปก่อนอย่าเพิ่งหักโหมครับ แต่ไม่ใช่เปลี่ยนวิธีการร้องเพลง แต่อาจจะกลับไปสู้วิธีการที่เราเคยร้องได้ คือพอช่วงที่เส้นเสียงเรามีปัญหา เราจะใช้วิธีการแบบผิดๆเพื่อเลี่ยงการออกเสียงในจุดที่มีปัญหา ซึ่งพอเราเลี่ยงมากๆ มันเหมือนกล้ามเนื้อเรามันไปจำแบบผิดๆ เราต้องกลับมาจำในแบบที่ถูก ก่อนที่เส้นเสียงจะมีปัญหา ก็ต้องกลับไปเรียนร้องเพลงใหม่ กลับไปฝึกออกเสียงให้ถูกต้อง”
มีข่าวเชียร์ให้แต่งงาน?
“จริงๆ อย่างที่ผมบอกอยู่เสมอว่าการมีครอบครัวเป็นความฝันของผม รอทุกอย่างลงตัวบอกแน่นอน ไม่มีปิด ระดับผมไม่มีปิดอะไรอยู่แล้ว”
จบอัลบั้มนี้มีลุ้นไหม?
“ก็คิดว่าอย่างนั้นนะครับ คืออัลบั้มเต็มน่าจะประมาณปีหน้า อัลบั้มเราอัดไปได้ 90 เปอร์เซ็นต์ ใกล้เสร็จแล้ว ไม่เกินเดือนนี้น่าจะอัดเสร็จ 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งก็จะปล่อยซิงเกิ้ลไปเรื่อยๆ อัลบั้มเต็มก็น่าจะวางประมาณปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า คิดว่าเราจะอายุ 40 ปีแล้ว ก็อยากจะมีครอบครัว”
“ตูน” ได้เกริ่นๆ กับก้อยไว้บ้างหรือยัง?
“ถ้าลงตัวแล้วจะบอก เพราะเราไม่อยากจะบอกไปแล้วฟาวล์เนอะ มันไม่ดีกับทุกอย่างเนอะ คือเราอยากมีครอบครัว อยากมีเร็วๆนี้”
จะมีโมเมนต์ขอแต่งงานไหม?
“อ้าว ถ้าผมบอกตรงนี้มันก็ไม่เซอร์ไพรส์สิ”
คือถ้าเป็น “ตูน” จะเป็นฤกษ์สะดวกหรือต้องไปดูฤกษ์เป็นจริงเป็นจัง?
“ผมไม่ชอบดูดวง ก็เอามาผสมกัน คือยังไม่มีแพลนขนาดนั้น”
ด้านสาว “ก้อย รัชวิน” เผยหลังจาก “ตูน” หยอดว่าจบอัลบั้มนี้อาจจะมีข่าวดีว่า ถ้าให้แต่งหลังจบอัลบั้มจริงๆ อาจจะใช้เวลาอีก 4 ปีข้างหน้า เพราะในแต่ละอัลบั้มต้องมีการเดินทางโปรโมททัวร์คอนเสิร์ตอีก
“เขายังไม่ได้พูดอะไรกับก้อยนะ ส่วนตัวก้อยไม่รู้ เขาเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น ก้อยไม่ได้ซีเรียสเรื่องการแต่งงานเท่ากับการมีลูก ก้อยชอบเด็กและเราก็มีหลาน เลี้ยงหลานมาก็รู้สึกว่า ถ้าวันหนึ่งเราจะเป็นแม่คนก็อยากให้อยู่ในช่วงอายุที่เราสามารถมีได้ และร่างกายเรายังแข็งแรงอยู่ ซึ่งตอนนี้เราออกกำลังกาย ดูแลสุขภาพตัวเองให้ดีที่สุด”
มีคุยเรื่องลูกไหม ถ้าแต่งงานช้าต้องฝากไข่?
“มีคุยเรื่องนี้นะ เราพูดในมุมผู้หญิงมากกว่า ไม่ได้พูดกดดันหรือพูดให้เขารู้สึกอะไร เพื่อนๆหลายคนอายุใกล้ๆกัน ก็มาชวนไปฝากไข่ ผู้หญิงวัย34-35 ปีจะเริ่มคิดเรื่องนี้แล้ว แต่ก้อยรู้สึกว่าตัวเองยังโอเค แข็งแรงอยู่”
“ตูน” ขอตอนไหน “ก้อย” ก็พร้อมใช่ไหม?
“ให้เขาพร้อมก่อนดีกว่า เราก็ทำทุกวันของเราให้ดีที่สุดแหละ พร้อมเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น ให้เขาทำอัลบั้มของเขาให้เสร็จ ทุกอย่างมีเวลาของมัน ก้อยเชื่ออย่างนั้น เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น และเป็นเวลาที่ถูกที่ ถูกทาง ถูกคนที่สุดแล้ว”
คิดถึงภาพ “ตูน” คุกเข่าขอแต่งงานไหม?
“โอ้โห ขนาดพี่ๆ ขอถ่ายรูปเขายังไม่กล้าถ่ายเลย ถามว่าเคยคิดไหม มันไม่ใช่ทางเขาแน่ๆ คงเป็นอะไรที่เงียบๆ รู้กันสองคนเพราะเขาไม่ค่อยประกาศให้ใครรู้เท่าไหร่ ขี้เขินมากๆ ส่วนเรื่องเซอร์ไพรส์ เขาเซอร์ไพรส์ไม่ค่อยได้นะ ส่วนใหญ่เขาจะทำอะไรให้ก็ทำเลย สิ่งที่ดีคือเขาทำมากกว่าพูด”
อยากมีโมเมนต์นั้นไหม?
“(ยิ้มเขิน) เวลาเห็นคนอื่นก็รู้สึกว่ามันก็ดีเนอะ ก้อยว่าตัวเองก็มีความแมนๆ เหมือนกัน อาจจะไม่ต้องยิ่งใหญ่อะไรมากมาย เพราะเราก็มีความเขิน จริงๆ มันน่าตื่นเต้นมากว่า ถ้าเกิดมันเกิดขึ้นจริงๆ มันจะมาในรูปแบบไหน เป็นสิ่งที่ทำให้รู้สึกเซอร์ไพรส์มากกว่า ไม่ได้คาดหวังอะไรใหญ่โต”
คาดหวัง “ตูน” ประกาศขอ “ก้อย” แต่งงานกลางเวทีคอนเสิร์ตใหญ่ไหม?
“ก้อยยังไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้นเลย เขาบอกจบอัลบั้ม 3-4 ปี อีกนานเลย (ยิ้ม)” :- ไนน์เอ็นเตอร์เทน