“ชมพู่-น็อต” เล่าวินาที เห็นหน้าลูกแฝด

เรียกว่าเป็นคุณแม่สายสตรองจริงๆ สำหรับซุปตาร์สาวสุดฮอต “ชมพู่ อารยา” หลังจากผ่าคลอดลูกชายฝาแฝด “ธันเดอร์ ด.ช.สายฟ้า” และ “สตอร์ม ด.ช.พายุ รังษีสิงห์พิพัฒน์” ไปเมื่อวันที่ 6 ก.ย. ที่ผ่านมา ณ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ล่าสุดคุณแม่สุดฮอตก็ควงสามี “น็อต วิศรุต”  มาเปิดใจแถลงข่าวถึงเรื่องน่ายินดี ที่ถือเป็นวาระแห่งชาติครั้งสำคัญในครอบครัวของซุปตาร์สาว ซึ่งคนทั้งประเทศให้ความสนใจ ณ ศูนย์ประชุม ห้อง A-B, ชั้น 21 อาคารบำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล คลินิก (อาคารผู้ป่วยนอก) บรรยากาศเต็มไปด้วยกองทัพสื่อมวลชนที่มารอเตรียมพร้อมทำข่าวในงานนี้ นอกห้องแถลงมีบู้ทอาหารและเครื่องดื่มเอาไว้รับรองผู้สื่อข่าวเพียบ เรียกว่าจัดเต็มสุดๆ  


.

เมื่อเวลา 15.30 น. ซุปตาร์สาว “ชมพู่ อารยา” พร้อม “น็อต วิศรุต” สามี ได้เดินเข้ามาที่โต๊ะแถลงข่าว โดยคุณแม่มือใหม่เป็นคนเริ่มเปิดใจก่อนว่า


ชมพู่ : “ยังงงๆ นิดหน่อยว่าใช่แล้วเหรอ แต่ก็มีความสุขดีค่ะ เหนื่อยๆ แต่มันดีเหมือนกัน ความรู้สึกตอนเข้าห้องคลอด คือจริงๆ ค่อนข้างวางใจทางทีมแพทย์ ชมค่อนข้างคิดบวกกับการท้องครั้งนี้ ถ้าเราทำทุกอย่างมาดีก็จะราบรื่น เลยค่อนข้างจะชิล ก็ใช้เวลาไม่นานค่ะ แต่สแตนด์บายนานมาก ตอนผ่าจริงๆ แป๊บเดียว”

น็อต : “จริงๆ ก็เห็นหน้าลูกพร้อมกัน ชมมีสติตลอดเวลา ไม่หลับเลย คุณหมออีกท่านก็ชวนเราคุย”

ชมพู่ : “ตอนคลอดก็เห็นสายตาของเขาก่อน”


น็อต : “ก็เห็นคุณหมอดึงออกมาแล้วน้องร้องเสียงดังมาก ทีมงานก็อุ้มออกไป แล้วพายุก็ออกมา ตอนนั้นยังตื่นเต้นอยู่ ลุ้นคนแรกแล้วก็ลุ้นคนต่อไปด้วย หลังจากนั้นก็น้ำตาซึม ตอนคลอดเส็จแล้วคุณหมอก็พาน้องมาให้ดู”

ชมพู่ : “ก็เช็คก่อนว่าสาย ฝ. หรือสายตี๋ (ยิ้ม) อย่างคนแรกจะมาทางเรา ส่วนอีกคนสายตี๋”

น็อต : “แต่ผมว่าสายฟ้าออกจะตี๋ๆ มากกว่า อีกคนจะตาโตหน่อย ในห้องคลอดวันนั้นก็มีทีมอยู่ประมาณ 5-6 คน”

ตอนเห็นหน้าน้องเป็นยังไงบ้าง

ชมพู่ : “ตอนที่เอา 2 คนมาให้ดู เรายังนอนอยู่ เห็นแล้วก็ยังงงว่าเขาอยู่กันได้ไง เพราะตอนท้องก็รู้สึกว่าเขาหนักมาก ก็ถือว่าเขาตัวใหญ่พอสมควร”

ที่มาของชื่อสายฟ้าและพายุ

ชมพู่ : “ชื่อสายฟ้ามาจากธุรกิจของคุณน็อตคือเกี่ยวกับไฟฟ้า”

น็อต “ก็ตัดคำว่าไฟออก เลยเป็นสายฟ้า พอถามชม เขาก็ให้ลูกอีกคนชื่อพายุ มาคู่กันพอดี”

ฤกษ์ที่ดูมาใครเป็นคนดูให้

น็อต : “เป็นของอาจารย์เกรียงไกร (ซินแสเกรียงไกร บุญธกานนท์) ดูตั้งแต่ฤกษ์แต่งจนฤกษ์คลอดครับ ฤกษ์ที่ให้มาเป็นฤกษ์วันเดียวเลย”

ชมพู่ :  “ชมก็มีหน้าที่อั้นให้อยู่ (ยิ้ม) เพราะเด็กแฝดก็ค่อนข้างยากเหมือนกัน”

น็อต : “ต้องชื่นชมมากว่าทำได้ เพราะบางคนท้องลูกคนเดียว 36 สัปดาห์ยังยาก แล้วนี่เป็นลูกแฝดด้วย”

ชมพู่ : “ก็พยายามออกกำลังกายให้ช่วงล่างเราแข็งแรง หมอก็ต้องให้ฮอร์โมนประคองไปด้วย และท่าออกกำลังกายก็เน้นช่วงเชิงกรานเพื่อรับน้ำหนักของน้องให้อยู่ จริงๆ ก็ดีทั้งกับเราและเขาด้วย พอเขาออกมาอวัยวะของเขาทุกอย่างมันก็มีฟังก์ชั่นได้หมด การออกกำลังกายชมว่าทำให้ชมสามารถรับน้ำหนักน้องได้จน 37 สัปดาห์”

น็อต : “หมอชมว่ามีแต่กล้ามท้อง ไม่มีไขมันเลย”

ชมพู่ : “ตอนท้องน้ำหนักขึ้นมา 10 กก. ค่ะ แต่ยังเหลือน้ำคร่ำในท้องนิดหน่อย ด้วยความที่ชมต้องโฟกัสกับสิ่งที่ต้องทำมาก เราต้องทำให้ได้ เราคิดถึงสิ่งที่ทำตรงหน้า ตอนนั้นยังพักฟื้น สายฟ้าเข้ามาก็ให้เข้าเต้าเลย เราก็กังวลว่าจะมีนมให้เขาไหม แต่ตอนนี้มีสต๊อกให้เขาแล้วแต่ไม่ได้เยอะมาก”

สุขภาพน้องเป็นไงบ้าง

น็อต : “ก็โอเคครับ คุณหมอตรวจทุกวันก็บอกว่าแข็งแรงดี แต่เรายังไม่กลับบ้านครับ”

ชมพู่ : “ก็รอให้ทุกอย่างเซ็ตเป็นระบบก่อนแล้วค่อยกลับบ้าน จะได้ไม่ต้องไปงมอะไรมาก ตอนนี้ก็คงอยู่ไปก่อนค่ะ ต่อให้มีคนช่วยก็ลักษณะเป็นมือเป็นไม้มากกว่า แต่คงไม่ได้เลี้ยงให้เรา ปีแรกเราก็ไม่ได้รับละครอยู่แล้ว จะทุ่มเทเวลาให้ลูก”

น็อต : “ตอนนี้ก็หัดอุ้ม หัดประคองครับ”

ชมพู่ : “ตอนนี้โดดเรียนเรื่องอาบน้ำให้ลูกค่ะ รอเรื่องปั๊มนมให้ลูกก่อน”

ที่บ้านเตรียมความพร้อมยังไงบ้าง

ชมพู่ : “ก็เตรียมค่ะ แต่มันไม่ได้มีความพร้อม 100% เพราะมันเป็นสิ่งที่เราไม่เคยเจอ มันลุ้นไปในแต่ละวัน”

ถามถึงภาพครอบครัว

ชมพู่ :  “ก็คิดว่าอยากมีภาพครอบครัวสวยๆ แหละ เราอยากเก็บเรื่องราวดีๆ อยากทำดีๆ ให้เขาแค่นั้นเอง ส่วนที่หลายคนมองว่าเป็นปรากฏการณ์ ก็กลัวว่าจะไม่ค่อยสวยไงเลยถ่ายแบบนั้น ถ้าคนชมว่าสวยก็ ขอบคุณค่ะ”

เห็น “กาละแมร์ พัชรศรี” กับ “ม้า อรนภา” บอกว่าเรากังวลเรื่องแผล

ชมพู่ :  “จริงๆ วางใจคุณหมอแหละค่ะ แต่ก็มีนิดนึง”

น็อต : “เขาก็กังวลว่าแผลเย็บสวยรึเปล่า (ยิ้ม)”

