ปี 2561 อาจจะเป็นปีแห่งความหวังใหม่ของผู้สร้างหนังไทย เพราะแต่ละค่ายมีทิศทางการทำหนังที่ชัดเจนและตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น
เริ่มจากค่ายหนังฟีลกู๊ด GDH559 ที่มีฐานผู้ชมคนกรุงเป็นตลาดหลัก เตรียมส่งหนังรักอารมณ์ดี Brother and Sister เข้าฉายรับต้นปี โดยมีสามนักแสดงดัง ซันนี่ นิชคุณ และญาญ่า กอดคอกันมาเรียกเรทติ้ง และยังเป็นการนั่งแท่นผู้กำกับเต็มตัวครั้งแรกของ โอ๋ ภาคภูมิ หลังจากปูทางการเป็นผู้กำกับร่วมในหนังหลอนๆ อย่าง ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ สี่แพร่ง และห้าแพร่งมาแล้ว
ด้านเอ็มพิคเจอร์ และ Transformation ซึ่งยกให้ผู้ชมอายุ 18-35 ปีคือกลุ่มเป้าหมายหลัก ตั้งใจส่งหนังไทยมาโกยเงินไม่ต่ำกว่า 3 เรื่อง ทั้งยังมีแผนจะทำหนังสเกลใหญ่ขึ้น และตรงกับรสนิยมคนไทยมากขึ้น ด้วยความหวังว่าจะสามารถถล่มบ็อกออฟฟิศไทยให้เปรี้ยงยิ่งกว่าเดิม
มาถึงค่าย M39 เตรียมส่งหนังเข้าโรงฉายในปีนี้มากถึง 6 เรื่อง เพราะบางเรื่องถูกเลื่อนมาจากปีที่แล้ว โดยยังคงเน้นผู้กำกับและโปรดิวเซอร์เจ้าเก่า ไม่ว่าจะเป็น พชร์ อานน์ ยอร์ช ฤกษ์ชัย เรียว กิตติกร และ จันทิมา เลียวศิริกุล กับหนังหลากแนวไม่ซ้ำทางกัน // โดยโปรเจ็คท์หนังที่เป็นความหวังครั้งใหญ่ของ M39 ในปีนี้ คือ ตุ๊ดตู่กู้ชาติ ของผู้กำกับปากกรรไกร พชร์ อานนท์
ด้านพระนครฟิล์ม ยังคงเน้นหนังตลกแนวถนัดเช่นเคย กับ 3 เรื่อง 3 รส
ส่วนค่ายหนังเก่าแก่ ไฟว์สตาร์ ปีนี้นอกจากลุยทำหนังหลากหลายขึ้นแล้ว ยังกลับไปจับงาน Movie Series อีกครั้งในรอบเกือบ 20 ปี เพราะมองเห็นลู่ทางตลาดในต่างประเทศ ทั้งยังสามารถผลิตผลงานได้มากขึ้น โดยต่อยอดจากความสำเร็จของหนังสยองขวัญตระกูล ตีสาม หรือ 3AM ซึ่งเป็นที่รู้จักของผู้ชมทั้งในไทยและต่างประเทศเป็นอย่างดี
และแม้เทคโนโยลีการผลิตหนังทุกวันนี้จะพัฒนาขึ้นมาก แต่ช่องทางในการเผยแพร่ หรือลู่ทางให้ผู้สร้างทำกำไรกลับลดลง เพราะวิดีโอหรือดีวีดีก็เริ่มจะขายไม่ออก แถมยังเจอปัญหาการดาวน์โหลดเถื่อนมาสกัดดาวรุ่ง ดังนั้นการส่งออกหนังไปยังตลาดต่างประเทศจึงกลายเป็นทางรอดของผู้สร้างทุกราย
ถึงอย่างนั้น ผู้สร้างหนังทุกค่ายก็ยังคงให้ความสำคัญกับผู้ชมชาวไทยเป็นอันดับแรก เพราะนอกจากจะเป็นตลาดหลักที่พูดภาษาเดียวกันแล้ว ตัวตนและลายเซ็นแบบฉบับของหนังไทยยังเป็นจุดขายให้คนต่างชาติสนใจและซื้อลิขสิทธิไปจัดจำหน่ายในต่างประเทศ