เจ็บจนจุกอก! “พ่อกุญแจซอล” รับลูกท้องจริง ภาวนาขอให้ชีวิตคู่รอดฝั่ง

หลังคุณแม่แท้ๆ ของ “กุญแจซอล – ป่านทอทอง บุญทอง” นางเอกสาววัย 27 ปี และยังเป็นลูกสาวของนักแสดงรุ่นใหญ่ “นึกคิด บุญทอง” ออกมายอมรับว่า สาเหตุที่ลูกสาวหายหน้าจากวงการบันเทิงไปเพราะกำลังตั้งท้องอยู่จริง ซึ่งสอดคล้องกับภาพของสาวกุญแจซอลที่ดูอวบอิ่มเหมือนกับกำลังตั้งครรภ์ใกล้คลอด ขณะกำลังนั่งกินข้าวกับ “นาวาอากาศโท ฌณัฏฐ์ เลิศพัฒนาไทย” แฟนหนุ่มดีกรีกัปตันสายการบินดัง ได้ถูกเผยแพร่ผ่านทางโลกออนไลน์ ซึ่งคุณแม่เองก็กลุ้มใจอย่างมาก ด้วยเหตุที่ลูกสาวได้หนีออกจากบ้านไปนานถึง 8 เดือนแล้ว  


.

ล่าสุดวันนี้ (10 ต.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. ทีมข่าว “ไนน์เอ็นเตอร์เทน” ได้ต่อสายตรงไปถึง “คุณพ่อนึกคิด” ซึ่งก่อนหน้านี้ยังคงเก็บตัวเงียบ เพื่อสอบถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยคุณพ่อนึกคิด  กล่าวยอมรับว่า ทุกอย่างเป็นความจริง ตามที่ “แม่มุก – มุกดา บุญทอง” แม่ของนางเอกสาว ให้สัมภาษณ์ไปทั้งหมด ว่าไม่ได้เจอหน้าลูกสาวมาเป็นเวลา 8 เดือน นับตั้งตั้งแต่วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2560 ที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้ พร้อมยืนยันว่าลูกสาวตั้งครรภ์จริง


.

“ตามที่คุณแม่ให้สัมภาษณ์ไป เป็นความจริงทุกประการ พ่อเพิ่งทราบเรื่องเหมือนกัน  ตอนแรกมีคนพูดลือกันไปมากมาย แต่เราก็ไม่รู้จะพูดยังไง ซึ่งพอเราเห็นรูปของลูกออกมา เราถึงเข้าใจ เพราะเราก็ไม่ได้เจอหน้าลูกมา 8 เดือนแล้ว  ถามว่าในความรู้สึกของผม ณ ตอนนี้เป็นยังไง ผมยังช็อกและยังงงอยู่ ไม่รู้ว่าทำไมเรื่องอย่างนี้ ถึงเกิดกับครอบครัวเรา แค่นี้เราก็เจ็บปวดมากพอแล้ว  ในช่วงแรกที่เขาออกจากบ้านไป เราเป็นห่วงเขาสารพัด  แต่พอรู้ว่าเขาปลอดภัยดี ก็รู้สึกว่าดีใจแล้ว”

.


นอกจากนี้ คุณพ่อนึกคิด ยังบอกว่า ตอนนี้ไม่สามารถติดต่อกับลูกสาวได้เลย ทั้งๆที่ผ่านมาพยายามที่จะติดต่อลูกตลอด  แต่ทางฝ่ายชายไม่ให้คุย  ไม่ให้รับสาย ซึ่งทางครอบครัวเป็นห่วงสารพัด และคิดไปต่างๆ นานา  ว่าลูกสาวจะโดนอุ้มไปทำไม่ดีเหมือนข่าวที่เคยเกิดขึ้น ทั้งนี้เรื่องทุกอย่างครอบครัวต้องเก็บเงียบเอาไว้ตลอด 8 เดือน  เพราะลูกสาวออกจากบ้านไปตั้งแต่วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2560 และเพิ่งครบ 8 เดือน เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2560 ที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้เพื่อนสนิทของกุญแจซอลโทรศัพท์ไปหา  ฝ่ายชายก็ไม่ให้รับสาย ทางครอบคัรวเองไม่รู้เหตุผลว่าเป็นเพราะอะไร เนื่องจากฝ่ายชายอายุเกือบจะ 40 ปีแล้ว การทำเช่นนี้กับตนและครอบครัว ไม่ใช่ลูกผู้ชาย  

.