ชมพู่ : “ตอนที่เขากำลังเย็บแผลก็บอกเขาก่อนจะหลับไปว่าไม่ต้องรีบนะคะ เย็บสวยๆ นะคะ (ยิ้ม) ตอนนี้ยังเจ็บบ้างแต่เจ็บปกติ แต่เชื่อว่าคนที่ผ่านตรงนี้ทุกคนก็ต้องเจ็บค่ะ”

วางแผนจะมีลูกอีกไหม

ชมพู่ :  “ขอพักก่อนค่ะเพราะลูกแฝดก็หนักเหมือนกัน”

น็อต : “ก็ยังอยากมีเป็นทีมฟุตบอลอย่างที่ตั้งใจ แต่ตอนนี้ก็พักก่อนแล้วกัน”

เพื่อนๆ มารับขวัญหลานเยอะไหม

น็อต : “เพื่อนๆ ก็ทยอยเข้ามาเยี่ยม มารับขวัญเหมือนกัน”

แพลนอนาคตให้ลูก

ชมพู่ : “ของคุณน็อตจะมองอนาคตไกลๆ แต่ชมจะคิดถึงปี 2 ปี ข้างหน้า ตอนนี้ก็จองเนิร์สเซอรี่เหมือนกัน ขนาดรีบจองก็เกือบไม่ทันเหมือนกัน”

น็อต : “เราก็วางไว้ถึงเยียร์ 12 ประมาณ ม.6 ก็คิดแผน 1 แผน 2 ไว้ ก็มีลองสมัครเข้าไปบ้าง”

น้องกลายเป็นขวัญใจวัยแรกคลอด

ชมพู่ : “ก็ไม่ได้คาดหวัง แต่ดีใจที่ทุกคนรักเขา จนถึงตอนนี้ยังไม่ได้ถ่ายรูปลูกเองเลยค่ะเพราะง่วนเชียงมาก”

เรื่องงานของชมพู่จะว่ายังไง

ชมพู่ : “ก็คงอีกสักพักเลยกว่าจะทำงานได้ ภายในปีนึงคงเป็นงานที่ทำวันเดียวจบ แต่ถ้างานละครคงพักสักปีก่อนค่อยว่ากัน”

จะพาลูกเข้าวงการไหม

น็อต : “จริงๆ ผมอยากให้เป็นนักบอลครับ (ยิ้ม)”

ชมพู่มองคำว่า “แม่” เปลี่ยนไปไหม

ชมพู่ : “เรายังรู้สึกว่า ยังเป็นเรา แต่เป็นเรื่องของการเรียนรู้ เหมือนเรามาทำความรู้จักกันใหม่ มันดีค่ะ เป็นอะไรที่ท้าทาย เป็นสิ่งที่เราตั้งตารอค่ะ ส่วนจะลดน้ำหนักเท่าไหร่ก็ไม่ได้กังวลอะไรมากเพราะน้ำหนักไม่ได้ขึ้นมาเยอะมากค่ะ”

เราแยกออกไหมว่าคนไหน “สายฟ้า” หรือ “พายุ” 

น็อต : “สายฟ้าจะขมวดคิ้วตลอด พายุจะนอนนิ่งๆ แต่ทั้งสองคนจะนอนท่าเดียวกับคุณแม่คือนอนยกมือ (ยิ้ม)”

คนมองว่า “ชมพู่” ไม่ทิ้งลายแฟชั่นนิสต้า ใส่กางเกงยีนตั้งแต่วันแรก

ชมพู่ : จริงๆ มันเป็นกางเกงยีนที่ใส่ง่ายๆ เป็นกางเกงยีนคนท้อง ใส่สบายดี แต่ชุดหลักๆ เราก็ไม่ได้ใส่แบบนั้น เราก็ใส่ชุดของโรงพยาบาลนะ “

เรื่องแฟชั่นจะลามมาถึงลูกไหม

ชมพู่ : ก็คิดว่าถ้ามีแรงเราคงสนุกกับเขาแหละ (ยิ้ม) ถามว่าชมเตรียมเสื้อผ้ามาโรงพยาบาลเยอะมั้ย เตรียมมา แต่เอาจริงๆ เราก็ยังไมได้ใส่นะ ใส่แต่ชุดของโรงพยาบาล เพราะชมยังไม่มีเวลา หรือมีแรง ชมให้ความสำคัญเรื่องน้ำนมเป็นอันดับ 1 อยู่เลย แค่เรื่องน้ำนมก็หมดวันแล้ว . -ไนน์เอ็นเตอร์เทน

เข้าชม 380 ครั้ง
ดูข่าวเพิ่มเติม