เอ็กซ์คูลซีฟ! “อ่ำ” ตอบตรงม้วนเดียวจบ หลัง “แวร์ โซว” บอกชอบผ่านสื่อ


หลังอดีตนางแบบคุณแม่ลูกหนึ่ง “แวร์ โซว” ได้ออกมาประกาศผ่านเฟซบุ๊กว่า “ชอบ”  นักร้องและนักแสดงคุณพ่อลูกหนึ่งอย่าง “อ่ำ – อัมรินทร์ นิติพน” ซึ่งขอแค่ได้บอกก็พอใจแล้ว จนถูกตีความเป็นกระแสรักรุ่นใหญ่เกิดขึ้น  ล่าสุดทีมข่าว “ไนน์เอ็นเตอร์เทน” ได้ต่อสายตรงถึงคุณพ่อลูกหนึ่งซึ่งได้รับคำตอบชี้แจงทุกอย่างว่า ตนเห็นใจแวร์โซวเพราะเป็นผู้หญิงที่เลี้ยงลูกคนเดียว  และต้องทำความเข้าใจอดีตนางแบบคุณแม่ลูกหนึ่งก่อนว่า พื้นฐานเป็นอย่างไร อาจจะมีอาการป่วยด้วย 


“คำตอบเหมือนที่ผมพูดทุกอย่างในเฟซบุ๊กไลฟ์ไปคือไม่มีอะไรเลย ส่วนตัวผมไม่เคยคุยกับเขา ก่อนหน้านี้มีรายการช่องหนึ่งโทรมาบอกให้ผมไปออกรายการเพื่อเซอร์ไพรส์เขา ผมก็ถามกลับไปว่าจะเซอร์ไพรส์เพื่ออะไร ทีมงานเลยบอกผมว่าเพราะเขามาบอกชอบผมผ่านเฟซบุ๊ก ผมเลยบอกว่า คนมาบอกชอบผมผ่านเฟซบุ๊กเต็มเลย ใครๆ ก็ชอบผมได้ ซึ่งพอเพื่อนผมส่งข้อความนั้น (ข้อความ ของแวร์โซว) มาให้ผมดู รวมถึงจอย (“จอย – อัจฉริยา” อดีตภรรยาอ่ำ) ส่งมาให้ผมดู ผมก็รู้สึกในใจว่า อุ๊ย! เขาเป็นอะไรหรือเปล่า เราอ่านดูก็รู้สึกว่าเขา “ก๋ากั่น” ดีนะ ไม่เก็บอารมณ์ดี แต่เรื่องนี้ผลเสียอาจจะไปถึงตัวเขาได้ หรือผลดีก็อาจจะทำให้เขาสบายใจที่ได้พูดออกไป แต่ผลเสียคืออาจจะมีคนคิดว่าอายุปูนนี้แล้ว ครอบครัวก็ผ่านมาแล้ว  น่าจะเอาเวลาไปดูลูกและพยายามทำตัวให้ดีดีกว่า ซึ่งผมจะพูดเพื่อให้ทุกอย่างจบตรงนี้เลย”  อ่ำกล่าว

ทั้งนี้ “อ่ำ อัมรินทร์” ยังเสริมต่อว่า ตนไม่ได้ปฏิเสธในความรู้สึกดีที่ฝ่ายอดีตนางแบบสาวมีให้แต่ขอพูดในมุมของตนว่า เรื่องนี้ผู้หญิงน่าจะมีผลเสียมากกว่า โดยฝ่ายอดีตนางแบบสาวอาจจะคิดว่าไม่แคร์ หรือแมนๆ มากพอและตีความว่าตัวเองป่วยก็ได้


“ผมคิดว่าทำไมเขาต้องลงให้เป็นเรื่องเป็นราว และผลกระทบที่มาถึงผมก็มีเหมือนกัน ครอบครัวผม อย่างลูกของผมน้องแอลลี่ กับคุณจอยก็โทรมาถามผมว่า รู้จักกันหรือคบหาดูใจกันหรือเปล่า คือเขาเป็นห่วงในพฤติกรรมของใครคนหนึ่งที่เขามีความรู้สึกกับเราโดยเปิดเผย และเขาก็รู้ว่าผมไม่มีอะไร” 

คุณพ่อลูกหนึ่งเผยต่อว่าลูกสาวอย่างน้องแอลลี่ได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้เช่นกัน  ซึ่งลูกสาวตนไม่ได้หวงพ่อเลย แต่สิ่งที่ได้รับผลกระทบคือมีคนมาคอมเม้นท์ ซึ่งมีบางคอมเม้นท์ทำให้ตนรู้สึกไม่ดี  กล่าวหาว่าลูกตนเป็นเด็กแก่แดดจะไปฉีกอกคนที่มายุ่งกับพ่อ 