“รอให้เขาออกมาพูดเองดีกว่าครับ ผมไม่มีอะไรจะพูดแล้ว เพราะจุกไปหมดแล้ว แค่นี้ก็เจ็บช้ำมากพอแล้ว ส่วนเรื่องที่ลูกไปจดทะเบียนสมรสกัน ผมเพิ่งมาทราบภายหลังเหมือนกันว่า เขาไปจดทะเบียนกันในวันที่ 14 ก.พ. ซึ่งก่อนหน้านี้เขาเร่งรีบทุกอย่าง  ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ตัวผมไม่ค่อยว่างติดถ่ายละครตลอด ทางแม่ของน้องเป็นคนบินไปคุยกับครอบครัวของฝ่ายชายที่จ.สุราษฎร์ธานี  ว่าในเดือน พ.ค. ปีนี้(2560) จะมีการหมั้นและแต่งงานกัน  จากนั้นตัวลูกสาวของผม กับผู้ชายเดินทางกลับมาที่กรุงเทพฯ ก่อน ผมเลยได้คุยกับเขา ซึ่งเขาบอกว่าเขาพร้อม ผมก็พูดไปคำหนึ่ง ตามที่แม่ให้สัมภาษณ์ไปคือ “มันไวไปหน่อยมั้ยลูก ขอให้ใช้เวลาพิสูจน์ดูกันไปอีกมั้ย” ผมก็ไม่รู้ว่าเขาโกรธ หรือฉุนเฉียว พอผมพูดไปแบบนั้น ตัวเขาก็อยากจะคุยกับแม่ของน้องอยากเดียวเลย  พอแม่น้องกลับมาถึงบ้าน แม่ก็บอกว่า แม่เหนื่อยเดี๋ยวค่อยคุยกันดีกว่า  แค่นั้น ตัวเขาก็บอกลูกผมว่า “ไปซอล” และออกจากบ้านไปเลย ตั้งแต่วันที่ 8 ก.พ. จากนั้นวันที่ 9 ก.พ. ผมพยายามติดต่อลูกไป เขาไม่รับสาย ไม่อ่านไลน์ เราไม่รู้เหตุผล พยายามคุยดีๆ ทุกอย่าง เขาก็ไม่อ่านไลน์ ไม่คุยกับผม จนมันผ่านจากสัปดาห์ เลยมาถึงเดือน กลายเป็นเกือบปี”

.

เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่า คิดว่าที่ผ่านมาทางครอบครัวคิดว่า มีความผิดพลาดตรงไหน หรือไว้ใจคนผิดหรือไม่ พ่อของนางเอกสาว กล่าวว่า ที่ผ่านมามีผู้ชายมาจีบลูกสาวตนเยอะ แต่สำหรับคนนี้คือมาเร็วไปเร็ว  เพราะเจอกันในงานบรรจุข้าวเปลือกพอเพียง ที่ทำเนียบรัฐบาล ช่วงประมาณเดือนพฤศจิกายนปี 2559  หลังจากนั้น ลูกสาวพามาแนะนำให้ตนรู้จัก และได้พูดคุยกันแค่ไม่กี่ครั้งเท่านั้น โดยลูกเล่าให้ฟังว่า เจอกันที่งานบรรจุข้าวเปลือกพอเพียง และฝ่ายชายมาขอถ่ายรูป เลยแลกไลน์เพื่อพูดคุยกัน ซึ่งตนไมได้กีดกัน เพราะทุกคนต้องมีครอบครัว 

.

