ศาลพิพากษาจำคุก “น็อต กราบรถ” รอลงอาญา 2 ปี ทำงานบริการสังคม

หลังอัยการยื่นฟ้องนายอัครณัฐ หรือน็อต อริยฤทธิ์วิกุล อดีตพิธีกรรายการชื่อดัง และนายวิทวัส ศรีบัณฑิตมงคล เพื่อนของนายอัครณัฐ ตกเป็นจำเลย ในฐานความผิด ร่วมกันทำร้ายนายกิตติศักดิ์หรือบอย สิงห์โต พนักงานคัดกรองเอกสาร สำนักงานสรรพากรพื้นที่ตลิ่งชัน ผู้เสียหายคู่กรณีที่ขี่รถจักรยานยนต์เฉี่ยวชน รถยนต์ยี่ห้อ “ มินิ” ของนายอัครณัฐ จำเลยที่ 1 โดยใช้ฝ่ามือตบที่ใบหน้าของผู้เสียหาย 2 ครั้ง และต่อยที่บริเวณใบหน้าอีก 1 ครั้ง ทำให้กระดูกจมูกชิ้นใหญ่จำนวน 4 ชิ้นหักและกระดูกจมูกชิ้นเล็กอีกจำนวนหลายชิ้นหัก รวมทั้งมีบาดแผลฟกช้ำบริเวณเบ้าตาทั้ง2ข้างได้รับอันตรายสาหัส เและยังบังคับให้นายกิตติศักดิ์ ผู้เสียหายกราบรถ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2559 


โดยในวันนี้ ( 30 มิ.ย.60) นายอัครณัฐ เดินทางมาฟังคำพิพากษาพร้อมครอบครัว ซึ่งศาลได้พิเคราะห์พยานหลักฐานโจทย์และจำเลยแล้วเห็นว่าจำเลยทั้ง 2กระทำผิดจริง พิพากษาจำคุก นายอัครณัฐ กับเพื่อนคนละ 2 ปี ซึ่งเป็นโทษหนักสุดในฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส แต่จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 ปี และจำเลยไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อนโทษจึงให้รอลงอาญา 2 ปี  โดยให้ทำงานบริการสังคมด้วย คนละ 24 ชั่วโมงและ ควบคุมความประพฤติ เป็นเวลา 1 ปี  พร้อมรายงานตัวทุกๆ 3 เดือน จำนวน 4 ครั้ง 

ด้านนายอัครณัฐ  กล่าวขอบคุณศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ให้ความเมตตา ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นบทเรียนที่มีค่าให้กับตนเองทั้งในเรื่องความรับผิดชอบและความมีสติ จึงอยากฝากไปถึงผู้ที่ใช้รถใช้ถนนทุกคน ให้ใจเย็น และรับผิดชอบหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ส่วนงานบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ ตั้งใจจะทำงานสอนหนังสือเด็ก 


อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ศาลได้ไกล่เกลี่ยค่าเสียหายทางแพ่งสำเร็จเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม ที่ผ่านมานายอัครณัฐ รับสารภาพ ยอมชดใช้ให้นายกิตติศักดิ์ ผู้เสียหาย 1 แสน 8 หมื่นบาท ทำดั้งจมูก ซึ่งนายกิตติศักด์ ในฐานะโจทย์ร่วมจะไม่อุทธรณ์คดีเนื่องจากมีการเยียวยาเป็นเงิน 1 แสน 8 หมื่นบาท แล้ว

นายสงกรานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ทนายโจทย์ร่วม กล่าวว่า  คดีที่นายอัครณัฐ แจ้งความดำเนินคดีกับนายกิตติศักดิ์ ฐานขับรถหลบหนีหลังเกิดเหตุเฉี่ยวชน ขณะนี้พนักงานสอบสวน สน.ยานนาวา ได้สั่งฟ้องและส่งสำนวนให้อัยการศาลแขวงพนะนครใต้ แต่นายกิตติศักดิ์ ได้ยื่นคำร้องขอความเป็นธรรมเนื่องจากเสียค่าปรับไปแล้ว จำนวน 400บาท และอัยการยังไม่มีคำสั่งทางคดี :-สำนักข่าวไทย 

เข้าชม 12 ครั้ง


ดูข่าวเพิ่มเติม