ตลกสาวร่างเล็ก “ตุ๊กกี้-สุดารัตน์ บุตรพรม” ได้รับเลือกให้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการแสดงชุด “รำสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ” ร่วมกับคณาจารย์และนักศึกษาของสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์อีกเกือบ 30 ชีวิต เพื่อแสดงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ความรู้สึกในระหว่างการรำในชุดนี้ ตลกสาวร่างเล็กกล่าวว่า เธอรำถวายด้วยหัวใจ เพราะถือเป็นโอกาสสุดท้าย ที่จะได้ถวายงานในหลวงรัชกาลที่ 9 โดยเนื้อร้องของเพลงที่ใช้รำถวายในครั้งนี้ เป็นบทพระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้
.
โดยตุ๊กกี้เปิดใจหลังจาก ทำการเสร็จจบว่า “จะบอกว่าในชีวิตนี้ ตุ๊กกี้ไม่เคยได้ถวายงานพระองค์ท่าน ครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิตที่ได้ถวายงานพระองค์ท่านในฐานะประชาชนคนหนึ่ง ความภาคภูมิใจที่สุดคือการแสดงชุดนนี้ ร่วมกับสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ กราบขอบพระคุณครูบาอาจารย์ที่ได้เชิญชวนตุ๊กกี้มาถวายงานพระองค์ท่าน ตุ๊กกี้อยากจะรำให้สุดฝีมือ เพราะว่าเป็นเกียรติสูงสุดในชีวิต”
นอกจากนี้ตลกสาวชื่อดัง ยังกล่าวอีกว่าในชีวิตของเธอ เคยผ่านงานแสดงมาหลากหลาย แต่ครั้งนี้คือการรำจากก้นบึ้งของหัวใจ
“ตุ๊กกี้เคยไปเฝ้ารับเสด็จพระองค์ท่าน เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม ที่โรงพยาบาลศิริราช เราเห็นพระองค์ท่านอยู่ไกลๆ แต่เราดีใจมากแล้ว ทุกวันนี้พระองค์ท่านเหมือนเป็นเทพองค์หนึ่งที่ตุ๊กกี้บูชาพระองค์ท่านเหมือนเทพที่ชี้นำชีวิตให้เรา ได้เดินตามรอยพระองค์ท่าน”
.
พร้อมกล่าวว่า ความรู้สึกเมื่อตอนได้รำถวาย ในชุดที่ชื่อว่า “พุทธบูชา” เมื่อเสียงเพลงดังขึ้น เธอไม่รู้ว่าน้ำตารื่นขึ้นมาตอนไหน แต่สายน้ำแห่งความรู้สึกท่วมท้นกลับหลั่งไหลโดยไม่รู้ตัว
“การแสดงชุดนี้เหมือนใช้จิตวิญญาณที่มีอยู่ ทั้งความรู้สึกและความคิดในส่วนลึกของหัวใจ ว่าเราจะต้องรำถวายให้ดีที่สุดในชีวิต ในระหว่างที่รำ เมื่อตุ๊กกี้มองไปที่พระบรมฉายาลักษณ์ของพระองค์ท่าน ความรู้สึกตามภาษาชาวบ้านคือ เหมือนตุ๊กกี้กำลังมองหน้าของผู้ใหญ่ที่เรานับถือมาตลอดชีวิต ตุ๊กกี้บอกกับพระองค์ท่านในใจว่า พระองค์ท่านคะ หนูจะรำให้ดีที่สุด หนูจะรำให้ไม่ผิดเลย” ตุ๊กกี้กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
.
ตลกสาวร่างเล็กกล่าวต่อว่า เธอเติบโตมาในยุคที่ได้เห็นพระราชกรณียกิจของพระองค์ท่าน จากข่าวในพระราชสำนัก และได้รับฟังเรื่องราวของพระองค์ท่านจาก ปู่ ย่า ตา ยาย
“ตุ๊กกี้เติบโตมากับภาพถ่ายและวิดีโอ รวมถึงข่าวในพระราชสำนักที่ฉายพระราชกรณียกิจของพระองค์ท่าน แต่ตุ๊กกี้เกิดไม่ทันที่จะได้เห็นในยุคที่พระองค์ท่านทรงงาน เราได้ฟังเรื่องของพระองค์ท่านจาก ปู่ ย่า ตา ยาย ว่าท่านทรงงานหนักขนาดไหน เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราทำงานเหนื่อยทุกวันนี้ ยังไม่เท่ากับเศษเสี้ยวหนึ่งที่พระองค์ท่านทำเลย ทุกอย่างที่เราทำ เราทำเพื่อตัวเอง แต่พระองค์ท่านทรงงานหนักเพื่อคนไทยทั้งประเทศ”
.
สุดท้ายคำตอบจากหัวใจที่ตลกสาวร่างเล็กกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เมื่อถูกถามถึงความรู้สึกในวันที่ 13 ตุลาคมปี 2559 กับความรู้สึกของวันที่ 13 ตุลาคมปี 2560 ว่าแตกต่างกันอย่างไร ตลกสาวร่างเล็กกล่าวว่าเชื่อว่าเมื่อนึกถึงวันนี้ คนไทยจะมีความรู้สึกเศร้าเสียใจ แต่ในความเสียใจทุกคนตระหนักดีว่าพระองค์ท่านไม่ได้จากประชาชนไปไหน เพราะพระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่รักประชาชนยิ่งกว่าสิ่งใด ในหลวงรัชกาลที่ 9 จะยังคงอยู่ในหัวใจของคนไทย เสมือนพ่อของแผ่นดินตราบนิจนิรันดร.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน