“กัปตัน” ยืดอกรับผิดทำอดีตแฟนสาว “ท้อง” จริง วอนสังคมโทษตนฝ่ายเดียว


กลายเป็นกระแสวิจารณ์หนักอีกครั้งหลังมีข้อความในทวิตเตอร์หนึ่งออกมาแฉนักแสดงหนุ่มอนาคตไกล “กัปตัน – ชลธร คงยิ่งยง” อายุ 20 ปี  ซึ่งโด่งดังและเป็นที่รู้จักจากผลงานซีรีส์ “เลิฟซิคเดอะซีรีส์ รักวุ่น วัยรุ่นแสบ” ทำแฟนสาวนอกวงการชื่อ “มิ้ง ศวภัทร” อายุ 23 ปี  ตั้งท้อง 


โดยนักแสดงหนุ่มชี้แจงอย่างคลุมเครือด้วยอาการน้ำตาคลอในงานประกาศรางวัล “ไนน์เอ็นเตอร์เทน อวอร์ด 2018” เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. ที่ผ่านมาว่าเพิ่งทราบข่าว ส่วนตัวได้เลิกกับอดีตแฟนสาวไปแล้ว แต่ยังทำทุกอย่างเหมือนเดิม ซึ่งประเด็นเรื่องทำอดีตแฟนท้องหรือไม่ หนุ่มกัปตันไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธ บอกเพียงว่าถ้าเป็นความจริงตนยินดีรับผิดชอบ  


ก่อนที่อดีตแฟนสาวของหนุ่มกัปตันจะออกมาให้สัมภาษณ์สื่อหนึ่งโต้กลับฉะอดีตแฟนหนุ่มรู้เรื่องตนท้องอยู่แล้ว  พร้อมกล่าวอ้างพาดพิงว่ากัปตันถูกต้นสังกัดและครอบครัวไม่ให้พูดความจริง ด้วยความห่วงภาพลักษณ์  ก่อนจะมี “แชทไลน์” ที่ถูกระบุว่าเป็นของ “กัปตัน” คุยกับแฟนสาวในทำนองสื่อว่าทั้งคู่กำลังคบกัน  ซึ่งสาวมิ้งได้ออกมาทวิตเตอร์ยันว่าเป็นของจริง รวมถึงภาพที่ตรวจครรภ์  พร้อมใบรับรองแพทย์ว่าตั้งครรภ์ ซึ่งสาว “มิ้ง” เป็นคนโพสต์ลงโซเชียลถูกปล่อยออกมา

ล่าสุดวันนี้ (11 มิ.ย. 61)  หนุ่ม “กัปตัน” พร้อม “คุณพ่อคุณแม่”  ร่วมด้วยอดีตแฟนสาว “มิ้ง ศวภัทร”  พร้อมคุณแม่ฝ่ายหญิง และตัวแทนจากต้นสังกัดของหนุ่มกัปตัน ได้แถลงข่าวที่บริษัท นาดาว บางกอก สุขุมวิท 31 ชี้แจงถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น 

โดยหนุ่มกัปตัน รับว่าเคยมีความสัมพันธ์ที่ดีเกิดขึ้นกับอดีตแฟนสาว พร้อมรับผิดชอบต่อสิ่งที่ทำไปรวมถึงตัวเด็กที่กำลังจะเกิดด้วย  ส่วนตัวมีความเป็นห่วงเด็กมาก ออกปากขอโทษแฟนคลับและทุกคนที่เกี่ยวข้องตนขอรับผิดคนเดียว วอนคนที่มองครอบครัวของตน ฝ่ายหญิง และค่ายในทางที่ไม่ดี ส่วนตัวไม่อยากให้โทษใคร ถ้าจะโทษขอให้โทษตนฝ่ายเดียว เพราะพ่อแม่สอนให้ตนเป็นคนดีเสมอ  แต่ช่วงวัยรุ่นตนอยากลองเป็นผู้ใหญ่ อยากใช้ชีวิตด้วยตนเอง สุดท้ายถึงรู้ตัวว่าไม่พร้อมจริงๆ ก่อนรับแว้บแรกที่รู้ว่าฝ่ายหญิงท้องตนช็อกมาก  ซึ่งหลังจากนี้จะพาฝ่ายหญิงไปฝากครรภ์ เพราะเป็นห่วงทั้งอดีตแฟนสาวและเด็กในท้องมาก 

