ดาราเจ็บหนักเพราะโกอินเตอร์

กว่าจะสวยปังเป็นเซเลบฯ อินเตอร์มีจ๊อบในหลายประเทศ ภายใต้สังกัด Society Management ของอเมริกามาเกือบปี แต่สาว “ปู ไปรยา” บอกเลยว่าเส้นทางโกอินเตอร์ทำเอาจุก เพราะบินไปทำงานแต่ละทีต้องควักกระเป๋าเองเป็นล้าน จ่ายตั้งแต่ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าเสื้อผ้า หน้าผมก็ต้องทำเอง แต่เมื่อมองในระยะยาวก็ยังถือว่าคุ้ม


ก่อนจะเดบิวต์เป็น 1 ใน 6 หนุ่มวงทูพีเอ็ม ไอดอลเกาหลีที่สาวๆ หลายประเทศแห่กรี๊ดและอยากได้เป็นสามี  ชีวิตลูกคุณหนูนักเรียนนอก “นิชคุณ หรเวชกุล” ก็เปลี่ยนไปทันทีหลังจากแคสติ้งผ่าน และเซ็นสัญญากับค่าย JYP รอบแรกนานถึง 8 ปี เพราะนอกจากต้องดร็อปเรียนทันทีแล้ว ยังต้องเก็บเสื้อผ้าไปอยู่หอพักของค่าย JYP ร่วมกับศิลปินฝึกหัดอีก 5 คน ซึ่งหนุ่มคุณเป็นชาวต่างชาติเพียงคนเดียว ตลอดระยะเวลากว่า 2 ปี หนุ่มคุณและเพื่อนๆ ต้องฝึกหนักทั้งร้อง ทั้งเต้น เล่นดนตรี การแสดง รวมถึงการเป็นพิธีกร ที่เพิ่มเติมกว่าเพื่อนคือหนุ่มคุณต้องเรียนภาษาเกาหลีด้วย  ท่ามกลางบรรยากาศสุดกดดัน เพราะตารางซ้อมแน่นเวอร์ 11 โมงยัน 3 ทุ่มทุกวันไม่มีวันหยุด และมีกฎระเบียบเคร่งครัดมากมาย เช่น ห้ามดื่มเหล้า ห้ามมีแฟน ห้ามทะเลาะวิวาท ใครฝ่าฝืนจะโดนไล่ออกทันที  ที่สำคัญคือแทบไม่ได้ เจอหน้าครอบครัว จนเจ้าตัวต้องโทรศัพท์ข้ามประเทศมาระบายความอัดอั้นกับคุณแม่หลายครั้ง แต่ก็ได้กำลังใจให้สู้ต่อไป นอกจากนี้ค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงเป็นศิลปินฝึกหัด ตั้งแต่ค่าอาหาร, ค่าเสื้อผ้า, ค่าที่พัก, ค่าครูสอนร้องเพลง, สอนเต้น, สอนภาษาเกาหลี,  และบริการต่างๆ ก็ถูกลงบัญชีไว้ทุกเม็ด เรียกว่าเป็นหนี้ตั้งแต่ยังไม่มีผลงาน  และทันทีที่มีผลงาน มีรายได้ ก็จะนำเงินมาหักกลบลบหนี้ให้หมด ก่อนจะรีเทิร์นกลับมาเป็นส่วนแบ่งรายได้ แต่เมื่อมาถึงวันนี้ที่ความอดกลั้นอดทนผลิดอกออกผล ทั้งเงินและชื่อเสียง ตลอดจนโอกาสที่ตามมาอย่างมากมาย ก็ถือว่าคุ้มค่า น่าภูมิใจ และยังเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับผู้อื่นด้วย 


พระเอกนักบู๊ จาพนม ก็เจ็บหนักเพื่อแลกกับการโกอินเตอร์เช่นกัน แม้เจ้าตัวจะไม่เคยเปิดเผยว่าต้องลงทุนเป็นตัวเงินไปเท่าไหร่ แต่ก็คงไม่เทียบไม่ได้กับที่ต้องถูกตราหน้าว่าเป็นคนเนรคุณตั้งแต่บุพาการี ยันผู้มีพระคุณอย่าง เสี่ยเจียง สมศักดิ์ แห่งค่ายสหมงคลฟิล์ม ที่แจ้งเกิด แต่จากลับฉีกสัญญา แล้วหนีหน้าไปเป็นนักแสดงฮอลลีวู้ด เสี่ยเจียงจึงให้ทนายฟ้องทันควัน  ก่อนสงบศึกกันได้เมื่อ จา พนม ย่องเงียบกลับมาเคลียร์ใจด้วยตัวเอง แต่จนถึงตอนนี้เส้นทางของ จา พนม กับ เสี่ยเจียง รวมถึง ปรัชญา ปิ่นแก้ว ผู้กำกับที่จาบอกว่านับถือมาก ก็ไม่เคยหวนมาบรรจบกันอีกเลย 


แต่ที่เปลืองตัวที่สุดคือ ซาร่า มาลากุล เลน เพราะทั้งไต่เต้าและเต้าไต่สู่การเป็นดาราฮอลลีวู้ด แต่หลายปีที่ผ่านมากับหนังหลายเรื่อง นอกจากการเปลื้องผ้า ทั้งแบบวับๆ แวมๆ และเปลือยทั้งตัวแบบไม่เหลืออะไรให้จินตนาการแล้ว หนังของซาร่าหลายเรื่องยังเป็นแค่หนังแผ่น หวีด สยอง นองเลือด แถมถูกสับเละว่าต่ำตมทั้งบทหนังยันโปรดักชั่นอีกด้วย 

ตัวก็เชิ่ดใส่ เพราะถือว่าท้าทายความสามารถ และอาจมีผู้กำกับหรือแมวมองเห็นความทุ่มเทของเธอ จนได้ขยับเป็นนักแสดงแถวหน้าในสักวันหนึ่ง

เข้าชม 33 ครั้ง
ดูข่าวเพิ่มเติม