ประเดิมกันที่นักร้องหนุ่มวัย 23 ปี “จัสติน บีเบอร์” ที่ถึงกับเงิบ เมื่อสำนักงานวัฒนธรรมกรุงปักกิ่ง ตัดสินใจลงดาบนักร้องขวัญใจวัยทีนทั่วโลก หมาดๆ เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคมที่ผ่านมา ด้วยการสั่งห้ามเปิดคอนเสิร์ตที่แดนมังกรในเดือนกันยายนนี้ เพราะ “พฤติกรรมไม่เหมาะสม” ต่างๆ ของเขา ทำให้ภาครัฐไม่ปลื้ม และไม่รู้ว่าเสียศูนย์หรือเซ็งกับเรื่องนี้ รวมถึงข่าวแย่ๆ ตลอดการตะลอนออนทัวร์กว่า 18 เดือนที่ผ่านมารึเปล่า หนุ่มบีเบอร์เลยตัดสินใจประกาศยกเลิกการทัวร์คอนเสิร์ต Purpose World Tour ที่เหลืออีก 14 รอบซะดื้อๆ ด้วยเหตุผลสุดคลุมเครือว่าเนื่องจากสถานการณ์ที่คาดไม่ถึง แม้จะเสียใจที่ทำให้ทุกคนผิดหวังก็ตาม นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ป๊อปสตาร์ชาวแคนาดาหมดสิทธิ์ไปสร้างความสุขให้แฟนเพลงในต่างแดน ถ้ายังจำกันได้เมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว (2016) เขาก็ไม่สามารถไปเหยียบอาร์เจนติน่า เพราะมีคดีติดตัวจากกรณีที่เขาสั่งให้บอดี้การ์ดไปทำร้ายช่างภาพคนหนึ่ง จนได้รับบาดเจ็บ แถมไม่ยอมเดินทางไปขึ้นศาลเพื่อสู้คดี จึงโดนออกหมายจับไปตามระเบียบ เท่านั้นไม่พอเขายังเคยก่อคดี โยนธงชาติอาร์เจนติน่าลงกับพื้นและใช้เท้าเขี่ยให้พ้นทาง ซึ่งถือเป็นการกระทำผิดกฎหมายอาร์เจนติน่าอย่างร้ายแรง เรียกว่าถ้าจัสติน บีเบอร์ ย่างเท้าเข้าอาร์เจนติน่าปุ๊บ ก็จะต้องโดนรวบตัวทันที
ขณะเดียวกันคอนเสิร์ตของวงร็อคชื่อดัง Maroon 5 ที่นครเซี่ยงไฮ้ประเทศจีน เมื่อเดือนกันยายนปี 2015 ก็มีอันต้องเป็นหมันแบบกะทันหัน ซึ่งคาดว่าสาเหตุมาจากการที่ “เจสซี่ คาร์ไมเคิล” หนึ่งในสมาชิกวง Maroon 5 ไปพบปะและฉลองวันคล้ายวันประสูติองค์ดาไล ลามะ ผู้นำทางจิตวิญญาณของทิเบตนั่นเอง
ไม่ต่างกับชะตากรรมของศิลปินอีกหลายราย เช่น วง Linkin Park/ Oasis และนักร้องสุดล้ำชาวไอซ์แลนด์ “บียอร์ก” ที่คยโดนแบนมาแล้ว เพราะแสดงออกและสนับสนุนการเป็นอิสระของทิเบต เพราะเป็นที่รู้กันดีว่าจีนกับ ทิเบต ไม่ลงรอยกันทางการเมือง เพราะจีนมองว่าทิเบตเป็นส่วนหนึ่งของจีน ขณะที่ทิเบตต้องการแยกตัวเป็นอิสระ
ฟากมาม่ามอนสเตอร์ “เลดี้ กาก้า” ก็ไม่สามารถทนแรงกดดันของกลุ่มผู้เคร่งศาสนาในอินโดนีเซียได้ ถึงขั้นประกาศยกเลิกคอนเสิร์ต The Born This Way Ball แดนอิเหนา เมื่อปี 2012 หลังขุ่นแม่กาก้า ถูกกลุ่มชาวมุสลิมผู้เคร่งศาสนาประท้วงต่อต้านด้วยเหตุผลว่าเสื้อผ้าอันน้อยชิ้นและท่าเต้นที่ดูยั่วยุทางเพศของเจ้าตัวเป็นบ่อยทำลายศีลธรรมอันดีและเป็นอันตรายต่อเยาวชน และหากกาก้ายืนยันจะจัดคอนเสิร์ตต่อไป ก็ต้องลดดีกรีความแรงลง ซึ่งกลุ่มผู้ต่อต้านได้ประท้วงอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งตำรวจต้องออกปากว่าไม่สามารถรับรองเรื่องความปลอดภัยได้ ผู้จัดจึงต้องประกาศยกเลิกคอนเสิร์ตในที่สุด
ปิดท้ายด้วยนักร้องสาวผู้ล่วงลับ “เอมี่ ไวน์เฮ้าส์” ที่ถูกห้ามเข้าสหรัฐอเมริกาถึงสองครั้งสองครา ครั้งแรกเกิดขึ้นเมี่อปี 2007 หลังจากถูกจับในข้อหาครอบครองยาเสพติดที่นอร์เวย์ จนทำให้รัฐบาลเมืองลุงแซมปฏิเสธการออกวีซ่าให้นักร้องมากความสามารถ ซึ่งส่งผลให้เธอชวดการไปร่วมงานและขึ้นโชว์แบบตัวเป็นๆ ในการประกาศรางวัลแกรมมี่ สุดท้ายจึงต้องถ่ายทอดโชว์สดๆ ผ่านระบบดาวเทียมแทนค่ะ ส่วนอีกครั้งเกิดขึ้นในอีก 2 ปีถัดมา ซึ่งเป็นผลจากคดีพัวพันการทำร้ายร่างกายผู้อื่น จึงอดไปแสดงในเทศกาลดนตรีระดับโลกอย่าง Coachella ในปีนั้น
