นาทีนี้ไม่มีใครไม่อยากรู้ประวัติของ “เมแกน มาร์เคิล” นักแสดงสาวชาวอเมริกันวัย 36 ปี ผู้คว้าหัวใจ “เจ้าชายแฮร์รี” มกุฎราชกุมารลำดับที่ 5 แห่งราชวงศ์อังกฤษ วัย 33 ชันษา ก่อนหน้านี้ทุกคนรู้กันแค่ว่า เมแกน เป็นนักแสดงดังในแวดวงทีวี มีผลงานเด่นเช่นซีรีส์เรื่อ Suits General Hospital 90210 The League และ Castle รวมถึงหนังเรื่อง Horrible Bosses และ Remember Me
แต่ตอนนี้ประวัติของเธอถูกขุดคุ้ยละเอียดยิบว่า เติบโตในนครลอสแองเจลิส เป็นลูกผสมระหว่างคนขาวฝรั่งคุณพ่อกับคนผิวสีฝั่งคุณแม่ที่เป็นแอฟริกัน-อเมริกัน ซึ่งเป็นครอบครัวชนชั้นกลางธรรมดาๆ เมแกนจึงขยันขันแข็ง อ่อนหวาน และติดดินสุดๆ ที่สำคัญไม่เพียงหน้าตาสวยเท่านั้น แต่มุมมองความคิดและอินเนอร์ของบัณฑิตนิเทศศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยนอร์ธเวสเทิร์นคนนี้ก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน เพราะถึงจะโด่งดังเป็นที่รู้จัก แต่พระคู่หมั้นของเจ้าชายแฮร์รีก็ไม่ได้หลงระเริงไปกับแสงสีและคำเยินยอ ตรงกันข้ามเธอกลับมองว่า ชื่อเสียงนั้นนำพามาซึ่งโอกาสต่างๆ พร้อมๆ กับความรับผิดชอบในการสนับสนุนและแบ่งปันแก่ผู้อื่น แถมเจ้าตัวยังทำให้ทุกคนเห็นว่าเธอทำงานเพื่อสังคมอย่างจริงจังด้วยการทำงานร่วมกับองค์การเพื่อการส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศและเพิ่มพลังของผู้หญิงแห่งสหประชาชาติ หรือ UN Women ก่อนที่จะเป็นคู่รักของเจ้าชายแฮร์รี่ถึง 2 ปี และยังทำงานร่วมกับมูลนิธิ World Vision เพื่อเด็กยากไร้
ชีวิตรักของเมแกนก็ไม่ธรรมดา เธอเคยผ่านการแต่งงานมาแล้วกับโปรดิวเซอร์หนัง “เทรเวอร์ เองเกิลสัน” เมื่อปี 2011 ก่อนจะหย่ากันในอีก 2 ปีต่อมา จากนั้นเธอก็ครองตัวโสดจนกระทั่งได้รู้จักและสปาร์ครักกับเจ้าชายแฮร์รี่เมื่อปีที่แล้ว ผ่านการนัดบอดที่เพื่อนสาวของทั้งคู่จัดให้ และได้สานสัมพันธ์กันเรื่อยมา ทั้งๆ ที่ต่างฝ่ายต่างไม่เคยรู้เรื่องของกันและกันสักเท่าไหร่ โดยเฉพาะเจ้าชายเสน่ห์แรงที่ไม่เคยดูผลงานการแสดงของสาวเมแกนเลยสักเรื่อง
แต่ตลอดเวลาที่คบหาดูใจกัน เมแกนได้พิสูจน์ตัวเองให้ทุกคน โดยเฉพาะราชวงศ์และประชาชนชาวอังกฤษเห็นแล้วว่า เธอควรค่าแก่การเป็นพระสุณิสา หรือหลานสะใภ้ของควีนอลิซาเบธ จนพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เข้าพิธีเสกสมรสที่โบสถ์เซนต์จอร์จ ซึ่งเป็นโบสถ์ประจำราชวงศ์อังกฤษ ตั้งอยู่ภายในพระราชวังวินด์เซอร์ใกล้กรุงลอนดอน ในเดือนพฤษภาคมของปีหน้า
ขณะที่ศาสนจักรแห่งอังกฤษก็ไม่ติดขัดที่เมแกนซึ่งผ่านการหย่าร้างมาแล้วจะเข้าพิธีเสกสมรสกับพระบรมวงศานุวงศ์ เพราะได้มีการเปลี่ยนกฎเกณฑ์นี้ตั้งแต่ปี 2002และการันตีได้เลยว่าไม่มีกระแสต่อต้านจากส่วนสื่อมวลชนและประชาชนชาวอังกฤษแน่นอน เพราะต่างตื่นเต้นยินดีและเตรียมพร้อมเวลคัมว่าที่เจ้าหญิงคนใหม่อย่างเอิกเกริก
