กว่าจะก้าวมาเป็นซูเปอร์สตาร์และทำงานเพื่อสังคมจนหลายคนชื่นชมอย่างที่เห็นทุกวันนี้ “แองเจลิน่า โจลี่” ก็มีประวัติโชกโชนไม่น้อยเลย รวมถึงเรื่องราวกว่าจะได้รับบทนำในหนัง Lara Croft: Tomb Raider เมื่อปี 2001 ก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน
เพราะล่าสุด “เชอร์รี่ แลนซิ่ง” อดีตผู้บริหารค่าย Paramount Pictures วัย 72 ปี ได้เผยในหนังสืออัตตชีวประวัติเล่มใหม่ Leading Lady ที่จะวางแผงปลายเดือนเมษายนนี้ รวมถึงให้สัมภาษณ์กับสื่อ The Hollywood Reporter ว่าหนัง Tomb Raider เป็นอีกหนึ่งในภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จของค่าย โดยกว่าจะตกลงเลือกโจลี่มารับบทนำ ทางค่ายก็คิดกันอยู่พักใหญ่เลยทีเดียว เพราะตอนนั้นโจลี่กำลังมีปัญหาเรื่องยาเสพติด ก็เลยไม่ค่อยจะมั่นใจ เนื่องจากเกรงว่า หากเปิดกล้องถ่ายทำไปแล้วโจลี่จะหนีหายกลางคันจะเกิดความเสียหายได้
ซึ่งทาง ไซมอน เวสต์ ผู้กำกับของเรื่องก็แก้ปัญหานี้ด้วยการบินไปหาโจลี่ที่กองถ่ายหนังเรื่องอื่นในเม็กซิโกเพื่อขอความเชื่อมั่น โดยทางโจลี่ที่อยากเล่นหนัง Tomb Raider เป็นทุนเดิมอยู่แล้วนั้น ยอมทำทุกอย่างเพื่อพิสูจน์ตัวเองว่าเหมาะสมที่จะเล่นหนังเรื่องนี้ ซึ่งนั่นก็หมายถึง เธอยอมให้ตรวจหาสารเสพติดในร่างกายทุกวัน หากทางสตูดิโอต้องการ
เรียกว่าในช่วงเวลานั้น ทางค่ายรู้สึกกังวลไม่น้อย ที่ต้องบังคับให้โจลี่ตรวจสารเสพติด เพราะไม่ใช่แค่การตรวจปัสสาวะ แต่เป็นการเจาะเลือด สุดท้ายแล้วนางเอกคนดังก็พิสูจน์ตัวเองจนสำเร็จ เป็นสาวทูมไรเดอร์ในใจของแฟนหนังหลายต่อหลายคนจนถึงทุกวันนี้