วันนี้ (2 ส.ค.61) อดีตนักร้องสาว “เม จีระนันท์” เดินทางมายังกระทรวงสาธารณสุขเพื่อยื่นหนังสือร้องเรียนต่อหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอความช่วยเหลือ ตรวจสอบ และดำเนินการจากเหตุการณ์ที่ได้รับอันตรายเกือบถึงชีวิต หลังจากมีนายหน้าชาวไทยพาเธอไปศัลยกรรมหน้าอกที่ประเทศเกาหลีเมื่อปลายปี 2560 แต่เกิดความผิดพลาด มีอาการติดเชื้อรุนแรงและน้ำท่วมปอด จนต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลในประเทศไทยนานหลายเดือน
โดยหน่วยงานแรกที่เข้าร้องเรียนและยื่นหนังสือคือ “แพทยสภา” โดยมีนายแพทย์สัมพันธ์ คมฤทธิ์ ที่ปรึกษาแพทยสภาเป็นผู้รับมอบหนังสือ โดยแพทยสภามีจะอำนาจดูแค่เรื่องหมอเท่านั้น หากแพทย์โฆษณาโอ้อวดเกินจริงก็ถือว่ามีความผิด ส่วนกรณีที่แพทย์ต่างชาติเข้ามาต้องผ่านการสอบใบอนุญาต หรือหากมาสอนต้องเป็นในส่วนที่แพทยสภารับรองเท่านั้น ซึ่งหลังจากรับเรื่องแล้วจะแจ้งกรรมการที่ประชุมแพทยสภาทราบ เพื่อดำเนินการโดยอาจใช้ระยะเวลาภายใน 7 วัน ส่วนจะเป็นหน้าที่ของแพทยสภา หรือกระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้ดำเนินการต้องดูตามความเหมาะสม
นอกจากนั้นสาว “เม” ได้ไปยื่นหนังสือต่อกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) เพื่อตรวจสอบมาตรฐานของคลินิกในไทยที่เข้ารับบริการหลังจากผ่าตัดที่ประเทศเกาหลี ซึ่งมีการนำแพทย์และพยาบาลชาวต่างชาติมาทำหัตถการที่คลินิกในเมืองไทย โดยมีนายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร รองอธิบดีฯ เป็นผู้รับเรื่อง ซึ่งรองอธิบดีเผยว่าตั้งแต่ทราบข่าวได้มีเจ้าหน้าที่ลงไปดูแลตรวจสอบคลินิกมาแล้ว 1 ครั้ง ตามอำนาจของ พรบ.สถานพยาบาล 2541 ดูแลเรื่องมาตรฐาน บุคลากร แพทย์ และเครื่องมือที่อยู่ภายในราชอาณาจักร โดยหากสถานพยาบาลมีหมอต่างชาติเข้ามาประกอบเวชกรรม โดยไม่มีใบอนุญาต จะมีความผิดทันที โทษจำคุก 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามพรบ.สถานพยาบาล 2541 ม.34 (1)
หลังจากนี้สาว “เม” จะเดินทางไปยังสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เพื่อขอให้ตรวจสอบในส่วนของเอเจนซี่ในเมืองไทยว่ามีการโฆษณา ประชาสัมพันธ์อวดอ้างเกินจริง แต่พอมีปัญหากลับไร้เงา และไม่ได้บอกความจริงถึงปัญหาที่เกิดขึ้น จนทำให้ตนมีอาการถึงขั้นโคม่าและเกือบเป็นอันตรายถึงชีวิต
ทั้งนี้อดีตนักร้องสาวจะเดินทางไปเรียกร้องความเป็นธรรมจากหน่วยงานอื่นๆ ต่อไป เพื่อให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์กับคนที่ทำศัลยกรรมให้ตรวจสอบข้อมูลจนมั่นใจเสียก่อน และคณะแพทย์จากกระทรวงสาธารสุขก็ยืนยันว่าฝีมือของแพทย์ไทย ไม่แพ้ชาติใดในโลก อีกทั้งไทยยังขึ้นชื่อว่าเป็น Medical Hub (ศูนย์กลางสุขภาพระดับนานาชาติ) และหากมีปัญหาใดๆ เกิดขึ้นกฎหมายก็สามารถคุ้มครองได้ทั่วถึง :- ไนน์เอ็นเตอร์เทน