“ซึ่งผมก็พิจารณานะ ผมคิดว่าคนที่เข้ามาว่าลูกผมคือบัวใต้น้ำ หนีไม่พ้นความริษยาตัวเอง จนเกิดความริษยาและเข้ามาคอมเมนท์แบบนี้  ซึ่งปกติผมไม่เคยยุ่งเรื่องของใคร และอันนี้เป็นเรื่องของเขาที่มาเกี่ยวกับผม แล้วมีผลกระทบกับครอบครัวที่ผมรัก  ซึ่งแอลลี่ดีมาก ผมโทรคุยเรื่องนี้กับลูกนานมาก แต่แอลลี่พูดกับผมว่า “ป๊ะป๋าจะทำยังไงดี  มีพี่มดดำ (คชาภา ตันเจริญ) โทรมาจะให้ป๊ะป๋าไปออกรายการจะได้ชี้แจง แต่ป๊ะป๋าอย่าพูดอะไรไม่ดี ให้เขาเสียใจนะ เพราะเขาไม่สบายอยู่ เขาเป็นโรคซึมเศร้า เดี๋ยวเขาจะเสียใจและคิดมากแล้วลูกเขาจะมีปัญหา”  ผมไม่ได้รู้สึกรังเกียจคุณแวร์โซวเลย แต่ผมเป็นห่วงเขาว่า เขาน่าจะมีเหตุผลยั้งคิดได้มากกว่านี้  คนอาจจะตีตวามว่าเขาป่วยเป็นโรคซึมเศร้า เลยขอทำเรื่องที่ตัวเองสบายใจ แต่อายุประมาณหนึ่งแล้ว  คือตัวจริงผมเป็นคนปากหมานะครับ”  

ถามต่อว่า “แวร์ โซว” อาจจะอยู่ในอารมณ์พูดเล่น คุณพ่อลูกหนึ่งชี้แจง ไม่ว่าจะพูดเล่นหรืออะไรก็ตาม ควรระมัดระวังในการใช้สื่อโซเชียลให้ดี  เพราะอาจจะเป็น “เหยี่อ” ในสังคม ซึ่งอาจจะมีคนคิดไม่ดีกับเขา  เพราะไม่ใช่คนจะมองบวกอย่างเดียว คนที่คิดในด้านไม่ดีก็มีด้วยเหมือนกัน 

“ความจริงมันต้องมีภาพพจน์ของความเป็นกุลสตรีนิดหนึ่งนะ (หัวเราะ) ผมอยู่มาเป็นพี่เป็นน้องในวงการบันเทิงก็นานแล้ว  พอเราตกเป็นเหยี่อของอะไรก็ตามชีวิตมันวุ่นวาย และปัญหาตามมาคือกรรมของคนที่ทำไว้ เพราะกรรมคือผลของการกระทำ ในการที่เขาอยากได้คำตอบจากผม ซึ่งคำตอบของผมคือแบบนี้  และผมก็สงสารและเห็นใจเขาในความเป็นมนุษย์เหมือนกัน เพราะผมพิจารณาแล้วจากสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะมีคนมาคอมเม้นท์ด่าว่าผมหลงตัวเองจากเรื่องนี้เหมือนกัน ซึ่งเวลาที่ผมเดือดผมก็ต้องสะกดกลั้นตัวเองลงมา แล้วไปหาอย่างอื่นทำ”   

ก่อนที่คุณพ่อลูกหนึ่งจะฝากทิ้งท้ายเอาไว้ว่า ส่วนตัวไม่ได้สนิทสนมและไม่เคยพูดคุยกับแวร์ โซวเลย แค่เคยได้ยินชื่อเท่านั้น ฝากบอกทุกคนให้เมตตาคุณแวร์ โซวและเมตตาตนด้วย  ขอให้คิดว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของความรู้สึกดีที่พลาดออกสื่อไปเท่านั้นแล้วกัน  แต่ความจริงไม่มีอะไรทั้งสิ้น ส่วนกระแสที่โจมตีว่าฝ่ายหญิงอาจสร้างกระแสเรียกงานหรือไม่ คุณพ่อลูกหนึ่งกล่าวว่าทั้งหมด คือ “กรรม” ที่มาจากการกระทำ ซึ่งความจริงฝ่าย “แวร์ โซว” อาจจะบริสุทธิ์ใจจะบอกชอบใครสักคนก็ได้ แต่ผลจากกระทำทุกอย่างเป็นดาบสองคม ตนก็ได้รับผลกระทบบ้างแต่คงเล็กน้อยถ้าเทียบกับตัวฝ่ายหญิง :- ไนน์เอ็นเตอร์เทน 

เข้าชม 384 ครั้ง
ดูข่าวเพิ่มเติม