มหากาพย์เรื่องฉาวของ “ฮาร์วีย์ ไวน์สตีน”

“ฮาร์วีย์ ไวน์สตีน” ผู้บริหารที่ทรงอิทธิพลในฮอลลีวูด และปลุกปั้นนักแสดงสาวและผู้กำกับหลายคนมาประดับวงการ ตกที่นั่งลำบากเพราะพฤติกรรมงามไส้ของตัวเอง  ทันทีที่หนังสือพิมพ์ The New York Times ออกมาแฉเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม ว่า เขาพฤติกรรมคุกคามทางเพศผู้หญิงหลายคนมาหลายสิบปี  ไล่มาตั้งแต่พนักงานบริษัท ยันนักแสดงสาว แอชลีย์ จัดด์ และโรส แม็คโกวาน เพื่อแลกกับความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน


กลายเป็นชนวนให้สาวๆ อีกหลายคนพาเหรดกันออกมาสาวไส้เรื่องฉาวสะท้านโลกที่ถูกซุกอยู่ใต้พรมของฮาร์วีย์อย่างต่อเนื่องชนิดแทบจะรายวันกันเลยทีเดียว  โดยบรรดาสาวๆ ที่อ้างว่าตกเป็นเหยื่อคุกคามทางเพศของเจ้าพ่อวงการหนัง ยังรวมถึงนางเอกตัวท็อปอย่าง แองเจลิน่า โจลี่  กวินเน็ธ พัลโทรว์  ลีนา เฮดี้ย์  และลูปิต้า นียองโก  


ที่เหล่าซุปตาร์ดาราดังทั้งหญิงและชาย ไม่ว่าจะเป็น บรี ลาร์สัน  เมอริล สตรีพ  จูดี้ เดนช์   จอร์จ คลูนีย์   เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบทช์   ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ และอีกเพียบ ยันอดีตผู้นำสหรัฐฯ “บารัค โอบามา” ต่างก็ออกมาตำหนิการกระทำของฮาร์วีย์อย่างไม่ไว้หน้า และชื่นชมบรรดาผู้หญิงที่กล้าลุกขึ้นมาตีแผ่ประสบการณ์แสนเจ็บปวดเพื่อกระชากหน้ากากผู้บริหารใจโฉด


ฟากผู้กำกับเลือดสาด “เควนติน ทาเรนติโน่” ก็เผยกับ New York Times ว่ารู้เรื่องฉาวนี้มาหลายปีแล้ว  ยังไม่นับรวมที่พระเอกกล้ามล่ำ แชนนิ่ง เททั่ม ที่พับโปรเจ็คท์หนังที่จะทำกับค่าย เดอะ ไวน์สตีน ไปทันควัน  ส่วนนักแสดงเจ้าบทบาท “ทอม แฮงส์” ก็ประกาศชัดว่า ไม่มีทางกลับไปร่วมงานกับโปรดิวเซอร์ยักษ์ใหญ่สุดอื้อฉาวคนนี้อีกแน่นอน

เท่านั้นไม่พอ เรื่องนี้ยังก่อให้เกิดกระแสร้อนในโลกโซเชียลไปด้วย เมื่อทั้งเซเลบ นักการเมือง และชาวเน็ตต่างพากันติดแฮชแท็ก #metoo เพื่อประณามการคุกคามหรือล่วงละเมิดทางเพศโดยรวม และเป็นการแสดงออกถึงประสบการณ์ของบรรดาผู้ที่ตกเป็นเหยื่อด้วย  จนท้ายสุดแฮชแท็กที่ว่านี้ก็กลายเป็นแคมเปญในโลกโซเชียลเพื่อกระตุ้นให้ผู้คนตื่นตัวกับปัญหาสังคมนี้ไปเรียบร้อย

และดูเหมือนว่าวิบากกรรมความต่ำตมของฮาร์วีย์จะไม่จบแค่ที่กระแสสังคมกดดันเท่านั้น เพราะภรรยา “จอร์จิน่า แชปแมน” ก็ประกาศแยกทางทันทีที่เรื่องนี้แดงขึ้นมา  พร้อมๆ กับที่ฮาร์วีย์ถูกเด้งออกจากเก้าอี้ผู้บริหารค่ายหนังที่เค้าก่อตั้งขึ้นมาเอง  เช่นเดียวกับหน่วยงานด้านภาพยนตร์แถวหน้า ช่น ผู้จัดงาน Oscars ของสหรัฐฯ และ BAFTA ของอังกฤษ ก็ปลดฮาร์วีย์ออกจากการเป็นสมาชิกเซ่นพิษข่าวฉาวสะเทือนวงการนี้  ฟากสมาคมผู้อำนวยการสร้างแห่งอเมริกา ก็สั่งแบนอดีตผู้ทรงอิทธิพลแห่งวงการหนังอินดี้ไปตลอดชีวิต

ส่วนสถาบันภาพยนตร์อังกฤษ หรือ BFI ก็ประกาศยึดคืนรางวัลเกียรติยศ BFI Fellowship รางวัลสูงสุดของสถาบัน ที่มอบให้ฮาร์วีย์เมื่อปี 2002 เช่นเดียวกับมหาวิทยาลัย 

ฮาร์วาร์ด ที่ริบเหรียญรางวัลเกียรติยศ Du Bois Medal (ดูบัวร์ มีดัล) ที่เคยมอบให้เมื่อปี 2014 ขณะที่ผู้จัดเทศกาลหนังเมืองคานส์ ก็แสดงจุดยืนไม่ปลื้มกับเรื่องนี้

เท่านั้นไม่พอรัฐบาลฝรั่งเศสก็ดำเนินการริบเครื่องอิสริยาภรณ์ขั้นสูงสุด ที่มอบให้ ฮาร์วีย์ เมื่อปี 2012  ส่วนอังกฤษก็กำลังพิจารณาถอดเครื่องราชอิสรยาภรณ์ ชั้น CBE 

เข้าชม 135 ครั้ง
ดูข่าวเพิ่มเติม