เจาะลึกความสำเร็จของจักรวาลแห่งมาร์เวล

หลังจาก Thor : Ragnarok เข้าฉายถล่มบ็อกซ์ออฟฟิศโลก ก็ส่งให้ค่ายหนัง Marvel Studios  มีรายรับรวมเฉพาะในสหรัฐอเมริกาอเมริกาทะลุ 1 แสน 7 หมื่นล้านบาทอย่างรวดเร็ว ขณะที่รายรับรวมทั่วโลกทะยานเกิน 442,000 ล้านบาทเข้าไปแล้ว นับตั้งแต่ Iron Man ภาคแรกเข้าฉายเมื่อเกือบ 10 ปีก่อน  ที่สำคัญ มาร์เวล สตูดิโอ ภายใต้ชายคาดีสนี่ย์ยังเป็นสตูดิโอแรกในโลกที่ผลิตหนังที่โกยรายได้เปิดตัวทะลุ 3,400 ล้านบาท ทั้ง 3 เรื่องที่เข้าฉายในปีเดียวกัน  เริ่มจาก Guardians of the Galaxy Vol.2  เมื่อเดือนพฤษภาคม Spider-Man : Homecoming ในเดือนถัดมา และ  Thor: Ragnarok ที่เพิ่งเข้าฉายไปสดๆ ร้อนๆ  


งานนี้ The Wrap ชำแหละสูตรสำเร็จของจักรวาลแห่งมาร์เวล เป็นข้อๆ มาเลยว่า ประการแรก ซูเปอร์ฮีโร่แต่ละตัว แม้จะมีความเชื่อมโยง แต่ก็แตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยมาร์เวลกล้าที่จะทดลองให้ซูเปอร์ฮีโร่ได้ทำอะไร หรือเป็นอะไรที่แตกต่าง  ซึ่งมักจะมาจากสไตล์ของผู้กำกับหนังแต่ละเรื่องนั่นเอง ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด คือ Guardians of the Galaxy ที่ผู้กำกับ เจมส์ กันน์ ให้ความสำคัญกับดนตรีประกอบสุดจี๊ด  ขณะที่ Thor : Ragnarok ที่ผู้กำกับคนใหม่ Taika Waititi เปลี่ยนเทพเจ้าสายฟ้ามาดเท่ห์ให้กลายเป็นรั่วสุดขีดก็ยังได้  


ขณะเดียวกันก็ต้องยอมรับว่า มาร์เวล ใจถึงไม่เบา ที่ยอมเสี่ยงให้ผู้กำกับหน้าใหม่ ได้โชว์ฝีมือกับหนังซูเปอร์ฮีโร่ฟอร์มยักษ์ โดยที่ทางค่ายแค่คอยสนับสนุนและชี้แนะแนวทางการสร้าง เพื่อให้ผู้กำกับเหล่านั้นปล่อยของได้เต็มที่ ซึ่งที่ผ่านมาความกล้าเสี่ยงนี้ก็ได้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่าเสมอ 


แต่ต่อให้มีของดีขนาดไหนในมือ หากขาดการประชาสัมพันธ์อันทรงพลัง ก็อาจไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่เป็นอยู่  ดังนั้นแผนการตลาดจึงเป็นอีกเรื่องที่มาร์เวลให้ความสำคัญ ซึ่งจะเห็นได้ว่าตลอดปี 2017 แม้มาร์เวลจะส่งหนังเข้าฉายถึง 3 เรื่อง แต่แนวทางการโปรโมทแต่ละเรื่องก็มีจุดขายที่ชัดเจน  อย่าง Thor : Ragnarok ปูทางมาตลอดว่าเทพเจ้าสายฟ้าภาคนี้จะเกรียนกว่าทุกภาคที่ผ่านมา  ผิดกับ Black Panther ซูเปอร์ฮีโร่ผิวสีคนแรกของค่ายที่จะลงจอต้นปีหน้า ก็เน้นให้ดูขึงขัง และมาทางฮิพฮอพอย่างเห็นได้ชัด

ที่สำคัญ มาร์เวล ยังถือคติช้าๆ ได้พร้าเล่มงาม เพราะไม่เน้นเร่งรีบสร้างหนังมาเกาะกระแสช่วงที่กำลังฮอต  ตรงกันข้ามกลับใช้เวลาเพื่อพัฒนาหนัง จนมั่นใจว่าน่าจะดีที่สุดแล้ว จึงค่อยลงโรงฉาย 

ส่วนปัจจัยสุดท้ายที่ทำให้หนังมาร์เวลเกือบทุกเรื่องประสบความสำเร็จ ก็คือการปล่อยหมัดเด็ดตอนท้าย เพื่อปูทางสู่หนังเรื่องใหม่ โดยร้อยเรียงให้เกี่ยวเนื่องกัน จึงทำให้แฟนหนังต้องคอยติดตาม ดูทุกเรื่อง เพื่อให้เข้าใจจักรวาลแห่งมาร์เวลแบบครบถ้วนไม่ตกหล่นนั่นเอง     

เข้าชม 92 ครั้ง
ดูข่าวเพิ่มเติม