“พยายามบอกลูกตลอดว่า ให้ดูดีๆ เพราะคนที่จะมาเป็น พ่อที่ดีของลูก ไม่ได้หาง่าย แต่ผมเข้าใจ เพราะเป็นรักครั้งแรกของลูกสาว อาจจะมีความหลงเข้ามาปนอยู่ด้วย ที่ผ่านมาเราเก็บมาตลอด เพราะไม่อยากพูดอะไรที่ไม่ใช่ความจริง ตอนนี้ผมก็ยังไม่ได้คุยกับลูก เราเป็นโรคหัวใจอยู่ด้วย เครียดมากไม่ได้ อย่างไรเราก็มีลูกอีก 2 คน และภรรยาอีกคนหนึ่งที่ต้องดูแล  ผมคิดว่ารอให้ทั้ง 2 คน  ออกมาคุยเองดีกว่า เขาพากันไปยกเลิกสัญญากับทางช่อง 7 ด้วย ซึ่งผมก็ไม่รู้เรื่อง  มารู้ภายหลังว่า เขาน่าจะพากันไปยกเลิกสัญญาหลังจากวันที่เขาไปจดทะเบียนสมรส  ผมเลยคิดว่าตอนนั้นลูกน่าจะท้อง ผมมาสันนิษฐานเองว่าน่าจะเป็นแบบนี้ หลังจากมานั่งไล่เรียงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น”

.

คุณพ่อนึกคิด กล่าวต่อว่า กระแสสังคมตอนนี้ ถ้าใครไม่เป็นครอบครัวของตนและตัวลูกสาวคงไม่เข้าใจ  และไม่ว่ายังไง ตนขอให้ทั้งสองคนอยู่กันตลอดรอดฝั่ง  “ผมภาวนาให้เขาประสบความสำเร็จ และอยู่ด้วยกันไปตลอดรอดฝั่ง  เราเลี้ยงลูก เราเลี้ยงได้แต่ตัวจริงๆ ถามว่าถ้าเขาพาหลานมาไหว้ขอขมาจะว่ายังไง ผมยังไม่รู้เลย ยังคิดไม่ออกเหมือนกัน”

.

ส่วนที่มีกระแสความคิดเห็นรุนแรงถึงขั้นกล่าวว่าลูกสาว “อกตัญญู” นั้น คุณพ่อนึกคิด กล่าวว่า ลูกสาวคงมีเหตุผลของตัวเอง และทุกฝ่ายก็ต่างเหตุผลในสิ่งที่เลือกทำ ตอนนี้ต้องรอดูว่าเรื่องราวจะจบลงอย่างไร  เพราะลูกใครๆ ก็รัก และเป็นห่วง ส่วนตัวตนไม่มีอะไรจะพูดมากกว่านี้ เพราะทางครอบครัวสภาพจิตใจ ยังไม่ดี

.

ด้านทางผู้ใหญ่วิกหมอชิต อดีตต้นสังกัดของกุญแจซอล คุณพ่อนึกคิด กล่าวว่า ขอบคุณผู้ใหญ่วิกหมอชิตที่เมตตาครอบครัวของตนมาโดยตลอด  พร้อมขอโทษแฟนคลับ และประชาชนแทนลูกสาวด้วยที่ทำให้ผิดหวัง ซึ่งทางผู้ใหญ่ยังมีความเมตตาในตัวลูกสาวอยู่ มีการพูดคุยกับภรรยาของตนเอาไว้ว่า หากลูกสาวจะกลับมาทำงานเมื่อไหร่  เอาไว้ค่อยว่ากันอีกครั้งหนึ่ง เพราะเรื่องที่เกิดไปแล้ว ยังไงก็ต้องเกิดขึ้น และทุกอย่างต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของความรับผิดชอบ 

.

คุณพ่อนึกคิด พูดทิ้งท้ายถึงแฟนหนุ่มของลูกสาวว่า ไม่ให้เกียรติตนและครอบครัว รวมถึงตัวลูกสาวของตนด้วย นอกจากนี้ยังมีพฤติกรรมที่ชอบบงการลูกสาว สั่งห้ามรับงาน ให้อยู่บ้านเฉยๆ แต่ลูกสาวตนยังอายุไม่มาก และมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบ โดยตอนที่ตกลงจะมาสู่ขอลูกสาวตน ฝ่ายชายก็ไม่ได้ให้เกียรติในสิ่งที่ควรจะทำอย่างเหมาะสมอีกด้วย.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน  

ขอบคุณภาพจาก :  อินสตาแกรม @gunjae_zol 
เข้าชม 260 ครั้ง
ดูข่าวเพิ่มเติม