ด้านครอบครัว “กัปตัน” โต้ไม่ได้กีดกันให้เด็ก 2 คนคุยกัน แต่เรื่องที่เกิดขึ้นใหญ่เกิดกว่าเด็กจะแก้ปัญหาได้ เพราะฉะนั้นครอบครัวต้องมีส่วนเกี่ยวข้อง ก่อนที่ฝ่ายสาวมิ้งจะยกมือขอโทษ “แม่” ของหนุ่มกัปตันที่เคยให้สัมภาษณ์พาดพิงออกไปในทางไม่ดีด้วยอารมณ์น้อยใจ  

ก่อนที่ครอบครัวของหนุ่มกัปตันจะตอบคำถามกรณีถูกหาว่าไม่เชื่อเรื่อง “เด็กในท้อง” จะใช่ “หลาน” จริงหรือไม่  โดยยันว่าทุกอย่างหลังจากนี้ต้องปล่อยให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์  ถ้าเกิดตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นความจริงพร้อมรับผิดชอบทุกอย่าง  รวมถึงค่าใช้จ่ายตั้งแต่การฝากครรภ์ การคลอดเด็ก และการเลี้ยงดู 

ในส่วนของสาว “มิ้ง” ที่ร้องไห้ตลอดการแถลงข่าว เผยว่าตอนนี้ตั้งครรภ์ได้ 7 สัปดาห์แล้ว ก่อนรับว่าก่อนหน้านี้เคยมีความคิดแว้บหนึ่งเข้ามาว่าอยากเอาเด็กออกแต่ฝ่ายกัปตันห้ามไว้ ซึ่งพอมาถึงตอนนี้ไม่ได้มีความคิดนั้นแล้ว ยอมรับทั้งน้ำตาพร้อมเป็น “คุณแม่เลี้ยงเดี่ยว” เพราะคงต้องเป็นอย่างนั้น ส่วนเรื่องอนาคตของตน ยังคิดอะไรไม่ออก    

ด้านตัวแทนค่าย “นาดาว บางกอก”  ยันไม่ได้ปกปิดเรื่องที่เกิดขึ้น และก่อนหน้าที่จะเป็นข่าวทั้งสองครอบครัวได้พูดคุยและพยายามจะหาทางออกกับเรื่องที่เกิดแล้ว รวมถึงมีการนัดฝ่ายหญิงไปฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลชื่อดังและไม่ได้ยึดผลตรวจอย่างที่เป็นข่าว  ก่อนย้ำสิ่งที่กัปตันทำอาจไม่ถูกต้องและผิดศีลธรรม ซึ่งนักแสดงหนุ่มได้ออกมารับผิดชอบทุกอย่างที่สะท้อนถึงตัวตนของกัปตันออกมา  โดยที่ผ่านมากัปตันไม่ได้เป็นเด็กไม่ตั้งใจทำงาน ถ้าในอนาคตทำงานไม่ดีค่อยพิจารณาในส่วนของงานไป ส่วนโปรเจ็คที่มีไว้กับนาดาวยังดำเนินต่อไป แต่ทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับตัวนักแสดงหนุ่มด้วย หากมีการเปลี่ยนแปลงค่ายจะบอกอีกครั้ง 

ก่อนชี้แจงคำถามที่ว่า  “นาดาว บางกอก” ทำซีรีส์สะท้อนสังคมเกี่ยวกับวัยรุ่นมาโดยตลอด แต่สิ่งที่ออกมากลับตรงกันข้ามจะบอกสังคมอย่างไร โดยตัวแทนของค่ายวัยรุ่นชื่อดังแจงว่า เด็กทุกคนที่ได้ดูซีรีส์ต้องใช้วิจารณญาณในการชม  ซึ่งทุกคนต้องผ่านช่วงระยะเวลาวัยรุ่นเหมือนกัน  ซีรีส์คือบทเรียนหนึ่งที่เด็กได้เรียนรู้ เพราะสุดท้ายทุกคนต้องเจอปัญหาทางค่ายไม่อยากตัดโอกาสของคนๆ หนึ่ง อยากให้เด็กได้แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะถ้าได้เรียนรู้จากสิ่งที่เจอจะทำให้ไม่เกิดปัญหาขึ้นอีก  

ทั้งนี้นักแสดงหนุ่มทิ้งท้ายว่าตนไม่สามารถแก้ไขอดีตได้   สิ่งที่ทำได้คือตั้งใจทำงานออกมาให้คนดูเห็นต่อไป แต่ถ้าผลตอบรับของคนดูไม่ดีตนพร้อมรับสิ่งที่เกิดขึ้น รวมถึงต้องทำให้เด็กที่จะเกิดมามีคุณภาพในสังคมต่อไป  ย้ำคำเดิมทุกอย่างให้โทษตนฝ่ายเดียว :- ไนน์เอ็นเตอร์เทน 

เข้าชม 57 ครั้ง
ดูข่าวเพิ่มเติม